นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้าการตรวจสอบเครือข่ายองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคระดับท้องถิ่น แจ้งข้อมูลเท็จในการจดแจ้งจัดตั้งองค์กรคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งตามกฎหมายรัฐบาลต้องจ่ายเงินอุดหนุน 350 ล้านบาท แต่ข้อเท็จจริงพบว่า เครือข่ายองค์กรไม่ได้ดำเนินการจดแจ้งให้ถูกต้องกฎหมาย โดยนายศรีสุวรรณ กล่าวว่า หลังจากที่เครือข่ายสื่อมวลชนปกป้องผลประโยชน์ชาติ นำข้อมูลหลักฐานมามอบให้ตนเอง ถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ประชาชนควรต้องให้ความสนใจและร่วมตรวจสอบ กรณีที่รัฐบาลต้องจ่ายเงินอุดหนุนให้กับสภาองค์กรผู้บริโภคถึงปีละ 350 ล้านบาท
หากศึกษากฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งสภาองค์กรผู้บริโภคปี 2562 ต้องมีสมาชิกอย่างน้อย 150 องค์กรทั่วประเทศ และต้องมีผลงานเป็นที่ประจักษ์อย่างน้อย 2 ปี ซึ่งผลงานถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ ว่าองค์กรบริโภคเหล่านี้ ดำเนินการเจตนารมณ์ตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในเรื่องของการปกป้องคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหลายสิบปี มีองค์กรที่คุ้มครองผู้บริโภค ไม่ถึง 10 องค์กรด้วยซ้ำ
แต่หลังจากที่กฎหมายการจัดตั้งสภาองค์กรผู้บริโภคเกิดขึ้นเมื่อปี 62 กลับมีองค์กรผู้บริโภคเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากถึง 150 องค์กร จึงตั้งข้อสังเกตว่า เป็นไปได้อย่างไร ตนเองไม่เชื่อว่า องค์กรที่อยู่ดีๆ เพิ่มขึ้นมากกว่า 150 องค์กรจะมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ เชื่อว่าจะต้องมีขบวนการ นำเงินงบประมาณแผ่นดิน เข้าผลประโยชน์ตนเองอย่างไม่ต้องสงสัย
นายศรีสุวรรณ ยังบอกด้วยว่า จากการตรวจสอบองค์กรผู้บริโภคที่ตั้งขึ้นมา บางองค์กรแม้แต่หน่วยงานสถานที่ตั้งยังไม่มี พอไปถามหน่วยงานท้องถิ่นก็ไม่รู้จักองค์กรผู้บริโภคเหล่านี้ พร้อมยืนยันว่า จะยื่นเรื่องนี้ไปยังผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ส่งเรื่องไปยังศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่า การจัดตั้งองค์กรผู้บริโภคน่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อให้ดำเนินการกับองค์กรเถื่อน หรือบุคคล ที่ตั้งสภาองค์กร แอบอ้างนำงบประมาณเข้าผลประโยชน์ส่วนตัวมาลงโทษให้ได้