ธรรมนัสควงเพื่อไทย เปิดหน้าล้มประยุทธ์

หลังเขี่ยบิ๊กน้อยพ้นทาง  อ้างชาวบ้านบอกบ้านเมืองบอบช้ำการเมืองถึงเวลาต้องเปลี่ยนแปลง   เล็งคุยส.ส.พรรคเล็กกล่อมล้มรัฐบาลคว่ำบิ๊กตู่   ชลน่านหน้าไม่อาย  ประกาศจะคว่ำงบประมาณปี 66 บอกนายกฯเตรียมยุบสภาหรือลาออกได้เลย  อ้างคิดแล้วได้ประโยชน์กับชาวบ้านมากกว่า  บอกได้เลยฝันกลางวันคว่ำนายกฯล้มประยุทธ์ไม่มีทางสำเร็จ พรรคเล็กไม่เอาด้วย รัฐบาลยังมีออปชั่น “งูเห่า” เป็นตัวช่วยก๊อก 2  คนดีไม่มีวันแพ้ภัยคนโกง

หลังจากทำตัวลับๆล่อๆมาพรรคใหญ่ว่าจะไปทางไหนกันแน่ระหว่างสนับสนุนรัฐบาลหรืออยู่ตรงข้ามนายกฯ  ล่าสุด “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ก็ออกมาส่งสัญญาณชัดเจนแล้วว่า จะอยู่ฝากไหนจะไปกับใครระหว่าง ฝาก “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯคนปัจจุบัน กับ ฝั่ง “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคดีในต่างแดน   หลังอ้างว่าระหว่างลงพื้นที่พบปะกับชาวบ้านตั้งแต่เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรรณ์   เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ  เรื่อยมาจนถึงเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย ชาวบ้านบอกว่าตอนนี้ชีวิตความเป็นอยู่ๆในภาวะวิกฤติ คนไทยเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส  บ้านเมืองบอบช้ำมามากถึงเวลาที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แม้จะไม่กล้าออกตัวชัดๆว่าอยู่คนละข้างกับพล.อ.ประยุทธ์แล้วแต่นัยยะที่ร.อ.ธรรมนัสแถลงข่าวหรือไปพูดให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อก็ชัดเจนว่าไปคนละทางอยู่คนละข้างตรงข้ามกัน

และยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีกหลังเกิดปรากฎการณ์แตกหักภายในพรรคเศรษฐกิจไทย  เมื่อกรรมการบริหารพรรค 15 คนลาออกส่งผลให้ทุกตำแหน่งในพรรคก่อนหน้านี้ต้องพ้นสภาพตามไปด้วย อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากกรณีที่เกิดกระแสข่าวว่า “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา หัวหน้าพรรครู้สึกอึดอัดกับการทำงานในพรรค  เพราะเกิดความเห็นไม่ลงรอยกับร.อ.ธรรมนัสในหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ผู้กองกระเหี้ยนกระหือรือที่จะล้มพล.อ.ประยุทธ์จะคว่ำรัฐบาลเรือแป๊ะให้จงได้  แต่ฝ่ายบิ๊กน้อยเห็นแย้งว่าไม่เหมาะไม่ควรที่พุ่งเป้าหมายพรรคไปที่เรื่องนั้นเพียวๆ  ควรทำเรื่องปากท้องเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนก่อนไม่ใช่มุ่งแต่เอาชนะทางการเมือง “ หรือการที่ผม ยึดมั่นอยู่เคียงข้างประชาชน เน้นปรองดองทุกฝ่าย มุ่งยุติความขัดแย้ง รับฟังคนทุกเพศวัย ตั้งใจดูแลทุกข์สุขของประชาชน และคนในพรรค สนับสนุนประชาธิปไตยนั้น เป็นสิ่งผิด ผมต้องขอโทษทุกท่านครับ ผมเพียงอยากมองเห็นประเทศไทยเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เพื่อลูกหลานของเราสืบไปครับ” บิ๊กน้อยโพสต์เฟซบุ้คความในใจ  ก่อนที่จะให้สัมภาษณ์สื่อหลายแห่งในทำนอง  เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อสร้างความปรองดองยุติความขัดแย้งทำงานเพื่อประชาชน  ไม่ได้ต้องการเขามาหนุนหรือมาล้มล้างใคร

ชัดเจนว่าเมื่อความคิดความเห็นไม่ตรงกัน ก่อนหน้านี้จึงมีกระแสข่าวว่าบิ๊กน้อยอึดอัดอยากลาออก เพราะพูดคนละภาษาสนทนากับคนละคีย์กับผู้กอง ก่อนที่ฝั่งบิ๊กน้อยจะไขก๊อกชิงลาออกทิ้งหัวหน้า  ฝ่ายผู้กองก็เลยใบสั่งระหว่างเดินทางอยู่ที่สิงคโปร์ให้กรรมบริหารพรรคก๊วนตัวเอง 15 คนชิงลาออกล้างไพ่ก่อนจะถูกปรามาสว่าถูกบิ๊กน้อยทิ้ง รอบนี้ร.อ.ธรรมนัสออกตัวแรงชัดเจนอัดบิ๊กน้อยอ่อนประสบการณ์ทางการเมือง อาจจะเป็นทหารอาชีพแต่เป็นนักการเมืองสมัครเล่น เหลี่ยมคมยังไม่มีบารมียังไม่พอ  ถูกบิ๊กน้อยทิ้งไปคราวนี้ร.อ.ธรรมนัสจึงเหมือนหัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีบิ๊กป้อมคุมหัวไม่มีบิ๊กน้อยคุ้มกบาล จึงไม่แปลกที่จะไปเข้าร่วมจูงมือกับพรรคเพื่อไทยได้ง่ายเดินกับฝ่ายทักษิณได้สบาย เพราะก่อนหน้านี้เมื่อการอภิปรายไม้ไว้วางในนายกฯรอบก่อน ก็เป็นข่าวใหญ่โตมาครั้งหนึ่งแล้วเรื่องผู้กองจับมือกับนายใหญ่คนแดนไกลล้มพล.อ.ประยุทธ์  แต่แผนแตกถูกจับได้เสียก่อนเลยถูกนายกฯปลดออกเฉดหัวพ้นครม.

มารอบนี้ได้ทีโอกาสเหมาะเพราะนายกฯกำลังขาลงรัฐบาลกำลังตกต่ำ แถมให้บังเอิญดันเกิดเรื่องพรรคแตกแยกทางกันเดินระหว่างบิ๊กน้อยกับผู้กอง  ใกล้ห้วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานที่จะมีการจับพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเขียงพอดี  เพราะมีด่านสำคัญ 3 ด่านรอให้ฝ่ายค้านฝ่ายตรงข้ามรอเชือดนายกฯอยู่พอดี   ไล่ตั้งแต่การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ที่จะเข้าสภาวาระแรก 31 พ.ค.-2 มิ.ย.  จากนั้นก็มีกฎหมายลูก 2 ฉบับสำหรับการเลือกตั้งที่กำหนดเข้าสภาวาระ 2 และ 3 ในวันที่ 9 – 10 มิ.ย.นี้  เสร็จจากนั้นฝ่ายค้านก็จ่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจซักฟอกนายกฯและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล   เบื้องต้นกำหนดคร่าวๆ ถ้าไม่ปลายเดือนมิ.ย.ก็เลยไปต้นก.ค.   งานนี้ไม่รู้ว่าฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยนกรู้หรือมีเตรียมการวางแผนกันไว้แล้ว  หลังร.อ.ธรรมนัสแถลงเปิดใจขอนำพรรคเศรษฐกิจไทยเดินคนละทางกับรัฐบาลอยู่ตรงข้ามกับนายกฯ  ล่าสุดเตรียมนัดคุยกล่อมพรรคเล็กเป็นแนวร่วม 26-27 พ.ค.นี้     ฝ่ายหมอชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็รับลูกเร่งปิดเกมส์ประกาศเตรียมคว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ทันที พูดชัดดูข้อกฎหมายศึกษาความเป็นไปได้ไว้แล้ว    ตีตกงบประมาณตอนนี้นายกฯต้องรับผิดชอบ 2 สถาน ถ้าไม่ยุบสภาก็ต้องลาออก   “ถ้าสภาไม่ให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.งบรายจ่ายฯ จะส่งผลถึงนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ซึ่งมีทางเลือก 2 ทาง คือ ยุบสภา หรือลาออก  แม้ร่าง พ.ร.บ.งบจะไม่ผ่าน ก็สามารถใช้งบประมาณเดิม คือ พ.ร.บ.งบ 2565 ไปพลางก่อนได้  เว้นแต่เป็นเรื่องงบลงทุนที่จะสร้างใหม่….ถ้าหากปล่อยไปอาจจะกระทบต่อพี่น้องประชาชนมากกว่า นี่เป็นทางเลือกที่จะต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน เพราะการไม่ให้ผ่านอาจจะเกิดประโยชน์กับประชาชนมากกว่า แล้วปล่อยให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาจัดสรรงบประมาณแทน”  ชลน่านพูดชัดอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ แอบอ้างผลประโยชน์ประชาชนมาบังหน้า แท้จริงอยากเข้ามาเป็นรัฐบาลจัดงบประมาณเองจนตัวสั่น

ร.อ.ธรรมนัสจูงมือพรรคเพื่อไทย เปิดหน้าล้มพล.อ.ประยุทธ์คราวนี้    พูดกันให้แซ่ดว่ามีเดิมพันสูง จริงเท็จไม่มีใครรู้แต่พูดกันทั้งวงการว่ามีดีลลับกับนายใหญ่คนแดนไกล วางหมากไว้ 4 ขั้น ขั้นแรกล้มนายกฯในการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณประจำปี 2566 ให้ได้ ถ้าเอาไม่ลงก็มีเวทีอภิปรายไม่ไว้วางใจให้แก้มือ ขั้นสองเอาพรรคเศรษฐกิจไทยย้ายขั้วสลับข้างไปอยู่กับพรรคฝ่ายค้าน  ขั้นสามหอบส.ส.18 คนของพรรคเข้ามุ้งพรรคเพื่อไทยผสมพันธุ์ให้เป็นเนื้อเดียวกัน ขั้นสุดท้ายนายใหญ่วางตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคแขวนเก้าอี้เสนาบดีกระทรวงเกรดเอไว้ให้  หากพาพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลหาม “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกฯได้สำเร็จ  โกหกหรือจริงยังต้องพิสูจน์ตามดูกันต่อไป  ในทางทฤษฎีคิดแผนออกมาแบบนี้ก็พอฟังได้  แต่ในทางปฏิบัติทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ผู้กองฝันพรรคเพื่อไทยอยากทักษิณปรารถนา  คงไม่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก อย่าลืมว่าผู้นำประเทศตอนนี้ชื่อพล.อ.ประยุทธ์  เลือดเนื้อบูรพาพยัคฆ์หัวใจสีม่วงไม่มีทางยอมแพ้   แพ้ศึกเล็กอาจมีเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดาเพราะองค์ประกอบแต่ละศึกล้วนต่างกัน   แต่พ่ายสงครามใหญ่เสียประเทศ  โดยเฉพาะหากเดิมพันเป็นการชิงบ้านชิงเมืองบิ๊กตู่ไม่มีวันยอม

การเมืองช่วงนี้แม้กระแสนายกฯจะขาลงรัฐบาลกำลังตกต่ำพรรคพลังประชารัฐแตกพ่ายล้มหงายเก๋ง แต่คิดจะล้มพล.อ.ประยุทธ์คว่ำรัฐบาลเหมือนพลิกฝ่ามือบอกเลยไม่มีทาง แม้เสียงรัฐบาลจะปริ่มน้ำ แต่ตัวเลขล่าสุดที่เชคกันได้ในฝ่ายรัฐบาลอยู่ที่ 249 คน ส่วนพรรคฝ่ายค้านอยู่ที่ 209 คน และมีตัวแปรอย่างพรรคเศรษฐกิจไทย 18 คน  จากจำนวนส.ส.ที่เปิดสภาล่าสุดนับได้ 476 คน  ในฝ่ายรัฐบาล 249 คนที่ว่ามีกลุ่ม 16 ของพิเชษฐ สถิรชวาลกับส.ส.พรรคเล็กรวมอยู่ด้วย  โดยกลุ่มนี้มีส.ส.จำนวนทั้งสิ้น 18 คน ประกอบด้วย  1.พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ 2.คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังไทยรักไทย 3.พีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทรักธรรม 4.ปรีดา บุญเพลิง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 5.ดำรงค์ พิเดช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 6.ยรรยงก์ ถนอมพิชัยธำรง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย 7.จารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท 8.น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท 9.นพดล แก้วสุพัฒน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท  10.สมัคร ป้องวงษ์ ส.ส.สมุทรสาคร พรรคชาติพัฒนา 11.ดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติพัฒนา 12.สุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ 13.ภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ 14.สุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ 15.นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ 16.น.ส.จิราพร นาคดิลก ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ และ 17.นางบุญญาพร นาตะธนภัทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังชาติไทย 18.วัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา

อย่างที่บอกไปว่าสภาปัจจุบันที่ส.ส. 476 คน เกินกึ่งหนึ่งที่จะผ่านกฎหมายหรือล้มรัฐบาลต้องมีอย่างน้อย 238 คน รัฐบาลมี 249 คน  เกินกึ่งหนึ่งมา 11 คน  ฝ่ายค้านมี 209 คน ขออีก 29 เสียงจะเขี่ยพล.อ.ประยุทธ์พ้นตำแหน่งนายกฯโค่นบิ๊กตู่ลงจากเก้าอี้สร.1 ได้   ถ้าบวกพรรคเศรษฐกิจไทยของร.อ.ธรรมนัสเข้าไปอีก 18 คน จะเท่ากับ 227 คน  ขาดแค่ 11 ก็จะเท่ากับกึ่งหนึ่งคว่ำรัฐบาลลงได้  เพราะฉะนั้นรอบนี้บรรดาส.ส.พรรคเล็กมีความสำคัญกับนายกฯและรัฐบาลมากๆ  เพราะถ้าสวิงไปรัฐบาลก็จบพล.อ.ประยุทธ์ปิดจ็อบกลับบ้านเลย  แต่งานนี้คนคุมเกมส์ในสภาอย่างนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาลยืนยัน พรรคเล็กไม่เอาด้วยหลายคนยืนยันอยู่ข้างบิ๊กตู่   ไม่แค่นั้นพล.อ.ประยุทธ์ยังมีไม้เด็ดก็อก 2 อีก     อย่าลืมว่า “ออปชั่น” งูเห่าที่ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  เคยกางโพยให้นายกฯดูเมื่อหลายเดือนก่อน ฝากเลี้ยงกับพรรคฝ่ายค้านอีกเป็นสิบตัวยังไม่ถูกหยิบมาใช้   งานนี้แหละหากเข้าตาจนอาจเห็นเสี่ยหนูสวมบทพระรองทิ้งไพ่งูเห่าช่วยเหลือพล.อ.ประยุทธเอาตัวรอดในสภา  พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯมา 7 ปี ครองอำนาจมายาวนาน ผ่านอุปสรรคขวางหนามมาเยอะ เจอด่านหินๆเรื่องโหดๆมาก็มาก  จนถึงวันนี้ก็เขี้ยวรากดินพอสมควร   รอบนี้ถึงแม้จะหนักสุด แต่คงไม่แพ้ภัยตัวเองไม่ตกม้าตายง่ายๆ  ขึ้นเวทีถกงบประมาณ 66 รอบนี้ ต่อด้วยศึกซักฟอกที่กำลังจะตามมา  พรรคเพื่อไทยก๊วนฝ่ายค้าน ผู้กองธรรมนัสนายใหญ่ทักษิณอาจจะคิดว่าล้มนายกฯได้จริงๆ  ฝันว่าคว่ำบิ๊กตู่ได้สำเร็จ  แต่เรื่องจริงของจริงบอกได้เลยไม่มีทาง  คนดีไม่มีวันแพ้ภัยคนโกง พล.อ.ประยุทธ์อยู่อีกยาว

/////////////////////

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมืองพัทยา เปิดตัวป้ายจอ LED วอล์คกิ้งสตรีทโฉมใหม่ สุดอลังการ ตอบโจทย์เมืองท่องเที่ยวระดับโลก
รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ จัดกิจกรรมวันคล้ายวันสถาปนา ครบรอบปีที่ 28
สงขลา เปิดม่าน “เมืองแห่งป้อมปราการสู่มรดกโลก”
เมืองคอนจัดโครงการมอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน
ร้อยเอ็ด รมว.ท่องเที่ยว โชว์โดด “Zipline Roi Et Tower”แลนด์มาร์กสุดท้าทายใหม่แห่งอีสาน
เลย ประเมินตำบลยั่งยืนบ้านป่าเป้า ต.ปากปวน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​