มองชัชชาติ อ่านประยุทธ์ ผ่านเลือกตั้ง “ผู้ว่าฯกทม.-ส.ก.”

คนกรุงคิดอย่างไร  คนเมืองหลวงคิดแบบไหน  หลังเทคะแนนเลือกชัชชาตินั่งผู้ว่าฯกทม.แบบแลนด์สไลด์  สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ 1.38 ล้านคะแนน   กากบาทเลือกส.ก.เพื่อไทย 20 คน เอาพวกล้มเจ้ามาอีก 14 หน่อ  ล้มเจ้ากำลังกลับมา ทุนชั่วช้ากำลังผงาด  3 ป.คิดอย่างไร ฝ่ายความมั่นคงเตรียมรับมือกันบ้างไหม  เรื่องพวกนี้ประวิตรอย่าทำทองไม่รู้ร้อน  ประยุทธ์อย่าทำไม่รู้ไม่ชี้  ไม่เตรียมการรับมือให้ดี รัฐประหารที่ทำมาจะพังหมด เพื่อไทยเป็นรัฐบาล อุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ ทักษิณกลับมาแน่  

แม้หลายคนจะคิดไว้แล้วว่าการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.รอบนี้  ตัวเก็งเต็งหามที่มีลุ้นเป็นผู้ว่าฯกทม.คนที่ 17 และเป็นผู้ว่าฯกทม.คนที่ 8 ที่มาจากการเลือกตั้งโดยฉันทามติของคนกรุงเทพ  มีแนวโน้มสูงยิ่งที่หวยจะไปออกที่ “เสี่ยทริป” ชัชชาติ สิทธิ์พันธุ์ ผู้สมัครอิสระ หมายเลข 8  ที่ก่อนหน้านี้โพลล์ทุกสำนักทุกวงการเทคะแนนให้เป็นผู้สมัครที่มีคะแนนนำลิ่วจากการสำรวจความนิยมของประชาชน ไม่ว่ากี่ครั้งต่อกี่ครั้งชื่อของชัชชาติก็นำมาตลอด แถมนำลิ่วและนำห่างอันดับรองๆลงมาแบบไม่เห็นฝุ่น แต่นั้นเป็นแค่โพลล์ไม่มีใครจะเชื่อว่าเมื่อเวลาจริงมาถึงชัชชาติจะถึงห่างจะชนะคู่แข่งทุกคนได้แบบมหาศาลถล่มทลาย

แต่ 22 พ.ค. 2565 ก็กลายเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งของคนกรุง หลังปิดหีบการเลือกตั้งในช่วงห้าโมงเย็น ผลปรากฎว่าการนับคะแนนจากทุกเขตคะแนนของชัชชาติเบอร์ 8 นำลิ่วนำโด่งนำขาด  ทิ้งห่างผู้สมัครหมายเลขอื่นชนิดไม่เห็นฝุ่น ก่อนที่ช่วงหัวค่ำผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ  รายงานออกมาตรงกันทุกสำนักชัชชาติได้เป็นผู้ว่าฯกทม.คนใหม่  ด้วยคะแนนเสียงถล่มทลายแบบแลนด์สไลด์ถึง 1,386,769 คะแนน ทุบสถิติเก่าที่ “คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์เคยทำได้ 1,256,349 คะแนน เกือบ 1.3 แสนคะแนน  ทิ้งห่างผู้สมัครที่ได้อันดับ 2 อย่าง “ดร.เอ้” สุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้ 254,723 คะแนน แบบคนละชั้นกัน  ขณะที่อันดับ 3 เป็นของ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร พรรคก้าวไกล   253,938  คะแนน อันดับ 4 สกลธี ภัททิยกุล  ผู้สมัครในนามอิสระ 230,534  คะแนน  ส่วน “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง อดีตผู้ว่าฯกทม.ที่สมัครในนามอิสระ ตามมาเป็นอันดับ 5 ที่ 214,805  คะแนน  ลำดับที่ 6 เป็นของรสนา โตสิตระกูล ผู้สมัครอิสระ 79,009 คะแนน และ อันดับ 7 เป็นของ “ผู้พันปุ่น”  น.ต.ศิธา ทิวารี พรรคไทยสร้างไทย 73,926 คะแนน

จะเห็นได้ว่าคะแนนของผู้สมัครในลำดับรองๆลงมา ตั้งแต่ 2- 7 เอามาผูกรวมกันทั้งหมดยังไม่ชนะชัชชาติเลย  ขณะที่ผู้สมัครที่ถูกมองว่าอยู่ฝ่ายรัฐบาลมีพรรครัฐบาลสนับสนุน 3 คน อย่าง “สกลธี-สุชัชชวีร์-อัศวิน” ที่ช่วงโค้งสุดท้ายพยายามเสนอแนวทางโหวตเชิงยุทธศาสตร์  ด้วยการทิ้งคะแนนไปให้คนที่มีคะแนนมากที่สุดก็ได้คะแนนน้อยแบบน่าใจหาย เพียง 2 แสนคะแนนเศษเท่านั้น  บวกกัน 3 คนยังได้แค่ครึ่งเดียวของชัชชาติเลย  อนาถใจแท้ที่เที่ยวนี้คนกรุงเทผู้สมัครฝ่ายรัฐบาลลงคะแนนสวนตรงข้ามผู้บริหารประเทศแบบเต็มๆ  ยิ่งไปดูตัวเลขการลงคะแนนของสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) ยิ่งไปกันใหญ่  เพราะพรรครัฐบาลรวมกันได้ส.ก.แค่ 11 คนเท่านั้นคือ พรรคพลังประชารัฐ 2 คน พรรคประชาธิปัตย์ 9 คน  จากทั้งหมด 50 คนจาก 50 เขต  โดยที่เหลือตกเป็นของพรรคเพื่อไทยที่กวาดส.ก.รอบนี้ไปถึง 20 คน พรรคก้าวไกล 14 คน พรรคไทยสร้างไทย 2 คน และ กลุ่มรักษ์กรุงเทพ 3  คน

ที่สุดพรรคเพื่อไทยก็ยึดสนามเลือกตั้งกรุงเทพมหานครรอบนี้ไปแบบเบ็ดเสร็จ โดยผู้ว่าฯกทม. แม้โดยนิตินัยชัชชาติจะประกาศว่าตัวเองเป็นผู้สมัครอิสระ  แต่โดยพฤตินัยทุกคนรู้ดีว่าชัชชาติมีพรรคเพื่อไทยฝ่ายทักษิณสนับสนุนดุนหลังอยู่  ขณะที่ส.ก.ของพรรคเพื่อไทยต้องบอกว่าเป็นผลงานของพรรคแบบเต็มๆ ที่กลับมาลืมตาอ้าปากได้อีกครั้ง หลังไม่มีการเลือกตั้งส.ก.มานานถึง 12 ปีตั้งแต่ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2553  ที่รอบนี้สนามส.ก.พรรคเพื่อไทยเอาจริงเอาจังมาก ถึงขนาดให้ “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยลงสนามไปช่วยผู้สมัครส.ก.ของพรรคในหลายเขต  ขณะที่ช่วงโค้งสุดท้ายก็ปล่อยเเคมเปญประโยคเด็ด “อยากใช้เพื่อไทยเลือกเพื่อไทยให้ชนะขาด” รณรงค์ในช่วงท้ายก่อนการเลือกตั้ง ที่แกนนำพรรคเพื่อไทยก็ออกมาประกาศอ้อนคนกรุง เลือกส.ก.ของพรรคเพื่อไทยแบบแลนด์สไลด์ 25 คนขึ้นไปเพื่อเป็นการนับหนึ่งในสนามเลือกตั้งเมืองหลวง  ก่อนนำไปต่อยอดแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินต่อไปในอนาคต

ชัยชนะของชัชชาติที่คว้าเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.  รวมถึงส.ก.พรรคเพื่อไทยที่ครองแชมป์เที่ยวนี้ ต้องบอกว่าเป็นการรุกคืบกลับมาทวงอำนาจในกรุงเทพอย่างชัดเจน  ก่อนหน้านี้ก็ส่งสัญญาณในการเลือกตั้งซ่อมเขต 9 กทม. ย่านหลักสี่ดอนเมือง  ที่สุรชาติ เทียนทอง ชนะเลือกตั้งซ่อมล้มเมียสิระมาแล้ว  มาคราวนี้ชัชชาติผงาดขึ้นผู้ว่าฯกทม. ส.ก.พรรคเพื่อไทยยึดศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร  ทักษิณยิ้มไม่หุบข้างฝ่ายตระกูลชินฉลองชัย  เพราะเป็นครั้งแรกที่หุ่นเชิดตัวแทนของฝ่ายทักษิณนั่งเป็นผู้ว่าฯกทม.ได้สำเร็จ  หลังจากล่องจุ๊นมาแล้ว 5 ครั้งตลอด 24 ปีที่เข้ามาเล่นการเมืองไล่ตั้งแต่ “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ , “เจ๊ปิ๊ก” ปวีณา หงสกุล ,ประภัสร์ จงสงวน , “พี่แซม” ยุรนันท์ ภมรมนตรี และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ   ก่อนจะมาประสบความสำเร็จในคราวนี้จากชัชชาติ  ที่แน่นอนว่าความสำเร็จชนิดถล่มทลายครั้งนี้  ทักษิณสั่งลูกน้องเดินเกมส์ต่อยอดจากสนามเมืองหลวงไปสู่ทั่วประเทศอย่างแน่นอน  เพราะเป้าหมายของนายใหญ่คนแดนไกลอยู่ที่การชนะการเลือกตั้งทั่วไป 250 คนทั่วประเทศ  พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่ออุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ จากนั้นค่อยไปสู่การออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมพาพ่อกลับบ้านแบบเท่ห์ๆ

จบเลือกตั้งรอบนี้ คนกรุงคนเมืองหลวงเตือนสติตบหน้ารัฐบาลฉาดใหญ่เขกกบาล 3 ป.แบบเต็มๆ เป็นรัฐบาลมีอำนาจในมืออยู่แท้ๆ ดันปล่อยให้เก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.หลุดมือ  ส.ก.ส่วนใหญ่ตกไปเป็นของฝ่ายค้านฝ่ายตรงข้ามเสียอย่างนั้น  ไม่บ้าก็โง่เป็นรัฐบาลแบบไหนบริหารอำนาจกันอย่างไร เรื่องพวกนี้ถึงไม่ใส่ใจไม่นำพาเอามาคิด มัวแต่ทะเลาะกัดกันเอง มัวแต่กอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋า จนลืมรักษาฐานการเมืองของตัวเอง มีอย่างที่ไหนเลือกตั้งทั่วไปคราวที่แล้ว 24 มี.ค.2562 พรรคพลังประชารัฐได้ส.ส.ในกรุงเทพ 30 เขต 30 คน คว้าไปถึง 12 คนมากที่สุดคราวที่แล้ว  มีคะแนนในกทม.สูงถึง 791,821 คะแนน  มารอบนี้ตัวผู้ว่าฯกทม.ก็ไม่ส่ง  ส.ก.ส่งไป 50 เขตชนะได้แค่ 2 เขตเท่านั้น พูดแบบแรงๆ ขายหน้าเขาฉิบหาย แพ้หมดรูปอย่างนี้ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  หัวหน้าพรรคต้องทำอะไรบ้างแล้ว  อย่างน้อย “เสี่ยโต” อภิชัย เตชะอุบล หัวหน้าทีมกทม.ก็ต้องโดนลงดาบ เพราะส.ก.แพ้ย่อยยับเสียรังวัดพรรคหมด  ดูอย่างพรรคก้าวไกลแม้วิโรจน์จะไม่ได้เป็นผู้ว่าฯกทม.  แต่ส.ก.ของพรรคก็เหมาเข่งมาได้ถึง 14 คน  เหมาะสมกับที่ได้แชมป์คะแนนดิบกทม.จากการเลือกตั้งคราวที่แล้ว 804,217 คะแนน  ขณะที่พรรคเพื่อไทยรอบก่อนสนามกทม.ส่งส.ส.แค่ 22 เขต  เพราะเปิดทางให้พรรคลูกอย่างพรรคไทยรักษาชาติลงแข่งแต่ดันถูกยุบไปก่อนเลือกตั้ง    ถึงกระนั้นก็ได้คะแนนมาถึง 604,699 คะแนน ได้ส.ส.ไป 9 คน  รอบนี้ก็กลับมากวาดส.ก.ไปได้อีก  20 คน

พรรคส้มล้มเจ้า พรรคแดงทุนนิยมสามานย์รุกคืบทางการเมือง ตอนนี้ฮุบเมืองหลวงได้ใจคนกรุงไปแล้วแบบเต็มๆ เรื่องพรรค์อย่างนี้ 3 ป. อย่าง  “ประวิตร-อนุพงษ์-ประยุทธ์” รู้สึกอย่างไรมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง ฝ่ายความมั่นคงรู้ร้อนรู้หนาว กองทัพตามข่าวแล้วเตรียมการรับมือกับเรื่องพวกนี้กันบ้างไหม  ล้มเจ้ากำลังกลับมา ทุนชั่วช้ากำลังผงาด  ทำการเมืองคิดสั้นๆไม่มองการณ์ไกล ไม่คิดยาวๆ  วันนี้มัวแต่ยุ่งกับอย่างอื่น  คอกทักษิณพรรคตระกูลชินตีเมืองหลวงแตกย่อยยับหมดแล้ว  เลือกตั้งทั่วไปเหลือเวลาเต็มที่ไม่ถึงปี  ตกลงจะเอาอย่างไรจะไปต่อไหมหรือพอแค่นี้  ถ้าวิเคราะห์ตามที่หมอระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เคยออกปากเตือนระวังบันได 6 ขั้นของทักษิณ  ระวังนายใหญ่คนแดนไกลกินรวบประเทศภายใน 6 คำ ตอนนี้เรียบร้อยไปแล้วครึ่งทาง  3 คำ 3 ขั้น คือ 1. แก้ระบบการเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวเป็น 2 ใบ  ส.ส.เขตมากขึ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อลดลง ไม่มีการคิดคะแนนตกน้ำ ไม่มีเพดานพรรคการเมือง 2.ใช้วิธี 100 หารในการคำนวณส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ตัดพรรรคเล็กตัดส.ส.ปลาซิวปลาสร้อย 3.ยึกผู้ว่าฯกทม. ฮุบส.ก.ในกรุงเทพ   ส่วนบันไดที่เหลืออีก 3 ขั้น คือ 4.ล้มนายกฯในสภา พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 หรือศึกซักฟอก  5.ชนะการเลือกตั้งทั่วไป 250 คนขึ้นไปตั้งรัฐบาล และ 6. ออกกฎหมายนิรโทษกรรมพาทักษิณกลับบ้าน  พ่ายหมดทางสู้แพ้หางจุกตูดแบบนี้ถ้าพล.อ.ประวิตรคิดไม่ได้ว่าต้องทำอย่างไร  พล.อ.ประยุทธ์ยังคิดไม่ออกว่าต้องบริหารจัดการรับมือแบบไหน ไอ้ที่อุตส่าห์เอารถถังออกมาวิ่ง เอาทหารออกมาควบคุมอำนาจเมื่อ 8 ปีที่แล้ว 22 พ.ค. 2557  ทุกอย่างที่ทำมาตลอด 8 ปี จะสูญหายว่างเปล่าหมด  ที่อุตส่าห์ลงทุนลงแรงมาก็จะกลายเป็นศูนย์   คนกรุงอุตส่าห์สั่งสอนบทเรียนเตือนกันแรงๆแล้ว ถ้าสติ 3 ป.ยังไม่กลับมาก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร  เตรียมตัวนับถอยหลังยกประเทศให้ฝ่ายตระกูลชินได้เลย ชัชชาติผู้ว่าฯกทม. อุ๊งอิ๊งนายกฯ ทักษิณกลับมาเมืองไทยแน่

////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด! ตั้งวงดื่มสุราลุกออกไปปัสสาวะถูกยิงดับ
"ซูเปอร์โพล" เผยผลคะแนนคนไทย ภูมิใจสุดๆ เชื่อมั่น "ทหารไทย" ป้องอธิปไตย ชื่นชอบ "พล.ท.บุญสิน"
อาลัย "พลทหารพิทยุตม์" ทหารกล้าตาเมือนธม เคยปะทะคารมกับ "โมนิก้า" ป้ามหาภัยเขมร เสียชีวิตกะทันหัน
"พระอุปัชฌาย์" เปิดใจ เล่าย้อนเมื่อ 40 ปีก่อน เคยบวชให้ "อลงกต" ที่วัดลำนารายณ์ ย้ำไม่เคยขอดูเอกสารเรียนจบจากตปท.
“สมชัย” กางมาตรฐานจริยธรรม 6 ข้อสำคัญ ดึงสติ ‘แพทองธาร’ ก่อนถึงวันตัดสินคดีคลิปเสียง
สว.สิทธิกร ธงยศ นำคณะ สว. ลงพื้นที่นครพนม ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากขาดงบบำรุงรักษา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​