“แย่งผู้ว่าฯ- ยึดส.ก.”  นับหนึ่งแลนด์สไลด์ฝ่ายทักษิณ

โมเดลนายใหญ่แผนคนแดนไกล  ฮุบเมืองหลวงปูทางกลับมาครองประเทศ   จาตุรนต์ประกาศชัดบนเวที   นับหนึ่งแลนด์สไลด์คือยึดส.ก. ตั้งเป้าขอเกิน 25 คน  ก่อนต่อยอดแลนด์สไลด์ 2  เพื่อไทยชนะเลือกตั้งทั่วไป กวาดส.ส.ถล่มทลายทั้งแผ่นดิน  สะพัดชิงส.ก.จ่ายกันหนัก 5-10 ล้านต่อเขต รวมกันเป็นร้อยล้าน  คนกรุงคิดอย่างไรคนเมืองหลวงเอาด้วยมั้ย 22 พ.ค.65  เข้าคูหากาดีๆ อยู่ข้างฝ่ายทักษิณ หรือ เลือกสั่งสอนนักโทษหนีคดีที่ดูไบ  ปิดประตูกทม. ปิดทางแลนด์สไลด์  ปิดตายทักษิณกลับบ้าน

เหลือเวลาอีกไม่กี่วันการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งที่ 9 จะอุบัติขึ้นในวันที่ 22 พ.ค.2565 รอบนี้คนแดนไกลฝ่ายทักษิณ หมายมั่นปั้นมือมากว่าจะยึดหัวหาดยึดเก้าอี้ผู้บริหารเสาชิงช้ารอบนี้ไว้ได้ เพราะหากนับกันตั้งแต่วันแรกที่นายใหญ่ตั้งพรรคการเมืองอย่างพรรคไทยรักไทยขึ้นมาครั้งแรก เมื่อ 24 ก.ค. 2541 จวบจนวันนี้เกือบ 24 ปี ไม่มีตัวแทนฝ่ายทักษิณผู้สมัครตระกูลชินได้สัมผัสเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.แม้แต่ครั้งเดียวคนเดียว  5  ผู้สมัครพรรคทักษิณที่ผิดหวังไปไม่ถึงฝันประกอบด้วย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ , ปวีณา หงสกุล , ประภัสร์ จงสงวน , ยุรนันท์ ภมรมนตรี และ พล.ต.อ.พงศพศ พงษ์เจริญ ม้วนเสือกลับบ้านเก่าพ่ายแพ้แบบย่อยยับไปทุกคน

จะมีรอบนี้แหละที่คนในฝ่ายตัวเองอย่าง ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ยุค “นายกฯน้องสาว” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีลุ้นสร้างประวัติศาสตร์ทุบกำแพงเมืองกรุง มีโอกาสได้ลุ้นเป็นผู้ว่าฯกทม.คนแรกสมใจนายใหญ่ได้มากที่สุด  นอกจากชัชชาติจะเป็นคนที่มี “จุดเด่น” เพราะเป็นผู้สมัครที่คนรุ่นใหม่ชอบติดตามมานานแล้ว ชัชชาติยังเก่งเรื่องสร้าง “จุดขาย” ให้ตัวเองมาโดยตลอด อาทิ ขึ้นรถเมล์ไปทำงานสร้างภาพรู้ปัญหาจราจรให้คนวัยทำงานเห็น   ลงเรือไปดูความเดือดร้อนในลำคลองให้คนเมืองหลวงเห็นภาพจำว่าลงไปคลุกกับปัญหาของชาวบ้าน   ออกกำลังกาย เดิน-วิ่งเป็นประจำเอาใจคนชอบเล่นกีฬาสายรักสุขภาพ  ทำคอนเทนต์เดินเท้าเปล่าใส่เสื้อกล้ามหิ้วถุงแกงใส่บาตรเรียกคะแนนจากบรรดาเยาวรุ่นและชาวพุทธ  ฯลฯ อย่าคิดว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้จะเป็นแค่การสร้างภาพไปวันๆ  แต่บ่อยครั้งนานวันเข้าก็กลายเป็น “ภาพจำ” ให้คนกรุงเทพติดตาว่าชัชชาติเป็นพวก “ขาลุย-ใจถึง-พึ่งพา” ได้  ด้วยเหตุนี้จึงเป็นผู้สมัครที่อยู่ในกระแสในใจของคนกรุงคนเมืองหลวงเรื่อยมา หนำซ้ำการเปิดตัวลงพื้นที่หาเสียงก่อนใครเพื่อน ตั้งแต่ปี 2562 ก็ทำให้เจ้าตัวมีเวลาและโอกาสในการทำการบ้านแนะนำตัวกับชาวบ้านมากขึ้น

แถมชัชชาติยังมีโชคสองชั้น เพราะเที่ยวนี้แคนดิเดตฝ่ายตรงข้ามผู้สมัครฝั่งรัฐบาลดันมีมากกว่า 1 คน  ได้แก่ “สกลธี-สุชัชชวีร์-อัศวิน”  แถมยังเป็นประเภท “ดี-เด่น-ดัง” มีฐานเสียงมีหัวคะแนนมีคนสนับสนุนรักใคร่ชอบพอมากน้อยไม่แพ้กัน  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดภาวะ “แย่งชิงคะแนน-ตัดแต้มกันเอง” ของหมายเลข “3-4-6” เพราะต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร  แม้จะมีการเสนอแนวทาง “โหวตเชิงยุทธศาสตร์” หรือ ( strategic vote) ด้วยการเทคะแนนให้คนที่คิดว่ามีโอกาสมากที่สุด  แต่เอาเข้าจริงก็ทำยาก เพราะทั้ง 3 คนต่างมีคนรักมีคนชอบมีแฟนคลับมีฐานมวลชนมากมายพอๆกัน สกลธีมีบรรดาอดีตแกนนำกปปส.  ดารา นักร้อง คนดัง ฯลฯ หลากหลายวงการออกมาสนับสนุน   สุชัชชวีร์มีฐานพรรคประชาธิปัตย์มีหัวคะแนนพรรคสีฟ้า ที่อดีตเคยครองความยิ่งใหญ่ในเมืองกรุงมายาวนานยังคอยเป็นแบ็กอัพให้อยู่   ขณะที่พล.ต.อ.อัศวินได้เปรียบที่เป็นอดีตผู้ว่ากทม.เก่า  ทำงานมา 5 ปี 5 เดือน 5 วัน ก็สร้างเครือข่ายวางมือไม้ของตัวเองไว้มาก แถมมีกลุ่มรักษ์กรุงเทพฯ และอีกหลายสมาคม รอบทั้งคะแนนคนกรุงเทพฯชั้นนอกก็ยังเหนียวแน่น   ที่สำคัญไม่มีใครอยากหลบไม่มีใครอยากหมอบไม่มีใครอยากยอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่ลงแข่งขัน  เพราะฉะนั้นแนวคิดโหวตเชิงยุทธศาสตร์ที่หวังจะให้ “รองฯจั้ม-ดร.เอ้-บิ๊กวิน” เทคะแนนของตัวเองไปให้กับคนใดคนหนึ่งที่มีคะแนนมากสุดเพื่อให้คะแนนพุ่งขึ้นไปเบียดสูสีมีลุ้นกับชัชชาติ  แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย  เพราะ “พ่อยก-แม่ยก” ของแต่ละฝ่ายคงไม่มีใครยอมให้ผู้สมัครของตัวเอง  ยอมแพ้ตั้งแต่ในมุ้งหรือซูเอี๋ยกันเหมือน “มวยล้มต้มคนดู”  เพราะฉะนั้นจึงเห็นปรากฎการณ์ผู้สมัครฝ่ายรัฐบาลอัดกันแหลก  ใส่กันยับแทบทุกเวทีชนิดไม่มีใครยอมใคร

ผลดีและอาณิสงฆ์จากกรณี “สามก๊ก” ของผู้สมัครฝ่ายรัฐบาล จึงตกใส่ตีนชัชชาติผู้สมัครจำแลงฝ่ายทักษิณแบบเต็มๆ ยกเว้นเกิดการพลิกล็อคกันขึ้นมาจริงๆซึ่งโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก  อย่าได้แปลกใจหากเขี้ยวตัวพ่ออย่างทักษิณ  จะลิงโลดกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในรอบนี้มาก เพราะอ่านเกมส์ออกมองการเมืองทะลุ ชัชชาติเข้าวินเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.มาอยู่ในมือแน่  เหลือเพียงเก้าอี้สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร(ส.ก.) 50 คน 50 เขต เท่านั้นที่ต้องลุ้นต่อสู้กันมากหน่อย เพราะบรรดาพรรคการเมืองใหญ่ ไม่มีใครยอมทิ้งเก้าอี้ส.ก.ให้ศัตรูคาบไปกินอย่างแน่นอน ด้านหนึ่งต้องรักษาหัวคะแนนเก็บแกนนำในแต่ละพื้นที่ไว้กับพรรคตัวเองให้ได้ ไม่งั้นมีหวังถูกพรรคศัตรูคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามซื้อตัวไปหมด อีกด้านก็ต้องเตรียมตัวเตรียมคนเตรียมหัวคะแนนสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อไหร่ “วันรุ่งหรือพรุ่งนี้” ยุบสภาวันไหนยังไม่มีใครรู้  แต่ต้องเตรียมความพร้อมไว้ก่อนโดยไม่ประมาท

ชิงส.ก. 50 เขตรอบนี้จึงสำคัญไม่แพ้เก้าอี้ผู้ว่าฯกทม. เพราะส.ก.นี้แหละที่เป็น “ของจริง” ทำงานใกล้ชิดกับชาวบ้าน  อนาคตก็จะกลายเป็นมือเป็นไม้ของพรรคการเมืองต่างๆที่ไป “ปรับทุกข์-ผูกมิตร” กับชาวบ้าน  พรรคไหนใครกวาดส.ก.ได้มากโอกาสจะส่งคนของตัวเองเข้าไปสร้างฐานมวลชนซื้อใจคนในเขตนั้นก็มีสูง เที่ยวนี้จึงพรรคใหญ่ส่งส.ก.กันล้นหลาม ไล่ตั้งแต่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย ขณะที่พรรคใหญ่อย่างพรรคพลังประชารัฐ กับ พรรคเพื่อไทย แม้ไม่ส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯกทม.แต่ก็ขอส่งส.ก.ลงครบ 50 เขต  ไม่แปลกที่การช่วงชิงตำแหน่งส.ก.เที่ยวนี้จะหนักหน่วงรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ถึงขั้นมีข่าวว่าจ่ายกันหนักเขตละ 5-10 ล้านบาท รวมๆแต่ละพรรคต้องใช้เงินหลักร้อยล้านเพื่อคว้าชัยชนะ

ที่ถูกจับตามองมากที่สุดหนีไม่พ้นพรรคเพื่อไทยของนายใหญ่  ชิงส.ก.เที่ยวนี้ทักษิณถึงขั้นให้ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนอย่าง “อุ๊งอิ๊ง”แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยลงพื้นที่ไปช่วยผู้สมัครส.ก.ของพรรคเพื่อไทยหลายเขตหาเสียง  ขณะที่พรรคอื่นๆเต็มที่ก็แค่แกนนำลงไปช่วย จับใจความอย่างนี้ก็แสดงว่าทักษิณจริงจังกับการเลือกส.ก.ในคราวนี้มาก ๆ  ทุกอย่างมาถึงบางอ้อหลังวานนี้  18 พ.ค.2565  ระหว่างการปราศรัยใหญ่เลือกตั้งส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ณ ลานคนเมือง ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร มีการระดมแกนนำพรรคเพื่อไทยคัดตัวทีเด็ดไปช่วยปราศรัยหาเสียงเพียบ  อาทิ “เจ๊แจ๋น” พวงเพชร ชุนละเอียด ผอ.การเลือกตั้งส.ก. , “หมอมิ้งค์” นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริเดชย์ , “บรูก” ดนุพร ปุณณกันต์ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งส.ก. แถมช่วงท้ายยังให้อุ๊งอิ๊งขึ้นเวทีเรียกเสียงกรี๊ดจากชาวบ้าน แต่คนที่พูดเป็นประเด็นและกลายเป็นไฮไลต์ เพราะส่งสัญญาณรับลูกจากนายใหญ่จากดูไบแบบสอดคล้องต้องกันเรื่องแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน ก็คือ “เสี่ยอ๋อย” จาตุรนค์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง  ระดับผู้ใหญ่คนหนึ่งของเพื่อไทยขึ้นเวที ขอแรงคนกรุงเทพฯขอโอกาสคนเมืองหลวงเลือกส.ก.พรรคเพื่อไทยให้ชนะถล่มทลายให้ได้เกินครึ่ง มากกว่า 25 คน เพื่อที่จะได้เปลี่ยนเมืองหลวงให้ดีขึ้น ประกาศชัดเสียงดังนี้คือแลนด์สไลด์ที่ 1 ของพรรคเพื่อไทยในการกลับมาทวงคืนอำนาจบริหารประเทศจาก     “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ ก๊วน 3 ป. บูรพาพยัคฆ์

“ พรรคเพื่อไทยมีความใกล้ชิดกับคนกรุงเทพฯ  ตั้งแต่รัฐประหารมีการตั้งผู้ว่าฯกทม. เอาข้าราชการมาทำหน้าที่ส.ก.ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับประชาชนเลย พี่น้องประชาชนกำหนดอะไรก็ไม่ได้ เรียกร้องอะไรก็ไม่ได้ เพราะเขาไม่แคร์ประชาชน  พรรคเพื่อไทยไม่คิดไปบงการผู้ว่าฯกทม. แต่ถ้าเรามีส.ก.ที่เข้าใจปัญหาของประชาชนในแต่ละพื้นที่มากพอ ตรงนี้ก็จะไปช่วยงานของผู้ว่าฯกทม.ได้  เพราะฉะนั้นเราต้องได้ส.ก.อย่างน้อย 25 คนขึ้นไปที่เขาเรียกว่าแลนด์สไลด์ นี้คือแลนด์สไลด์ครั้งที่ 1 หากพรรคเพื่อไทยมีส.ก.จำนวนมากที่เชื่อมโยงกับประชาชน  อนาคตก็จะเป็นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะได้ไปร่วมงานกับคนกรุงเทพฯเพื่อที่จะไปร่วมงานกับพี่น้องประชาชนทั่วประเทศในการเปลี่ยนรัฐบาล และการเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลาย  นั้นคือการแลนด์สไลด์ครั้งที่ 2” จาตุรนต์แบไต๋  ขณะที่อุ๊งอิ๊งออกมาปิดท้ายบนเวที  “ 22 พ.ค.นี้ เป็นโอกาสทองของประชาชนในการเลือกตั้งหลังจากไม่ได้เลือกผู้ว่าฯกทม.มา 9 ปี  ไม่ได้เลือกส.ก.มา 12 ปี  พรรคเพื่อไทยทุกคนทำงานหนักเพื่อผลักดันนโยบายที่เป็นผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน  เพราะฉะนั้นขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยเยอะๆ เพื่อที่เราจะได้เข้าไปทำงาน” แพทองธารระบุ

โมเดลทักษิณชัดเจนยุทธศาสตร์เดินเกมส์ก็เด่นชัด  วันนี้อายุอานามทักษิณย่าง 72 ปี ร่างกายแก่ลงไปมากแต่สมองยังแหลมคม  เล่ห์เหลี่ยมการเมืองหลายชั้นชนิดยังหาตัวจับยาก   ไม่มีทางที่ทหารแท้ๆนักการเมืองชั่วคราว อย่าง พล.อ.ประยุทธ์และแก๊งค์ 3 ป.จะจับได้ไล่ทัน  เหลี่ยมคมชั้นเชิงการเมืองยังห่างชั้นกันเยอะ  เหมือนเด็กมหาลัยกับหนูน้อยอนุบาล  เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะถึงเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.และ ส.ก.  เปิดศึกชิงดำคุมเมืองหลวงกันแล้ว  กุมบังเหียนบริหารเสาชิงช้าคือความฝันที่ทักษิณรอคอยถวิลหามานานกว่า 20 ปี    เข้าทางตรง 100 เมตรสุดท้ายแล้ว  ฝากผู้มีสิทธิ์ 4.3 ล้านคนในกทม.คิดให้ดีไตร่ตรองเลือกตั้งเที่ยวนี้ให้จงหนัก  กากบาทเลือกผู้ว่าฯกทม.จำแลงสายเพื่อไทยเลือกส.ก.ฝ่ายทักษิณ หรือ จะเลือกสั่งสอนนักโทษที่ดูไบ กาผู้สมัครฝั่งรัฐบาลตรงข้ามฝ่ายทักษิณ  ประกาศเจตนารมณ์ให้ชัดๆ ไม่เอาแลนด์สไลด์  ไม่อยากให้ทักษิณกลับบ้าน  เพราะประเทศนี้ไม่ต้อนรับพวกโคตรโกง  ประเทศนี้ไม่มีที่ยืนให้คนชังชาติ  ประเทศนี้ไม่ใช่ปลายทางสุดท้ายของคนทำลายทำร้ายบ้านเกิดเมืองนอน

//////////////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด! ตั้งวงดื่มสุราลุกออกไปปัสสาวะถูกยิงดับ
"ซูเปอร์โพล" เผยผลคะแนนคนไทย ภูมิใจสุดๆ เชื่อมั่น "ทหารไทย" ป้องอธิปไตย ชื่นชอบ "พล.ท.บุญสิน"
อาลัย "พลทหารพิทยุตม์" ทหารกล้าตาเมือนธม เคยปะทะคารมกับ "โมนิก้า" ป้ามหาภัยเขมร เสียชีวิตกะทันหัน
"พระอุปัชฌาย์" เปิดใจ เล่าย้อนเมื่อ 40 ปีก่อน เคยบวชให้ "อลงกต" ที่วัดลำนารายณ์ ย้ำไม่เคยขอดูเอกสารเรียนจบจากตปท.
“สมชัย” กางมาตรฐานจริยธรรม 6 ข้อสำคัญ ดึงสติ ‘แพทองธาร’ ก่อนถึงวันตัดสินคดีคลิปเสียง
สว.สิทธิกร ธงยศ นำคณะ สว. ลงพื้นที่นครพนม ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากขาดงบบำรุงรักษา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​