อ่านเกมส์ทักษิณ ยึดกรุงเทพฯต่อยอดแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดิน

ย้อนอดีตทักษิณตั้งพรรค 22 ปี  คนกรุงเทพไม่เคยให้โอกาส “คนฝ่ายทักษิณ-ผู้สมัครสายตระกูลชิน” เป็นผู้ว่าฯกทม.บริหารเสาชิงช้าเลย  ไม่ว่าจะเป็นผู้สมัครแบบเปิดหน้าหรือหนุนหลังแบบอีแอบ  ไล่ตั้งแต่ “สุดารัตน์-ปวีณา-ประภัสร์-ยุรนันท์-พงศพัศ”  5 คนแพ้เรียบไม่เคยเข้าวิน  ก่อนได้ลุ้นคราวนี้ที่ชัชชาติ หลัง “ตัวเก็ง-เต็งหาม” ฝ่ายรัฐบาล อย่าง “สกลธี-สุชัชชวีร์-อัศวิน” เปิดศึกตัดแต้มกัดกันเอง ส่งผลโทนี่ยิ้มร่าเพื่อไทยมีสุขชัชชาตินอนมา ลุ้นคนกรุงตาสว่าง คนรุ่นใหม่มองกว้างๆ คนเมืองหลวงคิดไกลๆ อย่าลืมระบอบทักษิณสร้างความเลวร้ายอย่างไร  หยุดชัชชาติต้านทักษิณอย่าให้กลับมากลืนกินประเทศไทย  

การเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานครในวันที่ 22 พ.ค.2565 ที่จะถึงนี้  ต้องถือเป็นวันสำคัญยิ่งยวดทางการเมือง ไม่เฉพาะแต่คนกรุงเทพฯเท่านั้นที่จะได้เลือกตั้งพ่อเมืองที่มาจากการเลือกตั้งคนที่ 8  เป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี  นับตั้งแต่การเลือกครั้งสุดท้ายเมื่อ 29 มี.ค.2556  หากแต่การช่วงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯกทม.เที่ยวนี้  ยังถือเป็นการช่วงชิงทางยุทธศาสตร์  ระหว่างรัฐบาลภายใต้การนำของ 3 ป.บูรพยาพยัคฆ์ กับ ฝ่ายค้านใต้ร่มเงาของนายใหญ่คนแดนไกลที่ชื่อทักษิณ ชินวัตร  นักโทษหนีคดีที่กำลังรอจังหวะ เวลา และ โอกาสที่เหมาะเหม็งในการคัมแบ๊กเมืองไทยอย่างเท่ห์ๆ ตามที่ตัวเองได้เคยประกาศไว้

ย้อนอดีตกลับไปสมัยทักษิณเริ่มตั้งไข่ทางการเมือง ด้วยการตั้งพรรคไทยรักไทยเมื่อ 23 ก.ค.2543 จวบจนปัจจุบัน รวมเวลาแล้วเกือบ  22 ปี  ทักษิณและตระกูลชินตั้งพรรคการเมืองที่เคยส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.มาแล้ว  3 พรรคคือ พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และ พรรคเพื่อไทย ส่งผู้สมัครชิงชัยผู้ว่าฯกทม. ทั้งแบบ “ออกหน้า” และแบบ “อีแอบ” สนับสนุนอยู่ “ลับหลัง” มาแล้วทั้งสิ้น  5 คน ประกอบด้วย “เจ๊หน่อย” สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ , “เจ๊ปิ๊ก” ปวีณา หงสกุล ,ประภัสร์ จงสงวน , “พี่แซม” ยุรนันท์ ภมรมนตรี และ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ แต่ปรากฎว่าทั้งหมดพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งเรียบวุธ  ไม่มีใครในฝ่ายทักษิณไม่มีผู้สมัครในคอกตระกูลชินแม้แต่คนเดียวที่จะได้รับโอกาสและความไว้วางใจจากคนกรุงเทพฯให้บริหารเสาชิงช้า

ผิดหวังทุกรอบและแพ้เรื่อยมาคือเรื่องประจำของทักษิณ  สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.จึงกลายเป็น “ของแสลง” เป็น “จุดอ่อน” ของทักษิณตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะคนกรุงเทพฯไม่เคยสยบยอมให้ทักษิณได้เข้ามามีอำนาจบริหารงบจัดการเมืองของตัวเอง สุดารัตน์แพ้ให้กับ “ลุงหมัก” สมัคร สุนทรเวช หัวหน้าพรรคประชากรไทย  ส่วนปวีณากับประภัสร์แพ้ให้กับ “หล่อกลาง” อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์  ขณะที่ยุรนันท์กับพล.ต.อ.พงศพัศก็ไม่ชนะ “คุณชายหมู” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตัวแทนจากพรรคประชาธิปัตย์ทั้ง 2 ครั้ง 2 ครา ต่างจากรอบนี้ปีนี้เที่ยวนี้ที่ทักษิณมีโอกาสใกล้เคียงที่สุดที่จะได้คุมกรุงเทพมหานครบริหารจัดการเมืองหลวงของประเทศไทยเป็นครั้งแรก  แม้พรรคเพื่อไทยจะไม่ได้ส่งใครลงสมัคร  แต่ก็รู้กันอยู่ในวงการว่า “เสี่ยทริป” ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม ยุค “นายกฯปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คือ ผู้สมัครจำแลงที่พรรคเพื่อไทยส่งลงสมัครที่ทักษิณหนุนหลังอยู่

ความโชคดีของทักษิณที่จะได้คุมกรุงเทพหากชัชชาติชนะการเลือกตั้ง 22 พ.ค. 2565 ในเที่ยวนี้ต้องบอกว่ามีโอกาสมากจริงๆ ประการแรกตัวของชัชชาติเองแทบไม่มีเรื่องเสียหายด่างพร้อย ตอนเล่นการเมืองช่วงนายกฯปู  ก็เป็นประเภท “ความชั่วไม่มี ความดีไม่ปรากฏ”  แต่มาได้เปรียบผู้สมัครคนอื่นๆก็ตรงที่มีคนรู้จัก วัยรุ่นชอบนิสิตนักศึกษารู้จัก  ที่สำคัญประกาศเปิดตัวลงผู้ว่าฯกทม.ก่อนใครเพื่อตั้งแต่ไก่โห่เลยทำให้ได้เปรียบคนอื่นๆ ที่สำคัญรอบนี้บรรดาคู่ต่อสู้ที่เป็น “ตัวเก็ง-เต็งหาม” มีลุ้นชิงเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.อย่าง “จั้ม” สกลธี ภัททิยกุล หมายเลข 3 ,  “ดร.เอ้”สุชัชชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หมายเลข 4 พรรคประชาธิปัตย์ , “บิ๊กวิน” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง หมายเลข 6  ดันมีฐานคะแนนฐานเสียงฐานคนรักใคร่ชอบพอฐานเดียวกัน เพราะฉะนั้นรอบนี้บรรดา 3 ตัวเต็งฝ่ายรัฐบาลจึงกลายเป็นการต่อสู้กันเองตัดแต้มกันเองช่วงชิงกันเอง ในแบบที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมลดราวาศอกกัน   โชคร้ายจึงตกแก่รัฐบาลโชคดีจึงเป็นของฝ่ายทักษิณแบบเต็มๆ

อย่าลืมว่า  5 ครั้งที่ผ่านมาจะมีผู้สมัครที่โดดเด่นจากพรรคการเมืองอื่นๆ เพียง 1-2 คนเท่านั้นที่ขึ้นมาแข่งกับผู้สมัครฝ่ายทักษิณ  เหมือนอย่างที่เคยมี “สมัคร-อภิรักษ์-ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์” มาแย่งแชมป์ไปจากฝ่ายทักษิณ ตรงนี้ก็ทำให้คนกรุงเทพฯเลือกง่ายว่าจะเทคะแนนไปให้ใคร ต่างจากครั้งนี้ที่ผู้สมัครฝ่ายรัฐบาล อย่าง “สกลธี-สุชัชวีร์-พล.ต.อ.อัศวิน” มีฐานคะแนนมีคนรักใคร่ชอบพอมีผู้สนับสนุนกองเชียร์สูสีใกล้เคียงกัน  เสียงของผู้สมัครฝ่ายรัฐบาลจึงไม่แคล้วกลายเป็น “เบี้ยหัวแตก” เฉลี่ยกันไปตามฐานเสียงของแต่ละคน เห็นผู้สมัครฝ่ายรัฐบาลสู้กันเองอัดกันเองห้ำหั่นกันเองแบบนี้  ทักษิณยิ้มร่าพรรคเพื่อไทยยิ้มหวานชัชชาติสบายกบาลเลย  ลำพังพวกฝ่ายเดียวข้างเดียวกันอย่าง วิโรจน์ ลักขณาอดิศร หมายเลข 1 พรรคก้าวไกล , “ผู้พันปุ่น” น.ต.ศิธา ธิวารี หมายเลข 11 พรรคไทยสร้างไทย ไม่น่าจะมีพิษสงเบียดเอาชนะชัชชาติได้ อย่าได้แปลกใจหากทักษิณและเครือข่ายบริวารพรรคเพื่อไทยจะได้ลุ้นคุมกรุงเทพฯกับการเลือกตั้งครั้งนี้มากที่สุด ระดับบนศาลาว่าการกรุงเทพมหานครมีชัชชาติบริหาร ระดับล่างทักษิณสั่งเพื่อไทยปูพรหมส่งสมาชิกสภากรุงเทพฯ (ส.ก.) ลงครบ 50 คน 50 เขต  เพื่อรักษาตัวหัวคะแนนไม่ให้ถูกพรรคการเมืองอื่นชิงเอาตัวไป

รอบนี้ทักษิณหวังกับชัชชาติไว้มาก ว่าจะเป็นผู้สมัครคนที่ 6 ฝ่ายตัวเองที่ลบความผิดหวังคนกรุงไม่เลือกลงไปได้  ส่งแกนนำพรรคเพื่อไทยไปช่วยชัชชาติไม่ได้  แต่ก็ส่งลูกสาวคนโปรดอย่าง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านนวัตกรรมและการมีส่วนร่วม ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยลงช่วยผู้สมัครส.ก.เกือบทุกเขตที่มีจังหวะเวลาและโอกาส   ตั้งใจว่าจะเอาไปเป็นมือเป็นไม้คอยช่วยชัชชาติหากขึ้นเป็นผู้ว่าฯกทม.จะได้ช่วยเป็นหูเป็นตาในการบริหารกรุงเทพฯ   รวมถึงหวังใช้โอกาสนี้เป็นเวทีแรกเป็นก้าวแรกในการสร้างโมเดลแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินต่อเนื่องจากเลือกตั้งกทม.ไปสู้สนามใหญ่เลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า  ทักษิณคิดการใหญ่ใครก็รู้ก่อนหน้านี้ก็ประกาศผ่านคลับเฮ้าส์จะกลับเมืองไทยแบบเท่ห์ๆ กระซิบผ่านรูหูบอกอุ๊งอิ๊งคนเดียว   มั่นใจสูงลิ่วเลือกตั้งคราวหน้าพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายทั้งประเทศ เพราะกติกาเลือกตั้งคราวหน้าก็เอื้อสุดๆ ถ้านับกันตามที่กมธ.วิสามัญแก้ไขกฎหมายลูก 2 ฉบับ ทำกันถึงตอนนี้    ยกเลือกบัตรใบเดียว กลับไปเลือกตั้งแบบใช้บัตร 2 ใบ แบ่งเขตจาก 350 คน เพิ่มกลับไปเป็น 400 คน  บัญชีรายชื่อจาก 150 คน ลดลงเหลือ 100 คน ที่สำคัญไม่มีการคิดคะแนนแบบจัดสันปันส่วนผสม ไม่มีการนำคะแนนตกน้ำเข้ามาช่วย เข้าทางตีนทักษิณแบบเต็มๆ

ถึงขนาดคุยฟุ้งเป้าหมายส.ส.เที่ยวหน้าของพรรคเพื่อไทยทั่วประเทศอย่างน้อย 250 คนขึ้นไป  แลนด์สไลด์แบบนอนมาเหมือนยุครุ่งเรืองสมัยพรรคไทยรักไทยที่ทำให้ตัวเองเป็นนายกฯคนที่ 23 ของไทยและเป็นนายกฯที่มาจากการเลือกตั้ง 2 สมัย  ตั้งแต่ 9 ก.พ.2544 ถึง 19 ก.ย.2559 รวม 5 ปี 222 วัน  ทำไปทำมาเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 22 พ.ค. 2565 เที่ยวนี้  ดันกลายเป็นเลือกตั้งเชิงยุทธศาตร์ทางการเมืองแบบเต็มๆ ถ้าชัชชาติชนะเลือกตั้งฝ่ายทักษิณจะทำลายอาถรรพ์ 22 ปี ทุบกำแพงยึดศาลาว่าการกรุงเทพฯมหานครไปได้เป็นครั้งแรก ถึงตอนนั้นความคิดในการกลับมามีอำนาจของระบอบทักษิณ ต่อท่ออำนาจหลังจากถูกเบรกไปตั้งแต่ยิ่งลักษณ์ถูกปฏิวัติเมื่อ 22 พ.ค.2557 ก็มีโอกาสมากขึ้น ยิ่งถ้าพรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้งทั่วไปได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล  ผลักดันอุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ  ออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรมพาทักษิณกลับบ้านอย่างเท่ห์ๆ คงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน

คนที่ออกมาพูดเรื่องนี้ชัดและอธิบายให้คนไทยโดยเฉพาะคนกรุง  เห็นภาพความสำคัญของการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ในครั้งนี้ ชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋แบบถึงกึ๋น ว่าทำไมคนกรุงเทพต้อง “หยุดชัชชาติ” เพราะเหตุใดคนเมืองหลวงต้องรวมพลัง “ต้านทักษิณ”   คือ หมอระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่  ที่ออกมาเสนอแนวทาง “โหวตยุทธศาสตร์”  เลือกคนที่ใช่ไปล้มชัชชาติเบรกการกลับบ้านของทักษิณ  ที่ตอนนี้นายใหญ่คนแดนไกลเริ่มเดินแผนกินรวบประเทศไทย 6 คำ และทำสำเร็จไป 2 เรื่อง 2 คำแล้ว

“ ชัยชนะของคุณชัชชาติ คือ การเริ่มต้นแลนด์สไลด์ที่ กทม.เป็นการแลนด์สไลด์ตามยุทธการกินทีละคำของทักษิณ  เริ่มจากคำแรก คือการหลอกล่อให้พรรคใหญ่ตกหลุมในการแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ  กินคำที่สองก็คือ ชนะแลนด์สไลด์ในกรรมาธิการแก้กฎหมายลูกให้คิด ส.ส.บัญชีรายชื่อโดยการหารด้วย 100 และยกเลิกระบบ ส.ส.พึงมี และระบบทุกคะแนนเสียงไม่ตกน้ำ  คำที่สาม ก็คือการแลนด์สไลด์ในการเลือกผู้ว่าฯ กทม. คำที่สี่ ที่กำลังล็อบบี้ ส.ส.ในสภาให้ทำการคว่ำนายกฯสภาให้ได้ เพราะถ้าสามารถทำได้ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะไม่มีหัวหน้าพรรคการเมืองใดมาแข่งกับอุ้งอิ้งได้ คำที่ห้า คือการชนะเลือกตั้งทั่วไปแบบแลนด์สไลด์ ได้ ส.ส. 253 คน และพรรคเพื่อไทยเข้าเป็นรัฐบาล  ปูทางสู่การกินคำที่หก ซึ่งเป็นคำสุดท้าย ซึ่งก็คือการออก พรบ.นิรโทษกรรมให้ทักษิณกลับบ้านมาอย่างหล่อๆ”

 22 พ.ค.2565 ฝากคนกรุงคิดให้ดี  เตือนคนรุ่นใหม่ในเมืองหลวงคิดอย่างรอบครอบ มองให้กว้างดูให้ไกล  บทเรียนในอดีตมีให้เห็นกันแล้วระบอบทักษิณและบริวารทำให้ประเทศไทยได้รับความเสียหายเลวร้ายอย่างไร  บ้านเมืองแตกแยก แผ่นดินลุกเป็นไฟ  คนชั่วได้รับยกย่องเชิดชู คนดีไม่มีที่ยืน สถาบันถูกด้อยค่า เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินถูกรุกไล่ทำลาย   ไม่ต้องเลือกยุทธศาสตร์ตามใครบอกก็ได้  แต่ให้ใช้ “หัวใจ” เลือกคนดีที่ทำเพื่อแผ่นดิน  ไม่เป็น “หุ่นเชิด” ของพรรคใด ไม่เป็น “ร่างจำแลง” ของฝ่ายทักษิณ  บอกกันตรงๆถ้าชัชชาติชนะได้เป็นผู้ว่าฯกทม. พรรคเพื่อไทยลิงโลด เตรียมต่อยอดแลนด์สไลด์ทั้งแผ่นดินในเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้าแน่ๆ  ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เบรกโทนี่ให้หัวทิ่มตั้งแต่เนิ่นๆ  อย่าปล่อยให้คนชั่วฮึกเหิม  อย่างให้โอกาสทักษิณเอาระบอบทุนนิยมสามานย์กลับมาทำลายทำร้ายเมืองไทยอันเป็นที่รักบ้านหลังใหญ่ที่กำลังสงบสุขของเราอีกเลย  ด้วยความเคารพ

////////////////////////////

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด! ตั้งวงดื่มสุราลุกออกไปปัสสาวะถูกยิงดับ
"ซูเปอร์โพล" เผยผลคะแนนคนไทย ภูมิใจสุดๆ เชื่อมั่น "ทหารไทย" ป้องอธิปไตย ชื่นชอบ "พล.ท.บุญสิน"
อาลัย "พลทหารพิทยุตม์" ทหารกล้าตาเมือนธม เคยปะทะคารมกับ "โมนิก้า" ป้ามหาภัยเขมร เสียชีวิตกะทันหัน
"พระอุปัชฌาย์" เปิดใจ เล่าย้อนเมื่อ 40 ปีก่อน เคยบวชให้ "อลงกต" ที่วัดลำนารายณ์ ย้ำไม่เคยขอดูเอกสารเรียนจบจากตปท.
“สมชัย” กางมาตรฐานจริยธรรม 6 ข้อสำคัญ ดึงสติ ‘แพทองธาร’ ก่อนถึงวันตัดสินคดีคลิปเสียง
สว.สิทธิกร ธงยศ นำคณะ สว. ลงพื้นที่นครพนม ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ที่ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากขาดงบบำรุงรักษา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​