“เทพไท” ฟันธง มุขแป๊ก “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ชี้เป็นไปได้ยาก แคมเปญเลือกตั้ง อย่างมียุทธศาสตร์

เทพไท ฟันธง มุขแป๊ก “ไม่เลือกเราเขามาแน่” ชี้เป็นไปได้ยากแคมเปญเลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์ เชื่อขั้วเอาทักษิณได้เปรียบมีตัวแชร์คะแนนน้อยกว่า จับตาโค้งสุดท้ายปล่อยทั้งวิชาเทพ วิชามารใส่กันไม่ยั้ง

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ว่า เลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม.ครั้งนี้ ชูแคมเปญ ไม่เลือกเราเขามาแน่ มุขแป๊ก โค้งสุดท้ายของการเลือกตั้งหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.แล้ว โพลสำนักต่างๆก็ต้องหยุดเผยแพร่ผลการสำรวจตามประกาศของ กกต. จะทำให้คะแนนในโค้งสุดท้าย อาจจะมีการเปลี่ยนแปลง และเบียดขึ้นแซงกันในช่วงนี้ ก็ไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้ ผู้สมัครทุกคนก็ต้องเร่งหาคะแนนเพื่อให้คะแนนของตัวเแองตีตื้นในโค้งสุดท้ายให้ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

อยากให้จับตาการหาเสียงในช่วงนี้ จะมีการปล่อยทีเด็ด ทั้งวิชาเทพและวิชามาร ออกมาพร้อมๆกัน มีการเสนอแนวทางให้ลงคะแนนเลือกผู้สมัครอย่างมียุทธศาสตร์ นั่นหมายความว่า จากการเมืองที่มี 2 ขั้ว ให้แต่ละขั้วเลือกคนที่มีโอกาสได้มากที่สุดขั้วละคน โดยการเทคะแนนให้ผู้สมัครที่มีโอกาสมากได้รับเลือกมากที่สุด ซึ่งเป็นไปได้ยาก

จากฐานคะแนนเสียงของคนใน กทม.สามารถแบ่งได้ออกเป็น 2 ขั้วการเมืองใหญ่ๆ ที่เชื่อมโยงกับการเมืองระดับชาติอย่างปฎิเสธไม่ได้ ซึ่งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งสุดท้าย ก็มีการแบ่งฐานคะแนนเสียงอย่างชัดเจน คือกลุ่มที่เอาทักษิณกับกลุ่มที่ไม่เอาทักษิณ เห็นได้จากผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.เมื่อ 3 มีนาคม 2556 ที่กลุ่มไม่เอาทักษิณ เทคะแนนเสียงให้กับหม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร จากพรรคประชาธิปัตย์ 1,256,349 คะแนน จนเบียดชนะ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย 1,077,899 คะแนน ที่ได้รับคะแนนสนับสนุนจากกลุ่มที่นิยมทักษิณในโค้งสุดท้ายไปได้

ในครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ฐานเสียงของกลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณมีอยู่ผู้สมัครอยู่ 2 คน คือคุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เบอร์8 และคุณวิโรจน์ ลักขณาอดิศร เบอร์1 ส่วนฐานเสียงกลุ่มที่ไม่เอาทักษิณ ก็มีผู้สมัครอยู่ 4 คน คือ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ เบอร์ 4 พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เบอร์ 6 คุณสกล ภัทธยกุล เบอร์ 3 คุณรสนาโตสิตระกูล เบอร์ 7 ซึ่งกลุ่มนี้มีฐานเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์ กลุ่มพันธมิตร และกลุ่ม กปปส.

ดังนั้นการเสนอแคมเปญให้เลือกตั้งอย่างมียุทธศาสตร์นั้น น่าจะเป็นไปได้ยาก เพราะผู้สมัครแต่ละคน ก็มีฐานเสียง แฟนคลับ หรือกลุ่มผู้สนับสนุนค่อนข้างชัดเจน ซึ่งไม่สามารถทำใจไปเทคะแนนเสียงให้กับผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง ตามแนวทางการลงคะแนนอย่างมียุทธศาสตร์ตามที่ได้ขายความคิดในช่วงนี้ได้ เพราะผู้ลงคะแนนจะเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง กลัวผู้สมัครที่กลุ่มตนสนับสนุนจะได้คะแนนน้อยเกินไป จะเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ทางการเมืองได้

ส่วนตัวเห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะใช้ยุทธศาสตร์แบบ “ไม่เลือกเราเขามาแน่” เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ไม่น่าจะสำเร็จ เชื่อว่าคะแนนของผู้สมัครแต่ละคน จะแชร์กันเองในกลุ่มฐานคะแนนของแต่ละขั้ว อยู่ที่ใครจะมีฝีมือดึงคะแนนเสียงในขั้วตัวเองได้มากกว่ากันผู้สมัครคนอื่นๆ ผู้สมัครคนนั้นก็จะเป็นผู้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในครั้งนี้ ซึ่งสามารถฟันธงได้ว่า ขั้วเอาทักษิณ จะได้เปรียบขั้วไม่เอาทักษิณ เพราะมีตัวแชร์คะแนนน้อยกว่า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐจ่อขึ้นบัญชีดำธุรกิจฟอกเงินกัมพูชาโยงญาติฮุนมาเน็ต
ฮุนเซนวิงวอนนานาชาติหนุนกัมพูชาในศาลโลก
ฮุนเซนบอกคนไทยให้โทษกองทัพตัวเองถ้ากัมพูชาปิดด่าน
"สันติสุข" สวนแรง 6 คำขู่ "ฮุนเซน" ปลุกเขมรตอบโต้ไทย สุดท้ายทำปท.เดือดร้อน หลักฐานชี้ "พ่อลูกฮุน" ไม่ได้รักประชาชนจริง
"อนุทิน" เผยคุย "นายกฯอิ๊งค์" ไม่มีปมปรับครม. มั่นใจนั่งเก้าอี้มหาดไทยต่อ
"ฮุน มาเนต" โพสต์ส่งตัวแทนกัมพูชา ยื่นจดหมายถึงศาลโลกแล้ว ลั่นจะไม่ถอยหนี หวังฮุบ 4 พื้นที่พิพาท
เตือนภัย "มิจฉาชีพ" อ้างเป็นทนาย-ตำรวจ หลอกช่วยเหลือคืนเงินผู้เสียหายคดีออนไลน์ พบสูญเงินกว่า 10 ล้าน
"ทัพเรือ" แจงคลิป ทหารเขมรสอดแนม ฐานชำราก ยันเขตแดนไทยอยู่ห่างพื้นที่อ้างสิทธิ์ทางบก 200 เมตร
"ทหาร ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์" จับต่างด้าวเถื่อนลอบเข้าไทย จ่าย 55,000 ใช้ไทยทางผ่านไปทำงานมาเลเซีย
‘สุชาติ’ ขึ้นศาลไต่สวนมูลฟ้องคดีถูก ‘รักชนก- สหัสวัติ’ หมิ่นประมาท จ่อมอบทนายความฟ้องอีก 1 คดี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น