ใครที่ตามการเมืองมาตลอดและเป็นแฟนคลับที่คอยเอาใจช่วย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯให้บริหารประเทศไปได้ตลอดรอดฝั่งจนครบวาระในกลางปีหน้า พ.ศ.2566 ต้องยอมรับว่าช่วงปีที่ผ่านมา นับเป็นห้วงเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์พบกับความยากลำบากในการทำหน้าที่ในตำแหน่งสร.1 มากที่สุด นอกจากจะต้องเผชิญโรคห่าซาตานอย่างโควิด -19 ที่ทำให้คนไทยและคนทั่วโลกตายเป็นเบือ สังคมวิบัติ เศรษฐกิจพังพินาศยาวนาน 2-3 ปีแล้ว พอจะลืมตาอ้าปากขึ้นได้บ้าง เคราะห์ซ้ำกรรมซัดก็ดันเกิดสงครามรัสเซียบุกยูเครนอีกที่จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่จบ หนำซ้ำคนทั้งโลกก็ยังกังวลกลัวว่าจะบานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3
ทั้งโควิด-19 ทั้งสงครามหมีขาวกับยูเครนก็ว่าหนักแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลต้องเตรียมรับมือ แต่บิ๊กตู่ยังเจองานงอกปมการเมืองอีก ที่อยู่มาตั้งนานหลายปีไม่เคยมีใครมาทำให้ขุ่นเคืองใจ แต่ภายหลังพี่ใหญ่ 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์ อย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ตกปากรับคำขึ้นขี่หลังเสือยอมรับการนั่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ดูเหมือนเค้าลางความวุ่นวายเริ่มตามมาและเด่นชัดขึ้นสุดๆ ภายหลังพรรคพลังประชารัฐสถาปนา “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรค รอยร้าวและความโกลาหลในพรรคก็เกิดขึ้นทันที วีรกรรมของร.อ.ธรรมนัสที่ป่วนพล.อ.ประยุทธ์ปั่นรัฐบาลเรือเป๊ะ แค่ปีเศษแต่ผู้กองมีเอี่ยวเข้าไปก่อเรื่องยาวเป็นหางว่าว ไล่เรียงตั้งแต่การสลับพื้นที่รัฐมนตรีเข้าไปคุมสงขลา ภูเก็ต นครศรีธรรมราช ไปแย่งหัวเหนียวพุงปลาพรรคประชาธิปัตย์จนทำให้รัฐบาลกระเพื่อม ต่อมาก็เปิดศึกแย่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐกับกลุ่มสามมิตร ภายใต้การนำของสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ สมศักดิ์ เทพสุทิน และ อนุชา นาคาศัย ที่สุดก็ใช้พลังภายในและแบ็กใหญ่อย่างบิ๊กป้อมผงาดขึ้นเป็นแม่บ้านพรรคชนิดเบียดอนุชาให้ต้องยอมถอนตัวลาออก
ให้หลังมานั่งเป็นเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐใหม่ ก็ป่าวประกาศจะทำให้พรรคเป็นสถาบันการเมืองเป็นที่พึ่งของประชาชน รับตำแหน่งได้ไม่เกิน 3 เดือน ก็เกิดข่าวลูกสมุนส.ส.ก๊วนตัวเองในพรรค ออกมาทวงตำแหน่งรัฐมนตรีเกรดเอทั้ง รมว.แรงงาน รมว.เกษตรฯ ฯลฯ จากนายกฯ ให้ข่าวกดดันบิ๊กตู่ต้องปรับครม.ให้เหมาะสมกับฐานะของผู้กองที่เป็นเลขาธิการพรรคแกนนำรัฐบาล แต่เพราะ “โชคไม่เข้าข้าง” หรือ “วาสนาไม่ถึง” บิ๊กตู่ไม่เออออห่อหมกด้วยเพราะเหตุที่บ้านเมืองยังวิกฤติโควิด-19 ยังระบาด สุดท้ายปลายทางก็พาลโกรธนำไปสู่ปฏิบัติการเดิมเกมส์คว่ำนายกฯ ลงทุนจับมือกับพรรคฝ่ายค้านประสานคนแดนไกล ต่อท่อน้ำเลี้ยงเปิดหัวจ่ายเหมาสวนกล้วยแจกลิง ระหว่างศึกอภิปรายซักฟอก 31 ส.ค. – 4 ก.ย. 2564 เดชะบุญบิ๊กตู่ชะตายังไม่ถึงขาดเพราะคนดีผีคุ้ม จึงรอดสันดอนมาได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด แถมออกโรงอัดเอาคืนมีพวกแอบอ้างเจ้านายปล่อยข่าวทำลายว่าข้างบนไม่เอานายกฯ ทำตัวไม่เป็นสุภาพบุรุษ สุดท้ายจึงนำไปสู่การแตกหักหลังบิ๊กตู่ลงดาบอาญาสิทธิ์ฟันคอร.อ.ธรรมนัส พร้อมคู่หูอย่าง “อ.แหม่มม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน พ้นครม.เรือแป๊ะ
แต่ม้าป่าม้าพยศอย่างร.อ.ธรรมนัสก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์ แม้จะพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีแต่ยังเป็นเลขาธิการพรรค เรื่องเก่ายังเคลียร์ไม่จบปัญหาเรื่องใหม่ก็งอกขึ้นมาอีก หลังครม.อนุมัติโอน 4 หน่วยงานกระทรวงเกษตรฯ ที่เดิมเคยอยู่ในความดูแลของร.อ.ธรรมนัสไปให้พล.อ.ประวิตรกำกับดูแลแทน ทั้งที่จริงๆรองนายกฯที่รับผิดชอบ 4 หน่วยงานที่ว่านี้คือ “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่คุมงานกระทรวงเกษตรฯที่ตัวเองรับผิดชอบอยู่แล้ว เจอตบหัวไป 2 ดอกพรรคประชาธิปัตย์ก็อยู่ไม่ไหว ที่สุดบิ๊กตู่ต้องลงมาสะสางปัญหาให้ผู้กองอีก ป่วนรัฐบาลเสร็จก็มาปั่นในพรรคต่อวันดีคืนดีก็มีการเสนอชื่อ “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองทัพบกขึ้นเป็นประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เรื่องนี้คนวงนอกอาจไม่รู้แต่คนในกองทัพรู้ดีว่าร.อ.ธรรมนัสนับถือพล.อ.วิชญ์เหมือนเจ้านายอีกคน เพราะเป็นบัดดี้คู่ซี้กับนายเบอร์หนึ่งในดวงใจที่ชื่อ “เสธ.ไอซ์” พล.อ.ไตรรงค์ อินทรทัต มาเฟียทหารตท. 10 คนดังผู้ล่วงลับ การดึงพล.อ.วิชญ์เข้ามาในพรรคพลังประชารัฐก็หวังสร้างฐานอำนาจบารมีของตัวเองให้มากขึ้น ที่สำคัญใครเป็นทหารก็รู้พล.อ.วิชญ์ตท.11 คนนี้แหละที่เป็น “ไม้เบื่อ-ไม้เมา” เป็นคู่แคนดิเดตชิงตำแหน่ง ผบ.ทบ. ของพล.อ.ประยุทธ์ ตท.12 ระหว่าง “บิ๊กตู่-บิ๊กน้อย” นั้นในอดีตต่างก็เบียดกันเป็นน้องรักบิ๊กป้อมมาตลอด ระหว่างช่วงชิงอำนาจเป็น “แกนนำ” ในพรรคพลังประชารัฐก็เกิดเรื่องขบเหลี่ยมระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับร.อ.ธรรมนัสมาตลอด ถึงขั้นมีความพยายามจะล้างไพ่กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐใหม่เพื่อรื้อล้างกลุ่มก๊วนร.อ.ธรรมนัสให้สิ้นซากไปจากพรรคเพื่อที่ทุกอย่างจะได้สงบจบเสียทีแต่ก็ทำไม่สำเร็จ งัดกันอยู่นานยื้อกันหลายรอบสุดท้ายพรรคพลังประชารัฐก็มีมติขับร.อ.ธรรมนัสพร้อมพวกรวม 21 คนออกจากพรรค หลังนัดประชุมพรรควาระพิเศษเมื่อ 19 ม.ค.2565 ต้นปีที่ผ่านมา
แต่แทนที่การถูกขับออกจากพรรคจะทำให้ร.อ.ธรรมนัสสงบหมดฤทธิ์ ถูกขับออกมาเที่ยวนี้ยิ่งทำให้ร.อ.ธรรมนัสเหมือน “พยัคฆ์ติดปีก” ถูกอัปเปหิได้ไม่นานก็ตั้ง “พรรคเศรษฐกิจไทย” ดึงลูกพี่อย่างพล.อ.วิชญ์มาเป็นหัว มีลูกน้องส.ส.ตามมา 18 คน ประกาศจุดยืนเป็นพรรคอิสระตัดสินใจทุกอย่างบนผลประโยชน์ของประชาชน อย่างไรก็ตามตลอดระยะเวลาที่แยกตัวออกมาเป็นอิสระ ร.อ.ธรรมนัสไม่เคยเห็นหัวพล.อ.ประยุทธ์เลย ให้สัมภาษณ์ทุกครั้งแสดงออกทุกเรื่องในลักษณะ “พร้อมบวก-พร้อมเสียบ” พล.อ.ประยุทธ์ทุกเรื่อง ไม่เคยหลุดปากหนุนบิ๊กตู่ระบุสนับสนุนนายกฯที่มีเคมีตรงกันเท่านั้น เรื่องยกมือในสภาก็ดูกันเป็นเรื่องๆวันกันเป็นงานๆไป ความจริงถ้าเสียงในมือรัฐบาลมีมากกว่านี้พล.อ.ประยุทธ์อาจไม่ต้องแคร์ผู้กองไม่ต้องสนร.อ.ธรรมนัสเลย แต่บังเอิญรัฐบาลตู่ 2 ดันเป็นช่วงจังหวะขาลงองค์ประชุมไม่ครบ รัฐบาลเคยมี 267 เสียง พอก๊วนผู้กองออกไป 21 คน เสียงรัฐบาลก็หดลงมาเหลือ 246 คน ขนาด “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยช่วยดูดมาได้อีก 3 คน แต่ 249 เสียงของรัฐบาลก็ยังเสียงปริ่มน้ำอยู่ เพราะฝ่ายค้านมี 208 คน ถ้าได้พรรคเศรษฐกิจไทยของร.อ.ธรรมนัสไปอีก 18 คน รวมกันก็เป็น 226 คน เกือบถึงกึ่งหนึ่งของสภาคือ 238 คนจากส.ส.ในสภาทั้งหมด 476 คน เรียกว่าสามารถล้มรัฐบาลคว่ำลุงตู่ได้เลย ถ้านายใหญ่คนแดนไกลกล้าทุ่มจริงๆ ดึงพรรคเล็กพรรคน้อยมาสัก 12 คน ได้ส.ส.ปลาซิวปลาสร้อยมาเสริม แจกกล้วยหนักๆ ก็อาจพลิกเกมส์ได้
จับตามองการเมืองหลังจากนี้พรรคเศรษฐกิจไทยของร.อ.ธรรมนัสจะมีส่วนสำคัญยิ่งในการชี้ชะตาอนาคตรัฐบาลและเส้นทางเดินของพล.อ.ประยุทธ์ ทุกย่างก้าวของร.อ.ธรรมนัสจึงน่าสนใจยิ่ง ใครตามผู้กองตลอดจะเห็นว่าเจ้าตัวขยายฐานมวลชน เดินสายช่วยชาวบ้านทุกเรื่องทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็น ยากจน ถูกรถชน ถูกทำร้าย โดนโกง เรื่องไม่ชอบมาพากล ฯลฯ ใครเดือดเนื้อร้อนใจใครมีปัญหาเจ้าหน้าที่เข้าไม่ถึงรัฐช่วยไม่ได้กฎหมายเอาผิดไม่ทัน แต่ร.อ.ธรรมนัสและทีมงานจัดการได้หมดเคลียร์ได้ทุกเรื่อง แถมเน้นแต่คดีใหญ่ๆข่าวดังๆ เรื่องที่คนไทยสนใจล้วนๆ อาทิ อุปการะน้องฟ้าใสที่ถูกพ่อเลี้ยงทำร้าย , สร้างบ้านให้ยายขายพวงมาลัยวัย 80 ปีที่โดนพายุพัด , ช่วยเด็กหญิงวัย 14 ปีที่ถูกฟันมือขาด, ช่วยชาวบ้านที่โดนไฟไหม้ซอยสุขสวัสดิ์ , ช่วยยายวัย 71 ที่ถูกไล่ที่ขายล็อตเตอรี่, ช่วยน้องที่ถูกดาราขับรถชน และ ล่าสุดกรณีพระบิดา ฯลฯ ทั้งส่งทีมงานเร่งด่วนในพื้นที่ลงไปช่วยเหลือ ทั้งประสานผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้การตำรวจผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ลงไปแก้ปัญหาที่ “หน้างาน” ล่าสุดถึงขนาดต่อยอดกับบรรดา “อินฟลูเอนเซอร์” (Influencer) ผู้มีอิทธิพลในอินเตอร์เน็ตเหล่าคนดังในโลกโซเชี่ยลมีเดียส์ ล่าสุดก็เป็นกรณี หมอปลา กับ กัน จอมพลัง ลงไปจัดการพระบิดา ที่ จ.ชัยภูมิ มีปัญหาขัดข้องติดขัดตรงไหนให้รีบติดต่อประสานมา ทุกเรื่อง ทุกเวลา ทุกพื้นที่ เคลียร์ให้หมด ช่วยได้หรือช่วยไม่ได้คนไม่รู้ แต่หน้างานเอ่ยชื่อผู้กองเต็มๆ ทีมงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขร.อ.ธรรมนัสก็ส่งไปเพียบ แค่นี้ก็ได้หน้าได้ใจได้ศรัทธาจากชาวบ้านไปเต็มๆ ผู้กองออกตัวคนเดียวแต่ทั้งพรรคทั้งส.ส.เศรษฐกิจไทยได้คะแนนจากชาวบ้านไปเต็มๆ วางบทบาทเป็น “พ่อพระ” ช่วยเหลือคนตกยากของผู้กองเที่ยวนี้มีแต่ได้กับได้ เข้ากระเป๋าไปเต็มๆ
เรื่องพรรค์อย่างนี้ของแบบนี้อย่าประมาทผู้กองอย่าด้อยค่าร.อ.ธรรมนัส อดีตมือขวาเสธไอซ์ ท่องเที่ยวโลดโผนมาครบทั้งในทั้งนอกประเทศ เป็นหนึ่งในยุทธจักรคนกลางคืนชนิดไม่เป็นสองรองใคร หน้าใหญ่ใจโต มีคนรักทุกวงการทั้งทหารตำรวจ กวาดตานักการเมืองใหญ่ผู้มีบารมีในบ้านเมืองยุคนี้ หนึ่งในนั้นต้องมีชื่อร.อ.ธรรมนัสอยู่เบอร์ต้นๆอย่างแน่นอน ชั่วโมงนี้ไม่รู้ว่าร.อ.ธรรมนัสกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ สร้างความนิยมในตัวพรรคหรือหาแนวร่วมเอาไว้ล้มรัฐบาลพังขาเก้าอี้ของบิ๊กตู่ เพราะล่าสุดก็มีข่าวว่าถูกเทียบเชิญจาก “โจ้สารคาม” ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร จอมแฉเพื่อไทยไปวางแผนล้มนายกฯก่อนถูกบิ๊กป้อมต่อสายเบรกไว้ ไปๆมาๆ เลยไม่รู้ว่าพรรคเศรษฐกิจไทยเอาไงอยู่ทางไหนกันแน่ “ตัวช่วยรัฐบาล” หรือ “ตัวการล้มนายกฯ” แต่ถ้านับจากคำพูดของพล.อ.ประวิตรที่ยืนกรานกระต่ายขาเดียวทุกรอบว่าพรรคผู้กองยังหนุนพล.อ.ประยุทธ์ยังยืนอยู่ข้างรัฐบาลก็พอทำใจน่าเชื่อได้อยู่ แต่อนาคตหากร.อ.ธรรมนัสงอแงไม่ฟังไม่เดินตามลูกพี่ป้อม พรรคเศรษฐกิจไทยเกิดย้ายขั้วสลับข้าง รัฐบาลจะรับมือไหวไหมพล.อ.ประยุทธ์จะไปต่อยังไง หนักใจแทนลุงตู่ในการรับมือหอกข้างแคร่เล่มนี้จริงๆ เพราะเขี้ยวลากดินแถมมีแบ็กดี สู้กับผู้กองก็ว่าเหนื่อยแล้วบิ๊กตู่ยังต้องมาลุ้นวัดใจพี่ใหญ่ป้อมอีก จะจับมือสุมหัวจะคิดการใหญ่จะหักเหลี่ยมโหดกันหรือไม่ ยิ่งกระแส “นายกฯสำรอง-นายกฯคนนอก”แรงๆอยู่ ดูจากที่ขบเหลี่ยมปีนเกลียวกันมาตลอดร.อ.ธรรมนัสก็เสมือน “ระเบิดเวลา” ดีๆ ใกล้ตัวพล.อ.ประยุทธ์เลย ฟันธงนายกฯยังต้องเสียวยังต้องลุ้นแก้เกมส์ผู้กองอีกหลายรอบหากหวังจะลากรัฐบาลไปจบครบเทอมจริงๆ
////////////////