พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค.แถลงว่า ที่ประชุม ศบค. ได้รายงานการขยายเตียงเพิ่ม โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 11 แจ้งวัฒนะ ซึ่งเมื่อวานนี้ได้เชิญภาคเอกชนไปดูสถานที่ เพื่อปรับมาดูแลผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองและสีแดง ได้แก่ โรงพยาบาลผู้สูงอายุบางขุนเทียน จะพยายามปรับเตียงสีเหลืองเพิ่ม 70 เตียง สีแดงอีก 16 เตียง , โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ เพิ่มสีเหลือง 100 เตียง สีแดงอีก 40 เตียง และ โรงพยาบาลธนบุรี ร่วมกับมณฑลทหารบกที่ 11 เพิ่มสีเหลือง 200 เตียงและสีแดงอีก 55 เตียง โดยคาดว่าจะปรับพื้นที่ ระดมบุคลากรเข้าประจำการ และสามารถเปิดใช้ได้ในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ นอกจากนี้ยังขอความร่วมมือจากโรงพยาบาลภาคเอกชนทุกแห่ง เบ่งเตียง ขยายศักยภาพจำนวนเตียง และขอความสนับสนุนด้านบุคลากรทางการแพทย์ และบุคลากรด้านอื่นๆ ที่จะระดมเข้าไปช่วยเหลือเตียงที่จะเปิดใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ขณะที่ เครือข่ายโรงเรียนแพทย์ โดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นำเสนอในที่ประชุมว่า จะมีแพทย์ประจำบ้านที่จบใหม่อีกประมาณ 2,000 คน ที่จะเข้ามาช่วยเหลือในเดือนกรกฎาคมได้
ส่วนกรณีผู้ประกอบการต่างๆ ยื่นเรื่องเสนอให้ทบทวนการปิดหรือล็อกดาวน์นั้น ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า ศบค.รับฟังทุกฝ่าย และมีความเห็นใจลูกจ้างที่ทำงานในร้านเหล่านั้น เนื่องจากร้านถูกปิด ซึ่งกรมควบคุมโรค ได้เสนอให้ล็อกเป็นจุดๆ เช่น 1. ปิดเฉพาะพื้นที่ที่ความเสี่ยงสูง 2.ปิดเฉพาะคนกลุ่มเสี่ยง เช่น ในพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวติดเชื้อ 3. ปิดกิจการหรือกิจกรรมเสี่ยง มากกว่าที่จะปิดทั้งกทม.หรือทั้งจังหวัด อีกทั้งมีความเป็นห่วงว่า การล็อกดาวน์อาจจะไม่แก้ปัญหา แต่อาจจะสร้างปัญหาเพิ่มมากขึ้น เพราะเมื่อมีการล็อกมีการปิด คนก็อาจจะเดินทางกลับบ้าน และอาจจะแพร่กระจายเชื้อ