กรณี “นารา เครปกะเทย” หรือ นายอนิวัติ ประทุมถิ่น ทำคลิปวิดีโอและภาพนิ่งโปรโมทแคมเปญลดราคาสินค้าพิเศษของลาซาด้า (Lazada) แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ ตอน nara.aniwat 700 โดยมีลักษณะล้อเลียนผู้พิการและถูกมองว่าหมิ่นเหม่เข้าข่ายลบหลู่เบื้องสูง ตั้งใจทำโฆษณากระทบกระเทียบเจ้าฟ้าเจ้านาย จนสร้างความไม่พอใจให้คนไทยและสังคมไทยเป็นอย่างมาก ล่าสุดแม้จะมีความพยายามขอโทษคนไทยจากทางนารา บ.อินเตอร์เซคท์ ดีไซน์ แฟคทอรี่ จำกัด ซึ่งได้รับมอบหมายจาก บ.ลาซาด้า ให้เป็นผู้ประสานงานและติดต่อจัดทำคลิปโปรโมตแคมเปญ หรือแม้แต่ตัวบ.ลาซาด้าเอง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นการออกมาพูดหรือออกแถลงการณ์แบบเสียไม่ได้ ขายผ้าเอาหน้ารอดให้ผ่านๆจบๆไปเพื่อลดอุณหภูมิกระแสความไม่พอใจของคนในสังคมให้ลดน้อยลง ไม่ได้เกิดจากสำนึกหรือออกมาจากใจจริงของนารา บ.เอเจนซี่โฆษณา หรือแม้แต่ตัวบ.ลาซาด้า ต้นทางการเผยแพร่โฆษณาเหยียบย่ำหัวใจคนไทยแต่อย่างใด
สำหรับตัวนาราแม้จะออกมาขอโทษว่าไม่ได้มีเจตนาดูหมิ่นคนพิการและลบหลู่เจ้านายเจ้าฟ้าแต่อย่างใด แถมแก้เกี้ยวไปมอบเงิน 1 แสนให้สมาคมคนพิการเพื่อดับกระแส แต่เรื่องพรรค์อย่างนี้อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ คนไทยไม่ได้โง่ คนไทยไม่ได้กินหญ้า คนไทยรู้เท่าทันพวกคุณหมด แต่เขาไม่อยากออกมาต่อความยาวสาวความยืด ถ้าไม่เป็นเรื่องถึงที่สุดจริงๆ แต่เขารู้ “สันดาน” เขาทราบ “กำพืด” ของพวกเอ็งหมดว่าเป็นอย่างไร ใครสูงล้ำใครต่ำตมคนไทยใจบริสุทธิ์รู้ดี อดีตที่คุณทำสิ่งที่คุณเป็นทุกเรื่องที่คุณปั้นแต่ง มันส่อเจตนาลบหลู่ดูหมิ่นเจ้านายชั้นสูงเสมอมาและตลอดไป ขนาดทำผิดแล้วยังไม่สำนึกยังก้าวร้าวออกมาอัดคลิปว่าความจริงอยากทำให้หนักกว่านี้ แต่กลัวตำรวจจะจับกลัวผิดกฎหมายจึงเอาแค่นี้ ทั้งหมดก็บอกตัวตนชัดแล้วว่า เป็นพวก “ล้มเจ้า-ชังเจ้า” ติดในสันดาน ไม่มีทางคิดเป็นอย่างอื่นแบบอื่นได้ เรื่องพวกนี้มันอยู่ในสายเลือดของคุณจนยากจะปฏิเสธ แต่ก็ยังใช้ความหัวหมอเจ้าเล่ห์ตลบตะแลงเพื่อแก้ต่างแบบข้างๆคูๆ หาสำนึกไม่ได้เลยแม้แต่น้อย ด้านบ.เอเจนซี่ที่รับทำโฆษณาตัวนี้ ต้องถามว่าคุณเป็นคนไทยหรือป่าว คิดว่าเรื่องแบบนี้คนไทยจะยอมให้ปล่อยผ่าน คนไทยจะจำไม่ได้หรืออย่างไร คุณอาจจะได้ใจพวก “สามกีบ สามนิ้ว” เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่หลงผิดถูกชังจูงให้เกลียดเจ้าไม่เอาเจ้าแบบชั่วคราวประเดี๋ยวประด๋าว พอฝุ่นตลบเรื่องจางคุณก็จะรู้ว่า นรกมีจริงและคนไทยไม่เคยลืมเรื่องแบบนี้ บริษัทคุณจะมีงานกี่ตัว บริษัทคุณจะมีคนจ้างมาทำงานอีกกี่ชิ้น แต่คนไทยก็จะไม่ลืมว่าคุณเป็นบริษัทที่ตื่นเขินทางความคิด จ้างคนคิดไม่ดีกับสถาบันมาผลิตโฆษณาแบบบ้าๆบอๆ ไม่มีหัวคิดไม่รู้จักกาลเทศะไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง แม้แต่ “แก่น” แม้แต่เรื่องที่เป็นเครื่อง “ยึดเหนียว” จิตใจคนไทยทั้งแผ่นดิน คุณยังละเลยคุณยังละเมิดคุณยังเห็นดีเห็นงามกับความใจบาปหยาบช้าของคนพวกนี้ แบบไม่มีวุฒิภาวะแบบไม่มีการกลั่นกรองแบบไม่แยแสวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทยเลย แบบนี้บ.เอเจนซี่ของคุณจะอยู่ได้อย่างไร ใครจะเอางานไปให้ใครจะเอาเงินไปจ้างยกเว้นพวกคุณกันเอง แต่คนไทยส่วนใหญ่คงไม่เฉียดเข้าไป เพราะขนาดสถาบันอันเป็นที่รักและเคารพยิ่งของคนไทย คุณยังทำโฆษณาออกมาแบบเหยียบย่ำทำลาย เป็นคนไทยแบบไหน อยู่รูไหนของสังคม อยู่ส่วนใดของประเทศถึงไม่รู้ว่าโฆษณาเนื้อหาอุบาทว์แบบนี้คนไทยที่ไหนก็รับไม่ได้ ยกเว้นพวกสามกีบสามนิ้ว
สำหรับลาซาด้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวนี้บอกได้เลยว่าคุณพลาดมหันต์ พลาดที่มาลองดีกับความรู้สึกรักชาติรักสถาบันของคนไทย พลาดที่คิดว่าจะขายของขายโฆษณาหายเงินจากพวก “สามกีบ สามนิ้ว” ในไทย โดยไม่สนถูกผิดไม่สนวัฒนธรรมไทย พลาดที่ “ดูเบา” เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่สำนึกไม่ขอโทษไม่รู้ความไม่พอใจของคนไทย วันนี้คุณอาจหยิ่งทะนงว่าคุณเป็นบริษัทต่างชาติ คุณเป็นคนที่เข้ามาลงทุนในไทย คุณมีคนไทยอีกหลายหมื่นหลายแสนคนที่ยังอุดหนุนแอพคุณสั่งซื้อของผ่านลาซาด้า แต่เชื่อเถอะว่าหากคุณยังไม่เข้าใจ “ความรักของสถาบัน” ในหัวใจของคนไทยอย่างถ่องแท้ ความพินาศความล่มสลายของธุรกิจคุณของบริษัทคุณในประเทศไทยกำลังคืบคลานเข้ามาหาคุณอย่างช้าๆ คนไทยมี “เมตตา” อย่างที่สุด แต่ขณะเดียวกันคนไทยก็ “จำฝังใจ” ในทุกเรื่องที่ถูกกระทำต่ำช้าต่ำทรามอย่างไม่เคยลืมเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อเรื่องนั้นเกิดกับ “สถาบัน” 1 ใน 3 เสาหลักของประเทศไทย
ปรากฎการณ์ถอนตัวไม่ขอสังฆกรรมกับลาซาด้าของแบรนด์ดอยคำ ดอยตุง โครงการหลวงต่างๆ ตลอดจนคนไทยที่รักชาติรักสถาบันชัดเจนว่าเป็นการสั่งสอนลาซาด้าให้เรียนรู้การทำธุรกิจในประเทศต่างๆ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ทำธุรกิจจะให้รุ่งต้อง “อยู่ให้เป็น” ต้องเรียนรู้ว่าแต่ละ “ชาติ” แต่ละ “สังคม” เขามีอะไรที่ “นับถือ” มีอะไรที่ไม่ควรไป “เตะต้อง” ถ้าลาซาด้าคิดจะทำธุรกิจทำโฆษณาฝืนกระแสสังคมเพราะต้องการเอาใจพวก “สามกีบล้มเจ้า” ในประเทศไทยก็ลองดู ก่อนหน้านี้ก็เป็นองค์กรต่างๆ โครงการหลวงฯ คนดัง คนมีชื่อเสียง อาทิ เจนภพ จบกระบวนวรรณ นักจดหมายเหตุ-นักวิชาการเพลงไทยลูกทุ่ง, ภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ,นิติพงษ์ ห่อนาค นักแต่งเพลงชื่อดังของวงการเพลงไทย , กรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ,บิลลี่ โอแกน นักร้อง , อะตอม สัมพันธภาพ , ม.จ.จุลเจิม ยุคล , กนก รัตน์วงศ์สกุล ผู้ประกาศข่าวชั้นแนวหน้าของเมืองไทย , ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ฯลฯ ออกมาบอยคอตออกมาแบรนด์ลาซาด้า
ล่าสุดเรื่องนี้มันร้อนถึงขนาด ผู้บัญชาการเหล่าทัพที่เรืองอำนาจสุดของกองทัพไทย อย่าง “บิ๊กบี้” พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตแก้วแท้ ผบ.ทบ. ถึงกับทนไม่ไหวต้องออกโรงลงมาเล่นเองเรื่องนี้ เพราะสุดจริงๆทนไม่ไหวปล่อยผ่านไม่ได้กับพวกลามปามเจ้านาย ถึงขนาดสั่งการระหว่างประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) ประจำวัน ห้ามหน่วยทหารทั่วประเทศสั่งสินค้าสังฆกรรมกับลาซาด้า ร่วมถึงห้ามรถลาซาด้าเข้ามาส่งของในพื้นที่หน่วยทหารหรือค่ายทหาร แต่ยังยกเว้นกำลังพลสามารถสั่งซื้อสินค้าได้ แต่ต้องออกไปรับสินค้านอกพื้นที่หน่วยทหารโดยไม่ให้รถลาซาด้าเข้ามาเหยียบหน่วยโดยเด็ดขาด หลังบิ๊กบี้คำรามสั่ง “เอาคืน -ตบปาก” ลาซาด้าเพื่อปกป้องสถาบัน ไม่ทันข้ามคืน “บิ๊กติ่ง” พล.อ.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ เสนาธิการทหารบก (เสธ.ทบ.) ก็ส่งหนังสือเวียนถึงหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกทั่วประเทศ คาดโทษผู้บังคับหน่วยที่ฝ่าฝืนเรื่องนี้ “หากมีการตรวจพบการกระทำผิดต่อกรณีดังกล่าว จะถือว่าเป็นความบกพร่องของผบ.หน่วย ขอให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพบกและหน่วยรอง รวมทั้งกิจการต่างๆ ของกองทัพบกยืดถือปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด” ข้อความในหนังสือเวียนระบุ
หลังบิ๊กบี้ออกอาญาสิทธิ์สั่งห้ามหน่วยทำการค้ากับลาซาด้า รวมถึง ห้ามรถลาซาด้าเข้าหน่วยเข้าพื้นที่กองทัพบกทั่วประเทศ เพื่อเป็นการลงโทษตักเตือนไม่ให้ลาซาด้าทำธุรกิจแบบ “ฉาบฉวย-มักง่าย” หยามน้ำใจคนไทยแบบรับไม่ได้ แค่นั้นไม่พอบรรดาผบ.เหล่าทัพที่เหลือต่างพาเหรดออกมาแสดงพลัง “รับลูก” ในเรื่องนี้กันอย่างพร้อมเพรียง ไล่ตั้งแต่ “ผบ.ทร.- ผบ.ทอ.- ผบ.ทสส.” เริ่มจากพระราชวังเดิม กองบัญชาการทหารเรือ ทาง “ครูเฒ่า” พล.ร.อ. สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. ออกมาส่งสาส์น “ มีความเป็นห่วงในการนำความบกพร่องของบุคคลอื่นมาล้อเลียน จึงขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณในการรับชม ทั้งนี้กรณีดังกล่าวนับว่าเป็นเรื่องที่สังคมไม่ควรยอมรับหรือปล่อยผ่าน โดยปกติเรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นในประเทศที่ผู้คนมีจิตใจที่พัฒนาแล้ว จึงอยากขอให้ใช้วิจารณญาณอย่างยิ่งยวดในการนำผู้ป่วย ผู้พิการ รวมถึงผู้ที่มีความอ่อนแอในด้านต่างๆ มาใช้ เพราะจะชี้นำทำให้สังคมคนไทยของเราตกต่ำ และวอนขอประชาชน ไม่อดทนอดกลั้น (zero tolerance) กับการกระทำรูปแบบนี้
ขณะที่ทุ่งดอนเมือง ตึกแปดแฉก กองบัญชาการทหารอากาศ ทาง “บิ๊กป้อง” พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. ก็แสดงจุดยืนในเรื่องนี้อย่างชัดเจน “ กองทัพอากาศขอให้กำลังพล พิจารณาไตร่ตรองการสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าออนไลน์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นสิ่งที่กระทบต่อความรู้สึกของสังคม ไม่ให้เกียรติและลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกายหรือเจ็บป่วย ทั้งนี้ กองทัพอากาศให้ความสำคัญและตระหนักในคุณค่าของสังคมไทยที่อยู่ร่วมกันอย่างให้เกียรติซึ่งกันและกัน” ด้านกองบัญชาการกองทัพไทย แจ้งวัฒนะ ฝั่ง “บิ๊กแก้ว” พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ก็อยู่เฉยไม่ไหวกับเรื่องนี้ “เรามีความกังวลต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก เนื่องจากได้สร้างผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนชาวไทย ในขณะเดียวกัน กองทัพก็มีจุดยืนในด้านการพิทักษ์ ปกป้อง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะมิยอมให้กลุ่มบุคคลใดกระทำการล่วงเกินสถาบันสูงสุดของประเทศโดยเด็ดขาด ”
กรณีลาซาด้าในครั้งนี้ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ ผบ. 4 เหล่าทัพ คือ กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ออกมาตบเท้าแสดงพลัง CALL OUT การทำโฆษณาแบบไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของธุรกิจเอกชนอย่างพร้อมหน้ากัน งานนี้ไม่รู้ลาซาด้าตื้นเขินหรือตั้งใจ ที่ไปจ้างเอเจนซี่แบบไม่ดูตาม้าตาเรือ แถมเอเจนซี่ก็ดันไปจ้างพวกที่มีความคิด “สามกีบ-ล้มเจ้า” มารับงานอีก งานนี้ก็เลยเละตุ้มเป๊ะ ยังไม่รู้ว่าบทสรุปของเรื่องนี้จะไปจบที่ไหนลงเอยอย่างไร แต่เรื่องนี้จะกลายเป็น “บทเรียนราคาแพง” ของธุรกิจต่างชาติที่คิดเอาแต่ได้ ทำธุรกิจมุ่งกำไรไม่คิดให้รอบครอบ หรือหากตั้งใจให้ออกมาแบบนี้ก็ต้องพร้อมยอมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจของตัวเอง แปลกแต่จริงที่เรื่องใหญ่ข่าวใหญ่ขนาดผบ.เหล่าทัพออกมาแสดงพลังฮึมๆใส่ลาซาด้า ที่ลามปามเจ้าฟ้าด้อยค่าเจ้านายชั้นสูงที่มีคุณูปการมากมายกับคนไทยสร้างประโยชน์มหาศาลให้แผ่นดินนี้ ข่าวใหญ่ข่าวร้อนข่าวกระเทือนสถาบันแบบนี้ กลับปรากฎเป็นข่าวใหญ่แค่ในสื่อเล็กๆ สื่อทางเลือก สื่อดาวเทียม เท่านั้น ไล่เรียงได้เลยว่าข่าวลาซาด้าจ้างนาราทำโฆษณาออกมาหยาบช้าแบบนี้ จะมีเห็นมีเล่นกันสุดพลังในทุกช่องทางทุกแพลตฟอร์มก็แค่ใน ท็อปนิวส์ สถานีโทรทัศน์ที่ประกาศจุดยืนปกป้องสถาบันหลักของชาติมาตลอด
ส่วนสื่ออื่นๆที่นำเสนอข่าวนี้แบบแข็งขันอย่างมีพลังเพื่อปกป้องสถาบันที่เหลือก็มีแค่ ผู้จัดการ , ไทยโพสต์ , แนวหน้า รวมกัน 4 หัวยังไม่ได้เสี้ยวของวงการสื่อไทย ขณะที่ “สื่อหลัก” ไม่ว่าจะเป็นสถานีโทรทัศน์ดิจิตอลช่องต่างๆ แทบไม่หยิบมาพูดไม่มีการเสนอข่าวเรื่องลาซาด้าออกมาเลย ทั้งในรายการข่าวต่างๆ ทั้งในเว็บไซด์ ทั้งในสื่อโซเชี่ยลมีเดียส์ เรียกว่า “เงียบเป็นเป่าสาก” เช่นเดียวกับหนังสือพิมพ์ “หัวใหญ่” ของเมืองไทย บนแผงก็ไม่มีการนำเสนอข่าวนี้ขึ้น “พาดหัวตัวไม้” หรือ พาดหัวหน้า 1 เลย ไม่รู้เพราะเนื้อแท้เป็นสามกีบล้มเจ้าจึงเห็นด้วยกับเรื่องพรรค์แบบนี้หรือเพราะได้ค่าโฆษณามหาศาลจากค่าโฆษณา จึงอุดปากอุดปัญญาทำให้ต่อมรับรู้ความผิดชอบชั่วดีเสื่อมไปชั่วขณะ มันประหลาดดีแท้ สำหรับสื่อไทยยุคนี้สมัยนี้ ปากก็บอกประชาธิปไตยแต่ใจทุนนิยมชั่วช้าสามานย์ ปั่นถูกเป็นผิด บิดเท็จเป็นจริง ถือหางคนชั่ว ตีหัวคนดี เอาใจทุนชั่วช้ากันหมด จรรยาบรรณที่ถือก็แค่ลมปาก ชั่วดีถี่ห่างอย่างไร กูไม่สนไม่รับรู้ วันๆเอาแต่เสี้ยม วันๆเอาแต่เสนอข่าวล้มเจ้า ปั่นบ้านป่วนเมืองอย่างเดียว ผิดถูกดีเลวอย่างไรไม่เคยสะท้อนไม่เคยให้แสงสว่างกับสังคม ถ้าเป็นพวกกูฝ่ายกูทำอะไรก็ถูกทำอะไรก็ไม่ผิด ถึงผิดกูก็ไม่เสนอถึงชั่วกูก็ไม่ลงข่าวไม่ตีแผ่ความระยำของฝ่ายเดียวกัน แต่ถ้าเป็นฝ่ายตรงข้ามยืนคนละฝั่งทำผิดทำพลาดขึ้นนิดเดียว มาจะเหยียบจะย่ำให้จมดินชนิดเอากันไม่ให้ได้ผุดได้เกิดกันเลยทีเดียว นาราที่ว่าใจบาปแล้ว บ.เอเจนซี่ที่ไม่รับผิดชอบห่าเหวอะไรเลย ลาซาด้าแพลตฟอร์มยักใหญ่ที่ทำธุรกิจเอาแต่ได้ 3 กลุ่มคนพวกนี้เอาจริงๆ ต่อให้เลวร้ายยังไงแต่ก็ยังไม่อุบาทว์ชั่วช้าเหมือน “สื่อไทย” บางกลุ่ม บางจำพวก เกิดมาในแผ่นดินไทยแท้ๆ แต่ให้ค่าให้ราคาถือหางพวกเณรคุณชาติ ล้มล้างสถาบัน เสียชาติเกิดเป็นคนไทยจริงๆ
//////////////////