บริษัท นาดาว บางกอก จำกัด ได้แจ้งผ่านทวิตเตอร์ และเฟซบุ๊ก ข้อความว่า ขอแจ้งให้ทราบว่าทางบริษัทจะยุติบทบาทการเป็นบริษัทพัฒนา และดูแลศิลปิน รวมถึงการเป็นผู้ผลิตชีรีส์ ละคร หรือผลงานเพลงต่าง ๆ ตั้งแต่ วันที่ 1 มิถุนายน 2565 นี้ ตลอดระยะเวลา 12 ปีของ นาดาว บางกอก หน้าที่หลักของพวกเราคือ การพัฒนา และดูแลศิลปิน โดยมีความตั้งใจในการคันหา พัฒนา และดูแลให้เกิด นักแสดง หรือศิลปิน ที่มีความสามารถ มีคุณภาพ ในทุกด้านเพื่อที่จะเป็นท างเลือกใหม่ ๆ และสร้างความหลากหลายให้อุตสาหกรรมบันเทิงไทย
ข่าวที่น่าสนใจ
โดยมีงานเสริมที่ตามมา คือ การผลิตซีรีส์ ละคร และผลงานเพลง ซึ่งเกิดขึ้นเพื่อสร้างงาน และสร้างโอกาสให้นักแสดง หรือศิลปินในสังกัดได้เป็นที่รู้จักมากขึ้น และเป็นพื้นที่ฝึกฝนฝีมือ และประสบการณ์ ในส่วนนี้ทำให้เราได้มีโอกาสสร้างคนทำงานเบื้องหลังรุ่นใหม่ ๆ ตามมาด้วย
พวกเราชาว นาดาว บางกอก รู้สึกขอบคุณ พี่ ๆ น้อง ๆ ในอุตสาหกรรมบันเทิง ผู้ใหญ่ที่เคารพทุกท่าน พาร์ตเนอร์ที่คอยสนับสนุน และอยู่เคียงข้างเรามาตลอด พี่ ๆ น้อง ๆ สื่อมวลชนที่ให้โอกาสศิลปิน นักแสดงและผลงาน นาดาว บางกอก ได้มีพื้นที่แนะนำตัว และประชาสัมพันธ์ รวมถึงแฟน ๆ ทุกคนที่ติดตาม และให้การสนับสนุนศิลปิน และผลงานนาดาวเสมอมา
เราคงไม่สามารถดำเนินการมาจนถึงปีที่ 12 โดยขาดการสนับสนุนจากทุกคน นาดาว บางกอก ขอขอบคุณทุกท่านจากใจจริง มาถึงวันนี้ ศิลปิน นักแสดง นาดาว บางกอก หลายคนล้วนเติบโตพอที่จะตัดสินใจเรื่องหน้าที่การงานเลือกวิธีการดูแล และเส้นทางในอนาคตด้วยตัวเอง รวมถึง พี่ ๆ ที่นาดาวหลายคนก็มีเป้าหมายในชีวิตที่จะไปต่อแตกต่างกันไป จึงถึงเวลาอันสมควรแล้วที่ นาดาว บางกอก จะขอยุติบทบาทการพัฒนา และดูแลศิลปิน รวมถึงการผลิตละคร ซีรีส์ และงานเพลงภายใต้ชื่อบริษัท นาดาว บางกอก และนาดาว มิวสิค นาดาว บางกอก
อาจฟังดูเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กระทันหัน แต่ภายในเราปรึกษาเรื่องนี้มาสักระยะ และเป็นเหตุผล ที่ก่อนหน้านี้ ศิลปิน นาดาว บางกอก หลาย ๆ คนที่พร้อมไปดูแลตัวเอง ทยอยออกไปเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของตัวเองกันแล้วนี่ไม่ใช่การกล่าวลาเพื่อสิ้นสุดลง แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้มีอิสระเพื่อเติบโต และเริ่มต้น
เส้นทางใหม่ของตัวเอง งานต่าง ๆ ที่เริ่มต้นค้างไว้ในชื่อ นาดาว บางกอก เช่น ซีรีส์ จะถูกส่งต่อไปยังโปรดิวเซอร์ หรือผู้กำกับ ให้ไปทำต่อบนการตัดสินใจของพวกเขาเอง ส่วนงานเพลงจะดำเนินต่อไปในนามของศิลปินคนนั้น ๆ และน้อง ๆ นักแสดงแต่ละคนจะถูกพาไปแนะนำในสายงานที่เขาสนใจฝากติดตาม และให้กำลังใจในก้าวต่อ ๆ ไปของพวกเราทุกคนด้วยนะครับขอบคุณทุกคนอีกครั้งตลอด 12 ปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้นอกจากบทบาทในวงการบันเทิงแล้ว ในช่วงการชุมนุมของกลุ่มม็อบราษฏรที่ยังเข้มข้นเมื่อช่วง 2 ปีที่ผ่านมา “ย้ง ทรงยศ สุขมากอนันต์” ผู้บริหารค่ายนาดาว ได้สร้างปรากฏการณ์นำดาราในสังกัด ออกมา “คอลเอาท์” ติดแฮชแทค # SAVE แกนนำไม่ว่าจะเป็น รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ เพนกวิ้น พริษฐ์ ชิวารักษ์ รวมถึงแสดงความไม่เห็นด้วยปฏิบัติการสลายการชุมนุมนุมของรัฐบาลและตำรวจเป็นระยะ ไม่ว่าจะเป็น เจเจ กฤษณภูมิ พิบูลสงคราม, แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์ , ไอซ์ พาริส อินทรโกมาลย์สุต , ต้าเหนิง กัญญาวีร์ สองเมือง
นอกจากนี้ ย้ง ทรงยศ ยังเคยออกมาโพสต์อินสตาแกรม ระบุว่า “ขอโทษที่วันนั้นพี่รู้และเข้าใจได้แค่นั้น วันนี้สู้ๆนะเด็กๆ #1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ” หลังจากซีรีส์ดังของค่ายนาดาว เรื่อง “ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น” ที่ส่งให้หลายคนโด่งดังกลายเป็นนักแสดงขวัญใจของแฟนคลับ และยังเป็นซีรีส์ที่สะท้อนความคิดของวัยรุ่นหลายๆคน มีฉากในความทรงจำฉากหนึ่ง เมื่อนักเรียนในโรงเรียน ต่างใส่ชุดไปรเวตมาเรียน ตั้งคำถามถึงความจำเป็นที่จะต้องใส่ชุดมาโรงเรียน ซึ่งครูได้ยกตัวอย่างอธิบายว่า ชุดนักเรียน มีไว้เพื่อบอกว่า อาชีพไหนควรทำอะไรไม่ควรทำอะไร ประเทศที่เจริญแล้วอย่างญี่ปุ่น ก็ใส่ ทุกคนมีเหตุผลของมัน และเมื่ออยู่ที่โรงเรียนก็ควรเคารพ โดยการโพสต์ ขอโทษของ “ย้ง ทรงยศ” มีขึ้นหลังกลุ่มนักเรียนเลว และเครือข่ายออกมาคัดค้านการใส่ชุดนักเรียนไปโรงเรียน แต่สนับสนุนให้ใส่ชุดไปรเวทแทนเมื่อช่วงปลายปี 63
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
