“ลาซาด้า” ถ่วงเวลา ไม่ให้ลูกค้าปิดบัญชีแอปฯ อ้างทำได้แค่ระงับเข้าใช้งาน

“ลาซาด้า” ถ่วงเวลาไม่ให้ลูกค้าปิดบัญชีแอปฯ อ้างทำได้แค่ระงับเข้าใช้งาน โซเชียลยกกฎหมายขู่ยื้อได้ถึง 31 พ.ค. หากเกินเสี่ยงถูกปรับทางแพ่ง-ผู้บริหารอาจติดคุก

หลังเกิดกระแสแบนลาซาด้าและปิดบัญชีการใช้งาน เพราะไม่พอใจที่มีการทำคลิปวิดิโอโปรโมทแคมเปญลดราคาสินค้าที่มีเนื้อหาล้อเลียนเบื้องสูง อย่างไรก็ตามล่าสุดพบว่า มีการถ่วงเวลาไม่ให้ปิดบัญชี เนื่องจากผู้ที่จะปิดบัญชีการเป็นลูกค้าแอปพลิเคชั่นลาซาด้า ไม่สามารถปิดบัญชีได้ โดยระบบของแอปพลิเคชั่นลาซาด้าประเทศไทยได้แจ้งว่า ลาซาด้าขอเรียนให้ทราบว่าการดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีสมาชิกนั้น ทำได้เพียงการระงับการเข้าใช้งาน ซึ่งเมื่อดำเนินการแล้ว จะไม่สามารถเข้าใช้งานได้อย่างถาวร ทางเราขออภัยในความไม่สะดวก มา ณ ที่นี้ด้วย

ขณะที่เพจเฟสบุ๊ก CasteR G TROY ได้โพสต์ข้อความว่า หลังจากมีกระแสแห่ปิดบัญชีผู้ใช้งาน ตอนนี้ Lazada แก้เกมส์ด้วยการทำได้แค่ระงับบัญชีชั่วคราว เหตุผลน่าจะเป็นการดึงเอาไว้เพื่อให้เรื่องซาไปก่อน เพราะคิดว่าคนไทยลืมง่าย หลังจากนั้นก็จะอัดแคมเปญยั่วยวนใจ เหมือนสีกายั่วพระที่ริมเขื่อน พอเจอยั่วด้วยโปรโมชั่นมากๆเข้า เดี๋ยวก็คงจะกลับไปใช้งานเอง แต่ไม่ต้องกังวล อยากดึงเวลาก็ดึงไป เพราะวันที่ 1 มิถุนายน 2565 พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 จะมีบทลงโทษทางแพ่ง สูงสุดปรับถึง 5 ล้านบาทต่อราย กรณีที่บริษัทเอาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไปทำการตลาด นอกจากผิดทางแพ่งแล้ว ผู้บริหารจะโดนคุกอีก

ข่าวที่น่าสนใจ

 

สำหรับกฎหมายฉบับนี้ ออกมาตั้งแต่ปี 2562 แต่มีการขอเลื่อนส่วนบทลงโทษแพ่งสูงสุด 5 ล้าน และ กรรมการ หรือ CEO จำคุก 1 ปี จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 ดังนั้นหมายความว่าวันที่ 1 มิถุนายน 2565 ใช้สามารถใช้สิทธิฟ้องลงโทษได้ ถ้าไม่มีใครมาเลื่อนบทลงโทษของพระราชบัญญัติฉบับนี้อีก ดังนั้นบทสรุปคือ ลาซาด้าดึงเวลาได้แค่ 31 พฤษภาคม 2565 เท่านั้น ถ้ายังดื้อดึงไม่ปิดบัญชีตามความต้องการของผู้ใช้งาน บริษัทอาจจะมีความเสี่ยงถูกปรับทางแพ่ง และ ผู้บริหารก็อาจจะติดคุกได้ ถ้ามีการเอาข้อมูลไปใช้ โดยไม่ได้รับอนุญาต

ทั้งนี้รายละเอียดของ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล 2562 ได้บัญญัติไว้ว่า เจ้าของข้อมูลมีสิทธิการขอเข้าถึง การโอน การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลหรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตน เป็นต้น

หากมีการใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ ก็จะมีความผิดตามมาตรา 79 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรโดยมิชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ตามมาตรา 79 วรรคสอง ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อีกทั้งหากล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติฉบับนี้ ถ้าผู้นั้นนำไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น ตามมาตรา 80 วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงมีความผิดในทางปกครอง ตามมาตรา 82 – 90 โดยมีโทษปรับทางปกครอง 500,000 บาท ถึง 5,000,000 บาท อีกทั้งผู้เสียหายอาจใช้สิทธิเรียกร้องในทางแพ่งหรือความผิดตามกฎหมายอื่นได้อีกด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน
ก.แรงงานทำสำเร็จ นำประชุมบอร์ดค่าจ้าง ได้ข้อสรุป ปรับขั้นต่ำขึ้น 400 ต่อวัน เริ่ม 1 ก.ค.ทั่วกรุงฯ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น