No data was found

“ปลดล็อคท้องถิ่น-ยุติรัฐราชการ” ก้าวใหม่บ่อนทำลายชาติ

กดติดตาม TOP NEWS

ธนาธรรุกหนัก ยกเลิก “ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน” ปักธง “ปลดล็อกท้องถิ่น-ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ” ล่าชื่อคนไทยแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 หวังปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น บิดเบือนมรดกของดีที่สถาบันทำให้ ขายฝันปฏิรูปท้องถิ่นได้งบมากขึ้น บริหารจัดการตัวเองได้ตามต้องการ คณะก้าวหน้ารับลูกโหมกระแสสุดพลังจัดเวทีรับฟังความเห็นในต่างจังหวัด 3 ป. รู้เรื่องไหม ฝ่ายความมั่นคงทำอะไรเพื่อป้องกันหรือยัง ธนาธรรุกหนัก ยกเลิก “ผู้ว่าฯ นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน” ปักธง “ปลดล็อกท้องถิ่น-ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ” ล่าชื่อคนไทยแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 หวังปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น  บิดเบือนมรดกของดีที่สถาบันทำให้ ขายฝันปฏิรูปท้องถิ่นได้งบมากขึ้น บริหารจัดการตัวเองได้ตามต้องการ   คณะก้าวหน้ารับลูกโหมกระแสสุดพลังจัดเวทีรับฟังความเห็นในต่างจังหวัด 3 ป. รู้เรื่องไหม ฝ่ายความมั่นคงทำอะไรเพื่อป้องกันหรือยัง

หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 10 พ.ย.2564 กรณีการชุมนุมของม็อบราษฎร ภายใต้การนำของ “ทนายอานน์” อานนท์ นำภา , “ไมค์” ภาณุพงศ์ จาดนอก และ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล กรณีจัดการชุมนุมและปราศรัย เมื่อ 10 ส.ค.2563 ณ  ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ว่าเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข รวมถึงพิพากษาว่ากลุ่มองค์กรที่เคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกันนี้ ถือว่าเป็นพฤติการณ์ “เซาะกร่อนบ่อนทำลาย” ระบอบประชาธิปไตยและสถาบันพระมหากษัตริย์  อ้างว่าต้องการเสรีภาพแต่ระหว่างการปราศรัยกลับใช้ถ้อยคำหยาบคายต่ำช้าสามานย์ละเมิดสิทธิของคนอื่น   ดูเหมือนการคเลื่อนไหวของกลุ่มสามนิ้วและเครือข่ายล้มเจ้าจะเงียบหาย หยุดการเคลื่อนไหวอย่างมีนัยยะสำคัญไปพักใหญ่ ด้วยเหตุที่แกนนำหลายคนล้วนมีคดีอาญาติดตัวยาวเป็นหางว่าว ต้องขึ้นศาลต้องถูกลงโทษจำคุกตามความผิดที่ตนได้ก่อได้สร้างไว้ ขณะที่เงินและท่อน้ำเลี้ยงที่เคยล้นหลามก็เริ่มร่อยหรอลงตามลำดับ ด้านแนวร่วมคนหนุ่มสาวที่เคยหลงผิดไปสนับสนุนหลายคนก็เริ่มหูตาสว่าง เมื่อความจริงเริ่มปรากฏว่าการออกมาเคลื่อนไหวปลุกระดมคนให้ล้มเจ้าไม่เอาสถาบัน  แท้จริงจุดมุ่งหมายก็เพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้องและตัวเอง  หาได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานความอยู่ดีกินดีและเท่าเทียมกันของคนในสังคมตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด

“คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” ต้นทางแนวคิดล้มเจ้ากลุ่มคนผู้บุกเบิกไอเดียไม่เอาสถาบันอ่านเกมส์นี้ออก  ว่าการออกมาเคลื่อนไหวแนวเดิมๆ หากินกับคนเมืองในเรื่องไม่เอาสถาบันไม่เอาเจ้าคงยากที่จะไปถึงฝั่งฝัน เพราะคนไทยส่วนใหญ่ถูกปลูกฝังให้เคารพเทิดทูนสถาบันพระมหากษัติรย์มาตั้งแต่โบราณกาล ขณะที่ความกตัญญูก็เป็นจุดเด่นสำคัญของคนไทย ให้บิดเบือนยังไงโกหกตอแหลมากมายขนาดไหนก็ล้างสมอง “คนไทยแท้” ในเรื่องนี้ไปไม่ได้  จะมีเยาวรุ่นคนรุ่นใหม่ที่ถูกชังจูงหลงผิดไปบ้าง แต่บางส่วนก็เริ่มเข้าใจบางส่วนเริ่มรู้ทันจึงไม่ตกเป็นเครื่องมือของพวกชังชาติที่คิดอ่านทรยศแผ่นดิน ส่วนที่เป็นแฟนพันธุ์แท้  “คณะก้าวหน้า-พรรคก้าวไกล” ก็มีอยู่มาก แต่ก็คงไม่มีพลังเพียงพอที่จะพลิกประเทศไทยจากถูกเป็นผิดตามกลุ่มชังชาติเกลียดเจ้าที่ออกมาปลุกระดับเรื่องนี้ไปได้ ก่อนหน้านี้อย่างที่ทุกคนทราบดีหลังพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ บรรดาแกนนำอย่างธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ , ปิยะบุตร แสงกนกกุล , พรรณิการ์ วานิช ฯลฯ  ผันตัวไปตั้งคณะก้าวหน้า พร้อมจัดกิจกรรมสารพัดแต่หลักใหญ่ใจความเน้นจัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายในท้องถิ่น พุ่งเป้าขยายฐานต่างจังหวัด หวังซื้อใจ “รากหญ้า-รากแก้ว” ให้คล้อยตามไปกับแนวคิดล้มเจ้าไม่เอาสถาบัน

ล่าสุดคิดมุกใหม่ ก้าวครั้งใหม่ แต่ยังไม่พ้นวังวนเดิมคือบ่อนทำลายชาติ  ด้วยการผุดแคมเปญ “ ปลดล็อกท้องถิ่น ยุติรัฐราชการรวมศูนย์ ”  เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2565 ที่ผ่านมา  ถือฤกษ์วันครบรอบ 130 ปีของการปฏิรูปการปกครองแผ่นดินครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปีพ.ศ. 2435 เป็นจุดเริ่มต้นของงานนี้คู่หู “ธนาธร-ปิยะบุตร”  ขายฝันปลดล็อคการเมืองท้องถิ่น “ยุติรัฐราชการรวมศูนย์”  ประกาศต่อไปประเทศไทยไม่ต้องมีผู้ว่าราชการที่มาจากการแต่งตั้งจากรัฐบาลกลาง แต่ให้เอาอำนาจทั้งหมดไปให้กับนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกฯอบจ.)  ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ให้มีอำนาจในการออกแบบนโยบาย จัดเก็บภาษี จัดการทรัพยากรในจังหวัดของตนเองได้  ขณะที่ระดับเมืองก็ยกเลิกตำแหน่งนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพราะมีนายกเทศมนตรีที่บริหารในระดับเทศบาล มีนายกองค์การบริหารส่วนตำบล ( นายก อบต.)  ทำหน้าที่อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องไปเพิ่มอำนาจ งบประมาณ และบุคคลากรให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ให้ผู้บริหารแต่ละเทศบาล ให้แต่ละ อบต.สามารถตัดสินใจด้วยตนเองได้อย่างแท้จริง

งานนี้มีการเดินสายขอความร่วมมือให้ประชาชนลงชื่อ เพื่อนำไปสู่การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญหมวด 14 ในเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่น  ล่าสุดลงทุนเดินสายไปภาคอีสาน หลายจังหวัด อาทิ ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร ฯลฯ  รวมถึงภาคเหนือที่เชียงใหม่  หวังขับเคลื่อนแนวคิดเรื่องนี้รวมทั้งหาแนวร่วมลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นไปตามเป้าหมาย   “ เขาบอกว่าคนต่างจังหวัดโง่จึงจน เขาบอกว่าที่จนเป็นเพราะชาติที่แล้วทำบุญมาไม่พอ ผมปฏิเสธที่จะเชื่อ อย่างนั้น สิ่งที่ผมเชื่อคือความจน ความเหลื่อมล้ำ ล้วนเกิดจากอำนาจที่ไม่เท่าเทียมกัน และนี่คือหลักใหญ่ใจความของร่างรัฐธรรมนูญที่เราเสนอ เพื่อให้เกิดการจัดสรรอำนาจและงบประมาณเสียใหม่ การจัดสรรรายได้ของแผ่นดินวันนี้ แบ่งเป็น 70% ให้ส่วนกลาง อีก 30% ให้ท้องถิ่น 7 พันกว่าแห่งไปแบ่งกันเอง ถ้าคิดตามรายได้แผ่นดินของปีงบประมาณ 2565 คือ 2.49 ล้านล้านบาท จะมีเงินมาถึงท้องถิ่นเพียง 7 แสนล้านบาท เฉลี่ยไปในท้องถิ่น 7 พันกว่าแห่งเท่านั้น  ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ การจัดสรรภาษีจะถูกเปลี่ยนเป็นส่วนกลาง 50  ท้องถิ่น 50 ท้องถิ่นจะได้งบประมาณรวมกันกว่า 1.2 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 5 แสนล้านบาท เมื่อหาร 7 พันกว่าแห่ง เท่ากับว่าท้องถิ่นทุกที่จะได้งบประมาณเพิ่มขึ้นอีกที่ละเฉลี่ย 63 ล้านบาทต่อปี  สิ่งนี้จะเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นตางๆ สามารถซ่อมถนน สร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็กที่ดีให้ลูกหลานของเรา ลงทุนในน้ำประปา จัดสวนสาธารณะที่ดีให้ทุกคนได้ จะเปิดโอกาสให้ท้องถิ่นและคนทุกคนกำหนดทิศทางการพัฒนาท้องถิ่นของตัวเองได้   ถ้าไปดูประเทศที่เจริญแล้วทั้งหมดในโลก ระบบการปกครองเป็นแบบนี้ทั้งหมด มีการแบ่งงานและแบ่งภาษีอย่างเป็นธรรม ไม่มีประเทศไหนที่มีผู้ว่าแต่งตั้งจากส่วนกลาง แล้วมีอำนาจผู้บริหารที่แต่งตั้งจากประชาชนนั่งซ้อนกันอยู่ จนสับสนวุ่นวายทั้งในเรื่องอำนาจและงบประมาณแบบประเทศไทย” ธนาธรขายฝันสวยหรูดูดีให้คนต่างจังหวัดฟัง

แต่แนวคิด “สุดขั้ว-สุดโต่ง” ของธนาธร ก็มีคนรู้ทันและหลายคนก็รู้เหลี่ยมรู้กำพืดของคณะก้าวหน้าเป็นอย่างดี ชนิดอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่  ในจำนวนนั้นประกอบด้วย “หมอวรงค์” วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดีที่ออกมาซัดคณะก้าวหน้าแบบไม่ยั้ง   ว่ามุ่งหวังในการเสนอเรื่องนี้เพื่อทำลายโครงสร้างการยึดโยงความเป็นรัฐเดียวของไทยใช่หรือไม่  ตั้งใจแบ่งแยกประเทศให้เป็นสมาพันธรัฐแบบฝรั่งใช่หรือไม่   ไพศาล พืชมงคล อดีตที่ปรึกษา “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ก็ออกมาสับแหลกธนาธรไล่ให้ไปอ่านราชกิจจานุเบกษาที่ประกาศในสมัยพระพุทธเจ้าหลวง ร.5 ที่พระองค์ทรงมีกุศโลบายอันแยบยลลึกล้ำขนาดไหนในการปกครองบ้านเมือง  “ ผมไม่เห็นด้วยที่จะให้โอนอำนาจนี้แก่ อบจ. ซึ่งสะท้อนว่าคุณธนาธร ไม่เข้าใจระบบการปกครองของประเทศ จึงอยากจะแนะนำให้คุณธนาธร ลองไปค้นคว้าศึกษาราชกิจจานุเบกษาทั้งหมดที่ได้จัดพิมพ์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็จะได้รู้ได้เห็นได้เข้าใจถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระปัญญาคุณของสมเด็จพระมหาราชเจ้าพระองค์นั้น ว่าทรงมีพระปัญญาทัศนะที่สุขุมลุ่มลึก กว้างไกล ก้าวล้ำไปในอนาคตขนาดไหน และเมื่อเข้าใจแล้ว ก็อาจเป็นที่ตั้งให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และดีงามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา ว่าไม่ได้ด้อย หรือย่อหย่อนกว่าประมุข หรือผู้นำใด ๆ ในโลกนี้เลย” ไพศาลสบช่องสอนตี๋น้อย

แม้กระทั่งอุเทน ชาติภิญโญ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. หมายเลข ก็ต้องหยุดหาเสียง แบ่งเวลามาจวกธนาธรเมาแดดเพ้อเจ้อกลางวันเรื่องโละนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  “ แนวคิดนี้ เป็นหลักคิดที่เพ้อเจ้อและไม่เข้าใจระบบระเบียบการบริหารส่วนภูมิภาค ที่จำเป็นต้องมีการประสานงานกับส่วนกลางผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ รวมไปถึงกำนันและผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งปัจจุบันยังคงมีความจำเป็นที่ยังต้องมีนายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่ ซึ่งถือเป็นส่วนการปกครองที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด แต่ควรมีการปรับปรุงที่มีของการเข้าตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ให้เหมาะสม…..แทนที่จะคิดกำจัด นายอำเภอ กำนัน และ ผู้ใหญ่ ในทางกลับกันการเลือกตั้งในระดับเทศบาล และ อบต.ที่มีปัญหาซื้อสิทธิ์ขายเสียงมีอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องโดยตลอด และทวีความรุนแรงมากขึ้นด้วยซ้ำในระยะหลัง อาจจะถึงเวลาพิจารณาว่ายังควรมีเทศบาล และ อบต.ที่ถูกมองว่าเป็นแหล่งแสวงหาผลประโยชน์ จนถูกขนานนามว่าเป็นสภาผู้รับเหมาอยู่หรือไม่มากกว่า” อุเทนชี้ทางสว่าง

วันนี้ธนาธรกับคณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกลยังเดินหน้าเรื่องนี้ไม่หยุด ฉากหน้าประกาศปลดล็อกท้องถิ่นทำท่าขึงขังยุติรัฐราชการรวมศูนย์  ฉากหลังก็อย่างที่รู้กันอยู่ต้องการแบ่งแยกแล้วปกครอง บิดเบือนทำลายมรดกของดีที่สถาบันสร้างมาให้วิบัติ  ผุดแนวคิดบ้าบอตามเป้าหมายหวังตั้งอาณาจักร “พิสดารแลนด์” เป็นของตัวเอง  ล่าสุดไม่รู้เกี่ยวกันไหมกับที่ธนาธรทำคณะก้าวหน้าดำเนินการอยู่    ไม่กี่วันที่ผ่านมา 60 องค์กรภาคประชาชนเมืองเชียงใหม่  ตั้งโต๊ะอ่านแถลงการณ์ขอเรียกร้องสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดของตัวเอง  ถามว่าไอเดียสุดเพี้ยนของธนาธรแนวคิดรื้อล้างการเมืองท้องถิ่นสุดโต่ง  ใช้วิธีการซึมลึกถึงหัวเมืองคนต่างจังหวัด  เรื่องไม่ชอบมาพากลเขย่าการปกครองเกิดในบ้านเมืองแบบนี้  พี่น้อง 3 ป.บูรพาพยัคฆ์ อย่าง  พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ พล.อ.ประวิตร  รวมถึงบรรดาฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ท่านรู้บ้างไหม รู้แล้วได้ทำอะไรเพื่อป้องกันแนวคิดแบบนี้บ้าง หรือมัวแต่ทะเลาะกันเรื่อง “นายกฯสำรอง – นายกฯคนนอก” จนลืมความเป็นไปของบ้านเมือง

////////////////////////////

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เมืองพัทยา คึกคัก กองเรือพิฆาตเทียบฝั่ง ทหารอเมริกันยกพลขึ้นบกท่องเที่ยว
ชาวเน็ตแห่แชร์ภาพคุณยายวัย 89 ปี อยู่คนเดียว สุดรันทดในบ้านไม้ผุพังไม่มีหลังคาบังแดดบังฝนวอนหน่วยงานเร่งช่วยเหลือ
"หมอธีระวัฒน์" แจ้งข่าวลาออก หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาฯ หลังวิจารณ์ปมวัคซีนโควิด หวั่นกระทบภาพลักษณ์องค์กร
"รทสช." ยังไม่นิ่ง! สะพัด "เสี่ยเฮ้ง" รีเทิร์นคั่วเก้าอี้ "รมช."
สลด "นศ.สาวปี 3" รอมอบตัว หลังใช้มีดไล่แทง "แฟนหนุ่ม" บาดเจ็บสาหัส
“ศุภมาส” จับมือเยอรมนีลงนามปฏิญญายกระดับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของ 2 ประเทศครอบคลุม 10 กิจกรรม
อบต.บางคา อ.ราชสาส์น ขานรับนโยบายกระทรวงมหาดไทย เปิดงาน"MOI Waste Bank Week - มหาดไทยปักธงประกาศความสำเร็จการจัดตั้งธนาคารขยะ
จัดพิธีพุทธาภิเษก "ท้าวเวสสุวรรณจันทรา ปางพระคุณ ปางพระเดช" เข้มขลัง ยิ่งใหญ่มีสาธุชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง
กาญจนบุรี กฟภ.ตรวจพบบ้านใช้กระแสไฟฟ้าผิดปกติ เข้าตรวจพบกำลังขุดบิทคอยน์ โดยลักลอบใช้ไฟฟ้าเสียหายเกือบ 10 ล้านบาท
อัปเดตชีวิตล่าสุด “ครูส้ม” บูลลี่ “ป๋าเปรม” ลาออกจากราชการแล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น