พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ของพรรคพลังประชารัฐ ที่เสนอแก้ มาตรา 144 ห้ามส.ส. ส.ว. แปรญัตติงบประมาณ และมาตรา 185 ส.ส.และส.ว.ต้องไม่ใช้สถานะหรือตำแหน่งก้าวก่าย แทรกแซงเพื่อประโยชน์ตนเอง ผู้อื่น ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการว่า ล่าสุดได้พูดคุยกับนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แล้ว เนื้อหาทั้ง 2 มาตราดังกล่าว นายไพบูลย์ จะเสนอให้กรรมาธิการแก้ไข กลับไปใช้หลักการเดิมของรัฐธรรมนูญปี 2560 แต่จะปรับแก้เพียงแค่ถ้อยคำ และรายละเอียดเพียงเล็กน้อย คือ มาตรา 144 จะคงหลักการห้ามส.ส. ส.ว. และกรรมาธิการ แปรญัตติงบประมาณเพื่อประโยชน์ตนเอง แต่จะกำหนดให้สิทธิเพียงแค่การเสนอแนะความเห็นเท่านั้น ขณะที่มาตรา 185 คงไว้ตามเนื้อหาเดิม จะเพิ่มบทยกเว้นว่า เป็นไปเพื่อช่วยเหลือประชาชน
รองประธานวุฒิสภา กล่าวว่า เมื่อนายไพบูลย์ยอมปรับ แก้ไขตามคำท้วงติง ถือว่าเป็นเรื่องดี และ ต้องขอบคุณเป็นอย่างมาก เมื่อถามถึงความจำเป็นของอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีว่ามีความจำเป็นอยู่หรือไม่ พล.อ.สิงห์ศึก กล่าวว่า ประเด็นนี้เป็นเรื่องของประชามติที่ผ่านความเห็นชอบของประชาชนส่วนใหญ่มาแล้ว มีอำนาจ 5 ปี ยืนยันว่าสถากานการณ์การลงประชามติวันนั้น ควรมี ส.ว.ที่จะทำงานเพื่อสานต่อกับยุทธศาสตร์ชาติ และหากจะตัดอำนาจ ส.ว.ก็ควรทำประชามติถามประชาชน