No data was found

ดูชัดๆ เอกสารกู้เงิน “เสรีพิศุทธ์” ให้ลูกพรรคกู้ 1 ล้านบาท แต่ไม่แจ้งป.ป.ช.

กดติดตาม TOP NEWS

ดูชัดๆ เอกสารกู้เงิน “เสรีพิศุทธ์” ให้ลูกพรรคกู้ 1 ล้านบาท แต่ไม่แจ้งในบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อป.ป.ช.

ความคืบหน้ากรณีทีมข่าวท็อปนิวส์ได้ตรวจสอบพบว่า พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ไม่ได้แสดงรายการเงินให้กู้ยืม 1 ล้านบาทแก่ นางสาวธนภร โสมทองแดง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเสรีรวมไทย ที่กำลังเกิดปัญหาขัดแย้งกัน ไว้ในรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. เมื่อปี 2562 โดยเงินกู้ยืมที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์แจ้ง มีเพียง 3 รายการเท่านั้น ได้แก่ 1.นายนิพันธ์ เทียมหงษ์ วันที่ 15 เมษายน 2562 มูลค่า 6 ล้านบาท 2.นายกฤช ศศิสิริ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2562 มูลค่า 1 ล้านบาท และ 3.นายยุทธพงษ์ พุ่มรินทร์ และบริษัท ดนัยมา จำกัด เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2558 มูลค่า 30 ล้านบาท ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่าพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินเป็นเท็จหรือไม่

ล่าสุดมีการเปิดเผยเอกสารเป็นหนังสือสัญญากู้เงินที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ให้นางสาวธนภร กู้เงินจำนวน 1 ล้านบาท แคชเชียร์เช็คการใช้หนี้ 3 ฉบับ และเอกสารการฟ้องแพ่ง

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยเอกสารการฟ้องแพ่งคดีหมายเลขดำที่ มย77/2565 ซึ่งพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ มอบอำนาจให้นางสาวเกศศิริ เรืองกาญจนเศรษฐ์ ทนายความ ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เพื่อให้นางสาวธรภรชำระหนี้ที่ยังคงค้างจ่ายพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เป็นจำนวนเงิน 899,259.14 บาทรวมดอกเบี้ย หลังจากพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ได้ให้นางสาวธนภรได้กู้ยืมเงินจำนวน 1 ล้านบาท โดยมีทำหนังสือสัญญากู้เงิน เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2560

ซึ่งหลังจากได้กู้เงิน 1 ล้านบาท นางสาวธนภรได้คืนเงินให้กับพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ด้วยแคชเชียร์เช็ค จำนวน 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 วันที่ 8 ตุลาคม 2561 จำนวน 2 แสนบาท ครั้งที่ 2 วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 จำนวน 1 แสนบาทถ้วน และครั้งที่ 3 วันที่ 22 มิถุนายน 2563 จำนวน 1 แสนบาท รวมเป็นเงิน 4 แสนบาท แต่หลังจากนั้นนางสาวธนภรไม่ได้ใช้หนี้คืนเพิ่มเติม ทำให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ยื่นฟ้องแพ่ง เพราะผิดสัญญากู้ยืมเงิน

อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ต้องติดตามว่าพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ จะออกมาชี้แจงเรื่องนี้หรือไม่ รวมถึง จะมีผู้ใดไปยื่นให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่างป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบหรือไม่ เพราะความผิดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จ มีทั้งพ้นส.ส. ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง รวมถึงมีโทษจำคุก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ประชาชน แห่ดูขบวนแห่พญายม หนึ่งเดียวในโลก ประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน วันไหลสงกรานต์ชาวบางพระ จังหวัดชลบุรี
สาวโพสต์เล่าวินาทีชีวิต หลังนั่งรถฝ่าดงควัน "แอมโมเนีย" รั่วโรงน้ำแข็ง
หนุ่มน้อยวัย 12 ปี ขับรถย้อนศรเสียหลักชนฟุตบาทก่อนเหินพุ่งชนเสาไฟฟ้า ได้รับบาดเจ็บ สาหัส
"บิ๊กต่าย" เข้าพบ "นายกฯ" หึ่งคุยคดี "บิ๊กโจ๊ก" หารืออำนาจ "ก.ตร." ลงโทษนายตำรวจ
กรมพัฒน์ จัดหลักสูตร Up-Skill ดิจิทัล EV และRobot นำร่องใน 14 นิคมอุตสาหกรรม
“ระวัง” จอง โรงแรม-รีสอร์ท บนเพจปลอม ใครเสียท่าแล้ว แจ้งมาที่ “สอบสวนกลาง”
"วันนอร์" ลั่นไม่ยึดติดตำแหน่ง ต้องรักษาเกียรติรัฐสภา หลังมีกระแสข่าวขอปรับเปลี่ยนเก้าอี้ปธ.สภาฯ
"นายกฯ" ขอบคุณทุกหน่วยงาน ดูแลความปลอดภัยประชาชนช่วงสงกรานต์
"ราคาทองคำ" พุ่งสูงต่อเนื่อง 5 วิธีลงทุนออมแบบไหนกำไรมากกว่า
"สภาทนายความฯ" ตั้งทีมช่วยปชช.รับผลกระทบ เผย 6 แนวทางดำเนินคดี ขน "กากแคดเมียม"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น