“วราวุธ” ยืนยันพร้อมรับนักท่องเที่ยว เปิดประเทศ 1 พ.ค.นี้

“วราวุธ” ย้ำ ปิดถ้ำนาคา 1 เดือน ฟื้นฟูธรรมชาติ ซักซ้อมระบบช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ระบุ อุทยานพร้อมรับนักท่องเที่ยวเปิดประเทศ 1 พ.ค.นี้ เน้นมาตรการ สธ. ป้องกันโควิด ห้ามนำพลาสติกเข้าอุทยาน

วันที่ 26 เม.ย.65. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงการปิดถ้ำนาคาเป็นเวลา 1 เดือน เริ่มวันที่ 1 พ.ค.นี้ ว่า เป็นไปตาม นโยบายที่กระทรวงได้มอบให้ไว้ก่อนสถานการณ์โควิด-19 ว่า อุทยานทั่วประเทศนั้น ใน 1 ปี จะต้องมีการปิดอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อให้ได้พักธรรมชาติ และเจ้าหน้าที่ได้ไปซ่อมแซมพัฒนาปรับปรุงการทำงาน ตั้งระบบต่างๆภายในอุทยานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถ้ำนาคาก็เป็นหนึ่งในที่ที่ประชาชนให้ความสนใจเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก ดังนั้นการปิด 1 เดือน ก็เป็นไปตามนโยบายของกระทรวง รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพของเจ้าหน้าที่กระทรวง โดยเฉพาะในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวด้วยการลำเลียงทางอากาศหากเกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน จึงจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงระบบ รวมถึง การเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวในอนาคต

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ค.นี้ ในส่วนของอุทยานต่างๆ ที่กระทรวงทรัพยากรฯ ดูแล ได้กำชับให้ใช้มาตรการเดียวกับในช่วงเทศการสงกรานต์ ในการดูแลนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น โดยยังคงเน้นมาตรการด้านสาธารณสุข เว้นระยะห่าง ทำความสะอาด จำกัดนักท่องเที่ยว ใช้ระบบการจองคิวออนไลน์ ผ่านแอพพลิเคชั่น QueQ และตั้งแต่วันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ทางกระทรวงได้ห้ามนำเอาพลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งเข้าอุทยาน จึงขอฝากให้ประชาชนปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

นายวราวุธ กล่าวถึง การลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายและได้พบกับนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ว่า ไม่ได้คุยเรื่องสถานการณ์ทางการเมือง แต่พูดคุยถึงสถานการณ์หมอกควันไฟป่า โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดเชียงราย เนื่องจากนายยงยุทธ เป็นหัวหน้าคณะทำงานวิจัยเรื่องหมอกควันไฟป่าข้ามแดน พร้อมทีมนักวิจัยได้ลงพื้นที่ดูจุดความร้อนในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และในการทำงานดังกล่าว ส่งผลให้จุดความร้อนและสถานการณ์ไฟป่า ในพื้นที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

ส่วนกรณีการร้องเรียนโครงการแก้มลิง เกาะพระทอง จ.พังงา ที่เป็นปัญหาระหว่างกรมชลประทานและกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่มีการบุกรุกป่าชายเลนและป่าสงวนแห่งชาติ ว่า ทุกอย่างต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยมอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลฯ เร่งประสานงาน และดูสาเหตุว่าทำไมไม่มีการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งส่วนตัวขอฝากสื่อมวลชนไปยังประชาชนภาคเอกชน ภาครัฐ ว่าจะทำสิ่งไหนในพื้นที่ป่า จะต้องคิดให้ถี่ถ้วน เพราะว่าการตัดไม้เป็นสิ่งที่ง่าย แต่การเจริญเติบโตเป็นเรื่องที่ยาก ยืนยัน ไม่ใช่ความขัดแย้งทั้ง2 กรม แต่มองว่าน่าจะเกิดจากการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน เนื่องจากการทำงานมีกฎหมายที่หลายตัว ซึ่งหลายตัวไม่น่าจะเกิดขึ้น แต่ก็ต้องแก้ปัญหา ส่วนตัวเข้าใจหน้าที่กรมชลประทาน ที่จะดูแลเกษตรกรชาวไร่ชาวนา แต่ขณะเดียวกันกระทรวงทรัพยากรฯ ก็มีหน้าที่ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ดังนั้นอย่ามองเป็นความขัดแย้งทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มทบ.17 ส่งต่อความห่วงใยจากกองทัพบก: มอบผ้าห่มและบริการสุขภาพถึงมือชาวช่องสะเดา กาญจนบุรี
"กรมปศุสัตว์" ย้ำเกณฑ์เยียวยาความเสียหาย 7 จังหวัดชายแดนไทย–กัมพูชา ล่าสุดเกษตรกรได้รับผลกระทบกว่า 2 แสนราย มีสัตว์ในพื้นที่รวม 6.5 ล้านตัว ส่งความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง
คนไทยน้ำตาริน เทิดเกียรติ 2 ทหารกล้า พลีชีพเพิ่มบนสมรภูมิ เนิน 350 ยุทธศาสตร์สำคัญต้องบุกยึดคืนให้ได้
ภูเก็ตส่งเสริม Young Smart Farmer ดันเกษตรผสมผสาน เพิ่มรายได้ สู่เกษตรยั่งยืน
แต่ละช็อตอย่างโดน "หน่วยทหารม้า" นำรถถังยิงถล่มตึกกาสิโน-ฐานสแกมเมอร์ ช่องสายตะกู  "ทหารเขมร" ใช้เป็นฐานกำลังโดรนโจมตีไทย
เทศบาลเบตงเตือนภัย – เตรียมความพร้อมอุทกภัย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​