“อนุทิน” ย้ำ วัคซีนเข็ม 3 ต้องได้รับคำแนะนำก่อน! ยันจัดสรรวัคซีนตามแผนอย่างเป็นธรรม

“อนุทิน” เผย วัคซีนเข็ม 3 ต้องได้รับคำแนะนำจากคณะกรรมการวิชาการ จึงจะดำเนินการได้ ส่วน นโยบายเปิดประเทศ กระทรวงพร้อมสนับสนุนรับมือเต็มที่ และเดือนนี้จะมีวัคซีน เข้ามาทุกสัปดาห์ รวมประมาณ 8,500,000 โดส

วันที่ 21 มิถุนายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สำหรับกรณีที่ กระทรวงมหาดไทย ออกหนังสือ ได้ขอความอนุเคราะห์ สนับสนุนวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้กับพนักงาน บ.ไทยเบฟ จำนวน 43,201 คน และครอบครัวของพนักงานอีก 28,244 คน นั้น เบื้องต้น ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการยกเลิกคำสั่งดังกล่าวแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าเป็นกังวล เนื่องจาก กระทรวงสาธารณสุข ได้ทำการจัดส่งวัคซีนไปทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียมกัน ก่อนที่ ผู้ว่าราชการจังหวัด หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้อง จะทำการจัดสรรวัคซีน ไปยังจุดต่าง ๆ อย่างเป็นธรรม

สำหรับ คำสั่งของ กระทรวงมหาดไทย ไม่ได้เป็นหนังสือลับแต่อย่างใด หากมากกว่า 2 ฉบับก็ไม่ใช่ความลับแล้ว อีกอย่าง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการยกเลิกไปแล้ว ก็ไม่อยากให้ไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ ขอยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

ส่วน วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าของญี่ปุ่นนั้น เบื้องต้น รัฐบาลญี่ปุ่น ได้เสนอบริจาควัคซีน ผ่านมายังกระทรวงการต่างประเทศ และส่งมาที่ กระทรวงสาธารณสุข แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการศึกษารายละเอียด และข้อมูลบางส่วน คาดว่า ประเทศไทยจะลงนามกลับไป 24 มิ.ย. 64 นี้

ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า ที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะมอบวัคซีนให้กับทางรัฐบาลไทยนั้น เนื่องจากมีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน รวมทั้งมีการลงทุนร่วมกันในหลาย ๆ ธุรกิจ จึงมีความผูกพันกันค่อนข้างมาก เชื่อว่า หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย การลงทุนร่วมธุรกิจของประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทย ก็จะเป็นไปในทิศทางที่ดีและมีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

สำหรับสถานการณ์โควิดในประเทศไทย ยังมีผู้ติดเชื้อหลักพันนั้น ก็จะต้องดูรายละเอียดในทุก ๆ มิติควบคู่กันไป และจะต้องดูว่า การติดเชื้อในปัจจุบันติดเชื้อในรูปแบบไหน หรือหน่วยงาน หรือเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปดูแลในจุดที่มีการแพร่ระบาดหรือไม่ หรือหากมีการตรวจสอบแล้ว ได้มีการสั่งให้กักตัว หรือวางมาตรการใด ๆ หรือไม่ ซึ่งหลังจากนี้จะต้องดูว่า ในการบริหารจัดการของแต่ละพื้นที่ แต่ละจังหวัด มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข จะต้องรอรับนโยบายจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เท่านั้น

ส่วนเรื่องการเปิดประเทศนั้น เป็นนโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่ช่วยสนับสนุนให้เป็นไปตามนโยบายให้มากที่สุด ซึ่งหลังจากนี้ อีกประมาณ 1-2 วัน จะเรียกประชุมทุก ๆ หน่วย และผู้ตรวจราชการสุขภาพทุกเขต มาหารือกัน ในการรองรับนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อที่จะเกิดประโยชน์ต่อส่วนรวมให้ได้มากที่สุด ตนขอยืนยันว่า ทุกอย่างจะต้องมีการประเมินความเสี่ยง หากเกิดปัจจัยลบ ก็จะต้องพิจารณาว่า จะมีการดำเนินการอย่างไร หรือควบคุมรองรับได้มากน้อยเพียงใด หรือมีความคุ้มค่าไหม หากเทียบกับปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชน

ส่วนกรณีที่ หลายคนกำลังกังวลเกี่ยวกับเชื้อโควิดนั้น หากเข้ามาอย่างถูกต้อง หรือเข้ามาตามขั้นตอน ตามระบบของประเทศไทย จะไม่มีทางหลุด หรือเล็ดลอด หรือเชื้อแพร่กระจายอย่างแน่นอน แต่ปัญหาที่พบอยู่ในขณะนี้คือ กรณีบุคคลหลบหนีเข้าเมือง และไม่ทำตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้สั่งการไปยังหน่วยงานต่าง ๆ ให้เข้มงวดในการดูแลและป้องกันแนวชายแดนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

สำหรับกรณี จ.สมุทรสาคร ขอเพิ่มวัคซีน เนื่องจาก ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในขณะนี้นั้น จริง ๆ แล้ว การจัดสรรวัคซีนเป็นไปตามแผนที่วางไว้ทุกประการ ซึ่งนี่คือเหตุผลหลักที่ทาง นายกฯ และ ศบค. ได้ตั้งสูตรการกระจายวัคซีนให้เป็นบรรทัดฐานไว้ก่อน ยกตัวอย่าง กรณีตนมีเพื่อนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดแทบจะทั้งประเทศ หากคนนั้น หรือ คนนี้โทรมาขอวัคซีน หรือทำอะไรที่เกินกว่าขอบเขตกำหนด ก็อาจจะเกิดความเดือดร้อนได้

ขอยืนยันว่า หลังจากนี้ วัคซีนที่ใช้ฉีดให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย จะส่งมาที่ กระทรวงสาธารณสุข ทุกสัปดาห์ และเมื่อกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ แล้ว เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานนั้น ๆ ก็จะต้องจัดสรรวัคซีนให้เพียงพอ และสำหรับเดือนนี้ ก็จะมีวัคซีนเข้ามาประมาณ 8,500,000 โดส

ส่วนกรณีที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็มแล้ว แต่มีประสิทธิภาพไม่เพียงพอจะต้องฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 นั้น จริง ๆ ก็จะต้องขึ้นอยู่กับ คณะกรรมการวิชาการ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับรายงาน และมีการศึกษาทุกสัปดาห์อยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น มีการศึกษาว่า จะต้องฉีดวัคซีนตัวเดียวกันหรือไม่ ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุข ก็พร้อมที่จะทำตามคำแนะนำของคณะกรรมการวิชาการอยู่แล้ว รวมทั้ง รัฐบาลได้เตรียมงบประมาณจัดซื้อวัคซีนแล้ว ดังนั้น ทั้งหมดทั้งมวลจะต้องทำตามคำแนะนำของคณะกรรมการวิชาการ จะทำตามนโยบายของรัฐบาล หรือกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น