No data was found

1 พ.ค. เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ศบค.เคาะยกเลิก RT-PCR ตรวจ แค่ATK

กดติดตาม TOP NEWS

นายกฯ ยัน 1 พ.ค.เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ศบค.เคาะยกเลิก RT-PCR เหลือเพียงตรวจ ATK ผู้ที่เดินทางเข้าไทย ยังไม่ได้หารือการให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นก.ค. ชี้ ต้องรับฟังความเห็นอีกครั้ง

วันที่ 22 เม.ย.65.-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ ว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการติดตามประเมินสถานการณ์ภายหลังเทศกาลสงกรานต์ อีกประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขณะที่การประชุม ศบค. มีมติผ่อนคลายมาตรการในการเดินทางเข้าประเทศ โดยจะให้มีการยกเลิก Test&Go ที่ต้อง RT-PCR ให้เป็นการตรวจแบบ ATK เพียงอย่างเดียว เพื่อเพิ่มความสะดวกรวดเร็วขึ้นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งการท่องเที่ยวในประเทศขณะนี้ดีขึ้น และไทยยังจำเป็นต้องพึ่งพาการท่องเที่ยว เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าต่อไปได้ แต่มาตรการที่ได้พิจารณาในวันนี้ มีการผ่อนคลายการเดินทาง ทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ ส่วนการปรับระดับพื้นที่ ได้กำหนดให้เหลือพื้นที่สีส้ม เขียว เหลือ ฟ้า โดยจะไม่มีพื้นที่สีแดงแล้ว โดยในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้จะเรียกได้ว่าเป็นการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงมาตรการการเปิดภาคเรียน ในวันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ซึ่งได้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติในการเปิดเรียนเต็มรูปแบบ พร้อมกันนี้ได้เน้นย้ำเรื่องของการฉีดวัคซีน สำหรับผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีนหรือฉีดวัคซีนไม่ครบ และเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก แต่สิ่งสำคัญคือต้องระมัดระวังตัวเองและครอบครัวให้มากที่สุด สิ่งสำคัญคือความร่วมมือของทุกคน โดยรัฐบาล พยายามทำอย่างเต็มที่ ขณะที่ต่างประเทศก็ชื่นชมการดำเนินมาตรการของไทยมาโดยตลอด แม้จะยังมีการติดเชื้อ แต่ต่างประเทศดูถึงมาตรการรองรับของไทย ตัวเลขการรักษาหาย ผู้ติดเชื้อที่มีอาการรุนแรงก็ลดลงตามลำดับ ดังนั้นต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน และประชาชน ที่ช่วยทำให้ประเทศไทยมีความปลอดภัยได้ ซึ่งถือว่าดีกว่าในหลายประเทศ และอยากจะมีการแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ด้านสาธารณสุขกับไทย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว อาจจะต้องมีการพัฒนาให้เป็นการท่องเที่ยวแบบ 2 ประเทศ 1 จุดหมาย (Two Countries One Destination) ได้หรือไม่ เพื่อเชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับต่างประเทศ

ส่วนการที่จะประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้นั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการหารือในเรื่องนี้ และจะต้องมีการรับฟังความคิดเห็นอีกครั้ง ซึ่งที่ประชุมมีการหารือเพียงเรื่องของการผ่อนคลายในการเดินทางเข้าประเทศเท่านั้น รวมถึงแนวทางว่าหากมีการเดินทางเข้ามาอยู่เป็นระยะเวลานาน หรืออยู่ในระยะสั้น จะต้องทำอย่างไร

 

ส่วนกรณีที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้น ทั้งที่แนวโน้มการป้องกันของไทยดีขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องไปหาสาเหตุว่าเพิ่มขึ้นจากอะไร ซึ่งมีการสรุปสาเหตุว่า เป็นในกลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่ม 608 รวมถึงได้รับวัคซีนครบหรือไม่ หรือเป็นการเสียชีวิตจากโรคอื่นๆ ซึ่งได้รวบรวมสถิติไว้ทั้งหมด นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องใดที่ไม่เป็นเรื่อง ก็ให้เบาๆลงบ้าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อัษฏางค์" โต้ชุดใหญ่ "พิธา" จ้อสื่อเยอรมนี ด้อยค่าปท.ชูวีรกรรมเด็ก 3 นิ้ว
ถึงศาลรธน.แล้ว "40 สว." ยื่นสอบคุณสมบัติ "พิชิต" พ่วงวินิจฉัยความสิ้นสุดลงตำแหน่งนายกฯ
สืบนครบาล รวบ "แก้ว สวนหลวง" อดีตนางพยาบาล หลอกเหยื่อลงทุนซื้อ "โควต้าลอตเตอรี่" เสียหายกว่า 3 ล้านบาท
"หมอเหรียญฯ" ไม่หวั่นถูกโจ๋ 14 ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาท ปมเรียก "กุ๊ย" ขอต่อสู้ตามกระบวนการกม.
"พิชิต"นำผอ.สำนักพุทธฯ แถลงยันเชื่อมจิต ไม่มีจริงในพระไตรปิฏก ไร้อำนาจหยุดยั้งทีม "น้องไนซ์"
พล.ต.ท.ธนายุตม์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม อ.ก.ตร.กฎหมายครั้งที่ 5/2567
อดีตรองอธิการบดีมธ. เปิดความจริงปม "บุ้ง" เสียชีวิต ซัดกลุ่มบิดเบือน เลิกโหนตายเพราะเห็นต่าง
โปรดเกล้าฯ คืนสมณศักดิ์ "พระพรหมสิทธิ-พระศรีคุณาภรณ์" พ้นมลทินข้อกล่าวหาทุจริต
เกาหลีใต้ ศาลสูงตัดสินเห็นชอบแผนเพิ่มนศ.แพทย์
สโลวาเกีย เหตุลอบสังหารนายกฯ สะท้อนวิกฤตความรุนแรงการเมืองยุโรป

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น