นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ โพสต์เฟซบุ๊กระบุถึงการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราในวันที่ 22 -24 มิ.ย.นี้ ว่า ทั้ง ส.ส.และส.ว.ควรจะมาร่วมกันแก้รัฐธรรมนูญ เพื่อประโยชน์ของชาติ และประชาชนเป็นหลักก่อนไม่ใช่เพื่อพรรคตนเป็นหลัก ต้องให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตย โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และป้องกันการซื้อเสียงได้
“พรรคการเมืองควรจะร่วมกันเสนอญัตติให้มีการทำประชามติ ถามประชาชนก่อนว่า จะให้แก้รัฐธรรมนูญ 60 หรือไม่ และจะให้แก้ไขอย่างไร เช่น ประเด็นการตั้ง ส.ส.ร.,ประเด็นส.ว. และการป้องกันการซื้อเสียง ทุกวันนี้การเลือกตั้งทั้ง 350 เขต มีการจ่ายเงินซื้อเสียงทุกเขต แต่ กกต.หาพบไม่กี่เขต ทุกคนรู้ว่าเงินเป็นปัจจัยหลักในการสร้างส.ส.ทุกเขต ต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่กำหนดให้การหาเสียงใช้เงินได้น้อยที่สุด และถ้าพรรคใดถูกจับได้ว่าซื้อเสียง ต้องกำหนดการลงโทษอย่างรุนแรง เช่นทุจริต 1 เขตให้ ส.ส.30% ของพรรคนั้นเป็นโมฆะ พรรคใดซื้อเสียงตั้งแต่ 3 เขตให้ยุบพรรค และส.ส.ทั้งพรรคเป็นโมฆะทั้งหมดเลย ต้องชัดเจนและเด็ดขาดนักการเมืองน้ำดีจึงจะเข้าสภาได้” นพ.ระวี ระบุ
นพ.ระวี ระบุต่อว่า เมื่อได้ประชามติมาแล้วพรรคการเมืองค่อยเสนอญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่รัฐสภา พร้อมทั้งกำหนดให้ชัดว่า ถ้าระหว่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่เกิดยุบสภา ให้การทำงานของส.ส.ร.และการร่างกฎหมายลูกคงเดินหน้าต่อได้ตามปกติ แล้วค่อยนำเข้ารัฐสภาในสมัยหน้าต่อไป เพื่อไม่ให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะดุด ทั้งนี้การเสนอการแก้ไขรายมาตราของพรรคใหญ่ ๆ ในขณะนี้เป็นเพียงเพื่อประโยชน์ของพรรคตน เพื่อให้พรรคใหญ่ ๆ ได้เปรียบพรรคเล็ก ๆ เท่านั้น แต่ไม่ว่าจะสรุปผลมาในรูปแบบไหนพรรคพลังธรรมใหม่ก็พร้อมจะสู้ทุกรูปแบบ