นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน ว่า จะทำได้จริงหรือ เมื่อกำหนดว่าจะเปิด ทุกภาคส่วน พ่อค้า แม่ขาย ภาคเอกชน ต้องมีการเตรียมตัว หากเตรียมตัว แล้วไม่ได้เปิดอีก ทุกภาคส่วนก็เสียหาย ประชาชนทุกคนอยากให้เปิดประเทศ แต่เปิดแล้วต้องมีแผนรองรับ ไม่ใช่แค่พูดอย่างเดียว แค่นายกรัฐมนตรี พูดว่าจะเปิดประเทศ ก็ทำให้ประชาชนสับสนแล้ว ว่าเริ่มจากวันไหน วันที่นายกฯ ประกาศหรือไม่ เพราะนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าการเปิดประเทศ 120 วัน ที่นายกรัฐมนตรี พูดถึง จะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า การเปิดประเทศที่สำคัญ ต้องมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 วัคซีน ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประเทศ รัฐบาลประกาศการฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ตั้งเป้าการฉีดวัคซีนให้ได้วันละ 5 แสนโดส แต่ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นมาจนถึงวันนี้ ยอดการฉีดวัคซีนโควิด-19 ยังไม่มีวันไหนถึงยอดที่วางไว้ คือ 5 แสนโดส ทั้งนี้ เงินที่จะซื้อวัคซีนโควิด-19 มี แต่วัคซีนไม่มี จึงมีการเลื่อนการนัดฉีดวัคซีน แสดงให้เห็นว่า ขณะนี้ ไม่มีวัคซีน และการเข้ามาของวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ยังไม่มีความแน่นอน และตั้งแต่วันที่16 มิถุนายน ที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเปิดประเทศ ยังพบผู้ติดเชื้อใหม่จำนวนมาก โดยในแต่ละวัน ยอดผู้ติดเชื้อและยอดผู้เสียชีวิต มีตัวเลขสูงขึ้นเรื่อย ๆ และวันนี้ยังมียอดผู้ติดเชื้อ 3,682 ราย และเสียชีวิต 20 ราย จะเปิดประเทศได้จริงหรือ
“ประเทศนี้ต้องมีอภิสิทธิ์ มีเส้นสาย ถึงฉีดวัคซีนโควิด-19 ดูได้จากที่พบว่ามีบริษัทเอกชนน้ำเมารายใหญ่ ทำหนังสือถึงนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้ฉีดวัคซีนให้พนักงานและครอบครัวของบริษัทเอกชน ตนจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดแผนการนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด รวมถึงการฉีด และแผนเตรียมการของการเปิดประเทศ เพื่อให้เอกชน ผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดประเทศ” นายยุทธพงศ์ กล่าว