วันที่ 19 มิ.ย. – นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้รับหนังสือจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 31 พ.ค.64 แจ้งว่าจากการที่ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอทราบข้อเท็จจริงผลการสืบสวนกรณี นายสรศักดิ์ เพียรเวช อดีตเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กระทำผิดวินัยร้ายแรงคุกคามทางเพศข้าราชการสาวซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2564 นั้น บัดนี้ผลการสืบสวนเสร็จสิ้นแล้ว พบว่า มีมูลควรกล่าวหานายสรศักดิ์ว่าได้กระทำผิดวินัยร้ายแรง และจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการรัฐสภา พ.ศ.2554 ม.72 วรรค 1 ระบุว่า ข้าราชการรัฐสภาสามัญผู้ใดกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ให้ลงโทษปลดออก หรือไล่ออกตามความร้ายแรงแห่งกรณี ถ้ามีเหตุอันควรลดหย่อนจะนำมาประกอบการพิจารณาลดโทษก็ได้ แต่ห้ามมิให้ลดโทษลงต่ำกว่าปลดออก
นายวัชระ ได้กล่าวขอบคุณนายนัฑ ผาสุข เลขาธิการวุฒิสภา ผู้ทำหน้าที่ประธานกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และได้ทำการสืบสวนข้อเท็จจริงตรงไปตรงมาสรุปว่า นายสรศักดิ์ ทำการคุกคามทางเพศข้าราชการสาวผู้ใต้บังคับบัญชาจริง และทำรายงานสรุปเสนอนายชวน หลีกภัย เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง ปัจจุบันนายสรศักดิ์ได้รับการแต่งตั้งจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นคณะกรรมการบริหารโครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต ซึ่งเคยทำหนังสือคัดค้านถึงความไม่เหมาะสมไปแล้วเมื่อวันที่ 30 มีนาคมที่ผ่านมา
นายวัชระ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ประสานการป้องกันและแก้ไขปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศหรือคุกคามทางเพศในการทำงาน (ศปคพ.) กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อให้ช่วยคุ้มครองสิทธิของข้าราชการหญิงผู้เสียหายรายนี้ต่อไป นอกจากนี้นายสรศักดิ์ ยังถูกร้องเรียนเรื่องเบิกค่ารถยนต์ประจำตำแหน่งแล้วใช้รถยนต์ราชการตลอด 4 ปี และเป็นผู้อนุมัติให้บริษัทผู้รับเหมาสร้างสภาฯแห่งใหม่ขยายเวลาก่อสร้างจากเดิม 900 วันขยายออกไปถึง 4 ครั้ง รวม 1,864 วันซึ่งเป็นการขัดมติคณะรัฐมนตรี ทั้ง 2 เรื่องค้างอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)
สำหรับนายสรศักดิ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2559 ในยุคนายพรเพชร วิชิตชลชัย เป็นประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จนเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2563