วันที่ 19 มิ.ย. – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย คุณหญิงกัลยา โสภณพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมหารือร่วมระหว่างทีมเซลล์แมนจังหวัดนครราชสีมา หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และภาคธุรกิจ ณ ห้องประชุมโรงแรม แคนทารี โคราช จังหวัดนครราชสีมา
นายจุรินทร์กล่าวว่า การประชุมวันนี้ ได้ข้อสรุปร่วมกัน 4 ประเด็นคือ ประเด็นแรก ในเดือนธันวาคมปีนี้จังหวัดนครราชสีมาจะร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดงานไทยแลนด์ เบียนนาเล่ โคราช 2021 เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยว หวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 1 ล้านคน ทำให้เงินสะพัดประมาณ 1,600 ล้านบาท โดยต้องเปิดเมืองอย่างน้อย 4 อำเภอคือ อำเภอเมือง อำเภอปากช่อง อำเภอวังน้ำเขียว และอำเภอพิมาย ซึ่งต้องมีวัคซีนตามเกณฑ์ที่ ศบค.กำหนด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดดำเนินการประสานงานกับหน่วยงานที่จัดสรรวัคซีนต่อไป อาจมีการขีดวงพื้นที่ในแต่ละอำเภอให้สามารถมีการฉีดวัคซีน 70% ของผู้เกี่ยวข้องเช่นเดียวกับ ”อันดามัน แซนด์บ็อกซ์” ที่ได้หารือกับ จ.กระบี่ ภูเก็ตและพังงา ก่อนหน้านี้
ประเด็นที่สอง สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมาจะร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จัดงาน Agro FEX 2021 เพื่อส่งเสริมการตลาดให้กับสินค้าเกษตรในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดภาคอีสานใกล้เคียง วันที่ 5-7 พฤศจิกายน 2564 ให้ตรงกับงานส่งเสริมการนำเข้าส่งออกของจีนที่เซี่ยงไฮ้ China International Import Expo (CIIE) ให้สามารถใช้ตลาดจีนเปิดโอกาสผู้นำเข้าจีนจากทั่วประเทศมาสั่งสินค้านำเข้าไปยังจีนได้
ประเด็นที่สาม เพื่อตอบสนองความต้องการของภาคเอกชนและภาคการเกษตรของจังหวัดนครราชสีมา ในการค้าขายกับประเทศกลุ่ม CLMV ในระบบออนไลน์ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับภาคเอกชนจัดอบรมให้ความรู้การค้าออนไลน์และระบบอีคอมเมิร์ซทั้งหมด ส่งเสริมการเปิดตลาดทั้งในประเทศและการส่งออก ให้กับภาคการเกษตร Smart Farmer หรือกลุ่มเกษตรอื่นๆ และกลุ่ม เอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอี โดยได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์เปิดพื้นที่จัดนิทรรศการส่งเสริมการขายไปยังตลาด CLMV ให้พื้นที่ เอสเอ็มอี ไมโครเอสเอ็มอีกับนครราชสีมา หรือภาคอีสาน ออกพื้นที่พิเศษ
ประเด็นที่สี่ สำหรับมันสำปะหลังมี 7 เรื่องคือ 1.ปีนี้เป็นปีทองของราคามันสำปะหลัง ราคาที่เกษตรกรขายได้โดยเฉลี่ย เชื้อแป้ง 25% กิโลกรัมละ 2.30-2.50 บาท แต่ถ้าต่ำกว่า 2.50 บาท จะมีโครงการประกันรายได้เป็นตัวช่วยชดเชยเงินส่วนต่างให้ โดยในปีนี้ 4 เดือนส่งออกไปยังต่างประเทศแล้ว 4 ล้านตัน คาดว่าปีนี้จะส่งออกได้มากกว่าปีที่แล้ว 2.ภาคเอกชนและภาคเกษตรกรเห็นควรให้มีนโยบายประกันรายได้เกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังต่อไป ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์ โดยปีจะเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป 3.การหาตลาดให้ เพื่อทำอาหารสัตว์ในประเทศและผลิตภัณฑ์อื่นๆ มอบให้ทีมเซลล์แมนจังหวัดจัดหาตลาดในประเทศโดยประสานระหว่างจังหวัดต่อจังหวัด
4.การแก้ปัญหาช่วงมันสำปะหลังออกเยอะ จะส่งเสริมให้ภาคเอกชนซื้อมันสำปะหลังเก็บสต๊อกโดยกระทรวงพาณิชย์จะช่วยดอกเบี้ยร้อยละ 3 และขยายโครงการนี้ให้นานกว่าปีที่แล้ว ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงมีนาคม 5.เพื่อแก้ปัญหาการตัดราคาส่งออกกันเอง ให้มีการร่วมมือกันของ 3 สมาคมกับกรมการค้าต่างประเทศ กำหนดราคาแนะนำขั้นต่ำของการส่งออก ถ้าละเมิดราคา แนะนำให้สมาคมจัดการกันตามเงื่อนไขของสมาคม
6.การขยายตลาดมันสำปะหลังซึ่งตลาดใหญ่คือจีน ยังเป็นตลาดที่สามารถขยายตัวได้อีกเพราะมีหลายพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้มันสำปะหลังของเรา และบางอุตสาหกรรมเช่นอาหารสัตว์ยังไม่ได้ใช้มันสำปะหลัง โดยให้ทำแผนขยายตลาดเพิ่มเติม 7.ประเทศไทยควรมีการระดมความร่วมมือกลุ่มเกษตรกร ภาคการแปรรูปและทุกฝ่าย ระดมสมองนำมันสำปะหลังไทยไปสู่การนำสมัย กำหนดยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทย เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการยกร่างยุทธศาสตร์มันสำปะหลังไทยต่อไป