ชาวบ้านหาน้ำผึ้งในป่าถึงกับผงะหลังพบโครงกระดูกมนุษย์ เบื้องต้นคาดว่าเป็นผู้ป่วยหลบหนีการกักตัว covid 19

วันที่ 12 เมษายน 2555 เวลา 12.30 น พตอ. อัครเดช ฟูแสง สารวัตรเวรสอบสวน สภ. เมืองปราจีนบุรี รับแจ้งจากนางบรรจง แพงสุข อายุ 58 ปี สารวัตรกำนันตำบลบางเดชะ ว่ามีชาวบ้านเข้าไปหาผึ้งในป่ายูคา พบโครงกระดูกคาดว่าน่าจะเป็นกระดูกมนุษย์โดยกระจัดกระจายอยู่ป่าเป็นบริเวณกว้าง หลังจากจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทรายตามลำดับชั้น พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูตรหลักฐานปราจีนบุรี และ อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างบำเพ็ญรีบ และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เบื้องต้นที่เกิดเหตุอยู่บริเวณ แปลสวนยูคาห่างจากถนนใหญ่เข้าไปประมาณ 500 เมตร หมู่ที่ 1 ตำบลบางเดชะ อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งพื้นที่มีต้นไมยราบจำนวนมาก ได้พบโครงกระดูกมนุษย์ จำนวน 2 จุดจุดแรกน่าจะเป็น ก้นกบและขา อีกจุดหนึ่งพบเป็นกะโหลกศีรษะแล้วชิ้นส่วน กระจายโดยรอบ ใกล้กับจุดพบโครงกระดูกนั้นได้พบกระเป๋าเสื้อผ้า 1ใบ

จากการสอบถามซึ่งเป็นสารวัตรกำนันตำบลบางเดชะเปิดเผยกับผู้สิ่อข่าวว่า ได้มีชาวบ้านที่ออกหาของป่าหรือน้ำผึ้งป่าได้เข้าไปหาตนที่บ้านและได้ตะโกนร้องบอกว่าพบโครงกระดูกคล้ายโครงกระดูกมนุษย์ จึงรีบให้ตัวเองเข้าไปตรวจสอบ หลังจากรับแจ้งตนได้ เข้าพื้นทีตรวจสอบ เบื้องต้นเข้ามาในป่าลึกก็พบลักษณะเป็นกระดูกเหมือนโครงกระดูกมนุษย์ดังกล่าว ถึงได้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบต่อไป เบื้องต้นจากการสอบถามนายนายยุทธนา สนามน้อย อายุ 37 ปี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บางเดชะ จากการตรวจสอบข้อมูลผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายสนิท ยะหะตะ อายุ 60 ปี ภูมิลำเนา บ้านเลขที่ 6 ม.16 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อประมาณ 3เดือนก่อนหน้านี้ โดยนายสนิท มีการตรวจแล้วพบว่านายสนิท ได้ติดเชื้อโควิค ที่ รพ.ศรีมหาโพธิ แล้วได้หนีจากการกักตัวออกไป ซึ่งทางญาติพยายามตามหาแต่ไม่พบ จนมาวันนี้พบว่ากลายเป็นศพ

ส่วนทางด้านเบื้องต้นทางด้าน พลตำรวจตรีวินัย นุชชา ผู้บัญชาการสถานีตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี ได้ให้ข้อมูลไป ในทางทิศเดียวกันว่า ศพที่พบคาดว่าน่าจะเป็นนายสนิท ยะหะตะ ซึ่งทางชุดสืบสวนสอบสวนได้ลงไปยังบ้านที่ปรากฏตามทะเบียน แต่ยังไม่พบตัวญาติพบแต่ผู้ที่เป็นลูกเขย ได้ให้ข้อมูลว่า โครงกระดูกดังกล่าวนั้นเป็นบุคคลตามบัตรประชาชนนั้น คาดว่าน่าจะเป็นเพราะตาของตนเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้วได้เกิดติดเชื้อโควิค 19 ต้องทำการกักตัวที่โรงพยาบาลศรีมหาโพธิ แต่ระหว่างการกักตัวนั้นได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมา ทั้งนี้ต้องรอทางญาติติดต่อมาอีกครั้ง