เหตุการณ์ครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ผู้นำกลุ่ม G7 ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยบรรดาผู้นำต่างตำหนิจีนในประเด็นต่างๆ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและความมั่นคงทั่วทั้งช่องแคบไต้หวัน
ไต้หวันร้องเรียนในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาเกี่ยวภารกิจที่เกิดขึ้นหลายครั้งของกองทัพอากาศจีน ในบริเวณที่ใกล้กับไต้หวัน โดยมุ่งไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของเขตป้องกันทางอากาศใกล้กับหมู่เกาะปราตัสที่ไต้หวันควบคุมอยู่
กระทรวงกลาโหมของไต้หวันกล่าวว่า ภารกิจล่าสุดของจีนครั้งนี้มีเครื่องบินขับไล่ J-16 จำนวน 14 ลำ และเครื่องบินขับไล่ J-11 จำนวน 6 ลำ รวมทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด H-6 จำนวน 4 ลำ ซึ่งสามารถบรรทุกอาวุธนิวเคลียร์ และต่อต้านเรือดำน้ำ, สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้า
นับเป็นการบุกรุกรายวันครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่กระทรวงกลาโหมเริ่มรายงานกิจกรรมของกองทัพอากาศจีนในเขตการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน ทำลายสถิติเครื่องบิน 25 ลำที่รายงานเมื่อวันที่ 12 เมษายน กระทรวงกลาโหมกล่าวเสริมว่าได้มีการส่งเครื่องบินรบของไต้หวันไปสกัดกั้นและเตือนเครื่องบินของจีน ขณะที่ระบบขีปนาวุธก็ถูกนำไปใช้เพื่อติดตามเครื่องบินเหล่านั้นด้วย
เครื่องบินของจีนไม่เพียงบินในพื้นที่ใกล้กับหมู่เกาะปราตัสเท่านั้น แต่เครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินรบบางส่วนยังบินไปรอบๆทางตอนใต้ของไต้หวันใกล้กับปลายสุดของเกาะอีกด้วย
ในอดีตจีนได้อธิบายถึงภารกิจดังกล่าวว่าจำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศและจัดการกับการสมรู้ร่วมคิดที่มีระหว่างกันของไต้หวันและสหรัฐ ซึ่งจีนได้บอกมาตลอดว่าไต้หวันเป็นปัญหาดินแดนที่ละเอียดอ่อนที่สุดและสหรัฐไม่ควรจะล้ำเส้นเข้ามา