นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายทะเบียนพรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ “ท็อปนิวส์” เปิดเผยรายละเอียดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของพรรค ในวันศุกร์ที่ 18 มิ.ย.นี้ ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติจ.ขอนแก่น ว่า ทางพรรคได้ประสานขออนุญาตสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นและผู้ว่าฯ จ.ขอนแก่นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยการจัดประชุมจะเป็นไปตามมาตรการที่ศบค.กำหนดในการป้องกันแพร่ระบาดโควิด-19 เบื้องต้นกำหนดการประชุมไว้ตั้งแต่ 10.00 น. -15.00 น. จะมีผู้เข้าร่วมประชุมราว 350-400 คน ทั้งกรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกของพรรค โดยเราพยายามนำคนจากกรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆ เข้าไปในพื้นที่จ.ขอนแก่นให้น้อยที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
นายบุญสิงห์กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าการจัดการประชุมพรรคที่จ.ขอนแก่น เป็นเรื่องที่เราวางกำหนดการมาไว้ก่อนอยู่แล้ว เพราะตามพ.ร.บ.พรรคการเมืองกำหนดให้ทุกปีต้องมีการประชุมพรรคเพื่อรับทราบ การดำเนินการต่างๆของพรรคในแต่ละปี ซึ่งเดิมเราเตรียมจัดประชุมในเดือนเม.ย.แต่ต้องเลื่อนออกมาเพราะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ส่วนที่เลือกมาประชุมที่นี้ก็เพราะจ.ขอนแก่นเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีการระบาดของเชื้อโควิด แถมส.ส.ของเราทุกคนก็ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้ว สมาชิกที่ไปประชุมส่วนใหญ่ก็เลือกจากคนในพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง โดยเราพยายามเอาคนเข้าไปในจ.ขอนแก่นให้น้อยที่สุด และพื้นที่จัดประชุมก็สามารถจุคนได้ 2-3 หมื่นคน แต่เรามีคนเข้าไปประชุมแค่ 350-400 คน เพราะฉะนั้นจึงสามารถใช้มาตราการเว้นระยะห่างได้เต็มที่
นายบุญสิงห์กล่าวต่อว่า สำหรับวาระการประชุมที่กำหนดไว้ตอนนี้ก็มี 2 วาระ คือ 1.วาระรายงานการดำเนินงานกิจการของพรรค ปี 2563 และ 2.วาระรับรองรายงานการประชุม และ วาระ เรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ในส่วนของการพิจารณาแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มเติมจะมีหรือไม่มี ก็เป็นเรื่องที่สมาชิกพรรคทุกคนสามารถเสนอได้ในวันนั้น อย่างไรก็ตาม ณ ปัจจุบันนี้มีกรรมการบริหารพรรคลาออกพ้นไปจากตำแหน่ง 2 คน คือ 1.นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการ ตรงนี้เลยทำให้กรรมการบริหารพรรคจาก 27 เหลือ 25 คน ซึ่งตามข้อบังคับพรรคระบุว่า พรรคต้องมีกรรมการบริหารพรรคไม่น้อยกว่า 9 คน แต่ไม่เกิน 30 คน เพราะฉะนั้นตรงนี้อาจมีการหารือของสมาชิกพรรคเพื่อให้ตั้งกรรมการบริหารพรรคเพิ่มขึ้นก็ได้
ต่อข้อถามว่าจะมีการเสนอเปลี่ยนแปลงเลขาธิการพรรคคนใหม่ได้หรือไม่ในวันศุกร์นี้ นายบุญสิงห์กล่าวว่า ก็แล้วแต่สมาชิกเพราะวิธีการมันมีหลากหลายวิธี อาทิ ถ้ากรรมการบริหารพรรคกว่าครึ่งลาออกก็ต้องมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคขึ้นมาใหม่ หรือถ้าหัวหน้าพรรคลาออกกรรมการบริหารพรรคก็พ้นสภาพไปโดยอัตโนมัติตรงนี้ก็ต้องมีการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่มาแทน แต่ที่สุดแล้วจะเป็นอย่างไรก็อยู่ที่สมาชิกและการประชุมในวันนั้น
แหล่งข่าวในพรรคพลังประชารัฐกล่าวถึงความขัดแย้งของ กลุ่มสามมิตร ” 4 ว.” ที่ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสำคัญ 4 คนคือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ และ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กับ กลุ่มธรรมนัส “4 ช.” ที่ประกอบด้วยรัฐมนตรีช่วยว่าการ 4 คน ด้วย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน และ นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม ว่า ขณะนี้ยังไม่ชัดว่าทั้งสองกลุ่มจะประกาศแตกหักกันเลยหรือไม่ในการประชุมใหญ่วันศุกร์นี้ เพราะจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องการเปลี่ยนตัวเลขาธิการพรรคคนใหม่ จากปากของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค เพราะฉะนั้นทุกคนก็ต้องไปลุ้นกันในวันนั้น แต่ที่มีแน่นอนคือต้องมีการตั้งกรรมการบริหารพรรคทดแทนคนที่ลาออกไปขึ้นมาแน่นอน ส่วนตัวเลขาธิการพรรคจะมีการเปลี่ยนคนหรือไม่
” ขณะนี้ยังไม่ได้รับแจ้งยังไม่มีสัญญาณจากทางหัวหน้าพรรค เพราะยังมีเวลาอีกหลายวัน ท่านอาจจะแจ้งมาวันพฤหัสฯตอนค่ำก็ยังทัน ตอนนี้คนในพรรคก็ยังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ยัง 50 :50 กันอยู่ เพราะคนเก่าก็ดี ส่วนคนใหม่เขาก็เหมาะกับสถานการณ์” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า อย่างไรก็ตามกระแสในพรรคขณะนี้ถือว่าทางร.อ.ธรรมนัส มาแรงมาก เพราะเป็นคนที่มีความสามารถพิเศษ ใจถึงพึ่งได้ มีจุดเด่นหลายเรื่อง และเหมาะกับสถานการณ์ โดยเฉพาะหากอนาคตจะมีการเลือกตั้งก็ต้องได้คนอย่างร.อ.ธรรมนัสที่มีคอนเนกชั่นกว้างขวางหลายวงการ ทั้ง ทหาร ตำรวจ ท้องถิ่น ฯลฯ มาคุมเกมส์
” ถามว่าท่านธรรมนัสเหมาะเป็นเลขาฯพรรคไหม บอกว่าตอนนี้ถ้าเผื่อทำพรรคการเมืองท่านก็เหมาะ ใจถึงพึ่งได้แต่เอาไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เขาเป็นคนเหมาะกับงาน เข้าถึงปัญหา เข้าใจทุกคน และเป็นคนกว้างเป็นคนครบเครื่อง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนเก่าไม่เหมาะ แต่บุคคลิกของร.อ.ธรรมนัสเขาโอเค ” แหล่งข่าวกล่าว
แหล่งข่าวกล่าวว่า จนถึงขณะนี้ต้องลุ้นอ่านใจพล.อ.ประวิตรจะตัดสินใจนำร.อ.ธรรมนัสขึ้นเป็นเลขาธิการพรรควันศุกร์นี้เลยหรือไม่ ทั้งนี้ต้องประเมินจากไทม์ไลน์ยุบสภาของรัฐบาลด้วย หากรัฐบาลมีแนวโน้มยุบสภาในเวลาอันใกล้ร.อ.ธรรมนัสมีโอกาสสูงที่จะขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคในเที่ยวนี้เลยน แต่หากรัฐบาลคิดอยู่ยาวจนครบเทอม 4 ปี ในช่วงมิ.ย.2566 พล.อ.ประวิตรก็อาจไม่จำเป็นต้องรีบร้อนนำร.อ.ธรรมนัสขึ้นมาเป็นเลขาธิการพรรคในตอนนี้ เพราะอาจเร็วเกินไปและจะทำให้ตกเป็นเป้าโจมตีทางการเมือง ก่อนหน้าเวลาอันควรโดยไม่จำเป็น
////////////////////
