“มงคลกิตติ์” แถลงยุติบทบาท “คดีแตงโม” โอดท้อหากมีใครวางตะปูเรือใบ

ว่า เนื่องจากที่ผ่านมาตนได้หาข้อมูลหลักฐานมา 1 เดือน โดยได้ทำเต็มที่แล้ว พร้อมทั้งตั้งข้อสังเกตให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกว่า 20 ประเด็น จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจและเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์จะต้องไปหาข้อมูลต่อ แต่หากในอนาคตตนได้หลักฐานมาเพิ่มเติมก็จะมายื่นเพิ่ม เพื่อไม่ให้เป็นการกดดันพนักงานสอบสวนก็จะดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆ อีกทั้งหลังจากนี้จะไปเปิดศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของพรรคไทยศรีวิไลย์ช่วยเหลือผู้ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ส่วนใครจะกล่าวว่าตนหาเสียงคดีแตงโม ก็ไม่ปฏิเสธ เพราะต้องหาเสียงเพื่อให้ประชาชนเลือก ถ้าประชาชนนิยมก็เลือก หากประชาชนไม่นิยมก็ไม่เลือก

นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องยุติคดีแตงโม เพราะ1 เดือนที่ผ่านมารู้สึกต้องพักผ่อนบ้าง รวมถึงนายสิระ เจนจาคะ อดีตส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐที่แจ้งความดำเนินคดีกับตนนั้นทำให้รู้สึกท้อ เพราะแทนที่จะมาช่วยกันทำงานแต่ถูกขัดขวาง ก็เลยรู้สึกท้อ การหาข้อมูลของตนแม้จะไปกระทบคนอื่นบ้างแต่ไม่มีเจตนาไปให้ร้ายใคร เช่นกรณีนายวินิต ตรีปัญญา หรือลุงนิด คนพายเรือหาปลา ตนก็ขอโทษที่ทำให้ประชาชนเข้าใจผิด ซึ่งลุงนิดเป็นประชาชน ตนเป็นส.ส. ถามว่าจะไปมีเรื่องกับประชาชนเพื่ออะไร หลังจากนี้จะขอไปพักผ่อนที่บ้านต่างจังหวัดช่วงหนึ่งก่อน และเมื่อกลับมาแล้วจะไปบ้านลุงนิดเพื่อขอโทษ พร้อมไปช่วยลุงนิดหาปลาด้วย

“ขณะนี้รู้สึกว่าควรถอยมาก้าวหนึ่ง เพราะคำวิจารณ์ของสังคมก็มีส่วนสำคัญที่บั่นทอนความรู้สึก ทำให้รู้สึกท้อระหว่างทำงานหากมีใครมาวางตะปูเรือใบก็ไม่อยากทำ ส่วนที่มองว่าอาจเป็นการทำผิดรัฐธรรมนูญมาตรา 185 เนื่องจากไปแทรกแซงการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐนั้น ผมยืนยันว่าไม่ได้ไปแทรกแซง แต่ไปเป็นพยานให้เท่านั้น” นายมงคลกิตติ์ กล่าว