“เต้ มงคลกิตติ์” เปิดกล้องวงจรปิดหลักฐานใหม่อ้างจุด “แตงโม” ตกเรือ

เผยแพร่ : 22/03/2022 15:07

Post Views: 0

กดติดตาม TOP NEWS

"เต้ มงคลกิตติ์" เปิดหลักฐานกล้องวงจรปิด อ้างว่าเป็นจุดที่แตงโม นิดา ตกเรือก่อนที่คนบนเรือจะไปถ่ายรูปที่สะพานพระราม8 มั่นใจข้อเท็จจริงทำให้คดีเปลี่ยน ขออาสาสมัครดำน้ำหาหลักฐานเพิ่มพรุ่งนี้

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อม ด้วยนางสาวภคอร จันทรคณา (ชีวานันท์) รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ นางนัยนา ชีวานันท์ ร่วมกันแถลงข่าว โดยอ้างว่า มีข้อมูลจุดพบ แตงโม นิดา ก่อนเสียชีวิต ขณะลอยคอข้ามเจ้าพระยาเข้าฝั่ง

นายมงคลกิตติ์ ได้มีการเปิดคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 25 นาที ที่ได้ขอมาจากทางเทศบาลบางกรวย โดยเป็นภาพบริเวณเขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาคลองบางกรวย ติดกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือกฟภ. และ มีการอ้างว่าเป็นช่วงเวลาที่คุณแตงโมตกจากเรือสปี๊ดโบ๊ท ช่วงเวลาประมาณ 21.35.49 เรือสปีดโบ๊ทแล่นผ่านมุ่งไปทางสะพานพระราม 7 และไปถ่ายรูปกันต่อ ที่สะพานพระราม 8 และอ้างว่า หลังจากที่สปีดโบ๊ทแล่นผ่าน เห็นวัตถุสีดำอยู่กลางแม่น้ำ ลอยน้ำผลุบๆโผล่ๆ และอ้างว่าเหมือนมีการพยายามจะเข้าฝั่งมาทางเขื่อนกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาคลองบางกรวย โดยในระหว่างนั้นเวลาประมาณ 21.53น. วัตถุดังกล่าว ลอยเข้ามา จนมีเรือหาปลาอยู่บริเวณใกล้เคียง 1 ลำ ได้พายเข้าไปหาวัตถุ และวนๆอยู่ใกล้กับวัตถุ ก่อนที่จะ พายเรือออกมาจากวัตถุดังกล่าว และจากภาพวงจรปิดจะเห็นว่าวัตถุดังกล่าว ยังมีการขยับตามเรือ เพื่อมาหาฝั่ง จนหายไป

นายมงคลกิตติ์ อ้างว่า หากดูตามภาพวงจรปิดที่ตนเองได้ตรวจสอบตามคำแนะนำของนักสืบที่อยู่ในวงการตำรวจแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้นั้น สันนิษฐาน ว่า เป็นการตกเรือ ก่อนไปสะพานพระราม8 และเร็วกว่าเวลาที่ชุดคลี่คลายคดีโฟกัสกันที่ประมาณ22.34น.ถึง1ชั่วโมง ซึ่งจากข้อสันนิษฐาน คาดว่าน่าจะเป็นคุณแตงโม เพราะเรือผ่าน และ อยู่ใกล้เคียงกับจุดที่พบศพ และไม่คิดช่วยและในเวลานั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมาว่ายน้ำบริเวณนี้ ตรงกับข้อสันนิฐานของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการนครบาล ที่ระบุว่า แตงโมสิ้นใจ ในน้ำตื้น นายมงคลกิตติ์ยังเชื่ออีกว่าพยานหลักฐานชิ้นนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนของคดี เพราะจุดตกเรือจะเปลี่ยนไป ส่วนจะนำไปสู่ปมการฆาตกรรมหรือไม่ จะต้องรอผลของบาดแผลก่อน และส่วนตัวเชื่อว่า ไม่ใช่อุบัติเหตุปกติ แต่ไม่ถึงขั้นฆาตกรรม เพราะยังไม่ทราบว่า แตงโมตกเรือ หรือ ถูกผลักตกจากเรือ หรือไม่

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งจะมอบหมายให้ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ที่ปรึกษาทนายความของตนเองในการทำเรื่องนี้ นำคลิปวงจรปิดชิ้นนี้ไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนด้วย ส่วนในวันพรุ่งนี้เวลา 08.00น. ตนเองอยากขออาสาสมัครที่ดำน้ำได้ มาเจอที่ท่าพิบูลสงคราม เพื่อมาดำน้ำในพิกัดเดียวกับที่มีการว่ายน้ำตามวงจรปิด เพราะเชื่อว่าหากมีผ้าสีขาวตก จะตกใกล้เคียงกับจุดที่มีการว่ายน้ำข้ามมา ซึ่งไม่ไกลจากริมตลิ่ง

โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ถ้าแตงโมตกเรือเวลานี้ และภาพถ่ายของกระติกคู่กับแตงโม เวลา 21.56น. นั้นคืออะไร ซึ่งนางมงคลกิตติ์ ได้ตอบว่า คงต้องไปถามกระติกว่า รูปนั้นคืออะไรยังไง ส่วนจะมีการเชิญคนหาปลามาสอบปากคำหรือยังนั้น ตนเองไม่ทราบ

นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตามการย้อนกลับมาดูหลักฐานดังกล่าวนี้ เนื่องจากเมื่อวาน (23 มี.ค.) ตนมีการไปทำพิธีหาของ 3 สิ่ง คือเสื้อพันเอวสีขาว กระเป๋า และมีด ที่ท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 ทั้งนี้หนึ่งในทีมงานของตนได้มีการสวดมนต์ไหว้พระ และเห็นใบหน้าเรียวขาวอยู่ตรงหน้าในสมาธิ ที่คาดว่าจะเป็นแตงโม ที่จะมาตามจี้คดี ซึ่งคาดว่าไม่กล้าตามกับตนเนื่องจากตนเป็นคนดุ ดังนั้นตนถึงย้อนดูหลักฐานชิ้นนี้จึงพบความปกติ อย่างไรก็ตามสิ่งที่กล่าวมา วัตถุที่ลอยน้ำเป็นเพียงการสันนิฐานว่าเป็นแตงโมเท่านั้น แต่ถ้าหากร่างนั้นเป็นแตงโมจริง ถ้าคนขับเรือหาปลายืนยันที่จะช่วยยังไงก็รอด นอกจากนี้ขอให้คนที่คิดจะฟ้องตนให้มีชีวิตรอดที่ปลอดภัย อยู่ถึงวันที่จะฟ้องตน

สิ่งที่ทำวันนี้ต้องการให้กระบวนการยุติธรรมเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะรวยหรือจน ไม่ต้องมาขวนขวายสำนวนเองเช่นนี้ ฉะนั้นต้องมีหน่วยงาน ที่จะเสนอเป็นกฎหมาย อาจเป็นองค์กรมหาชนหรือภาคประชาชน มาช่วยหาพยานหลักฐานในการสืบสวนสอบสวน หรือเป็นหน่วยงานในการพิสูจน์หลักฐานขึ้นมา เพื่อช่วยรวบรวมพยานหลักฐานให้กับประชาชนที่ถูกคดีทั้งโจทก์และจำเลยเพื่อทำให้ข้อมูลถูกต้องสมบูรณ์ ทั้งนี้ตนทำเต็มที่อาจจะไม่ถึงร้อยเปอร์เซนต์ อย่าคาดหวังอะไรจากตนเยอะ จะทำเท่าที่ทำได้ เพราะไม่ใช่ทศกัณฑ์หรือพระรามด้วย

ภายหลังแถลงข่าวเสร็จสิ้น สิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอลรุ่นใหญ่และกลุ่มแฟนคลับที่เรียกตนว่ากลุ่ม คดีแตงโมต้องได้รับความยุติธรรม เพื่อให้กำลังใจ เต้ มงคลกิตติ์ ในการสืบหาความจริงเพื่อความยุติธรรมในการทำคดีเนื่องจากมองเห็นว่า เต้ มงคลกิตติ์ เป็น ส.ส. ที่ทำงานด้านนี้และทุ่มเทมาโดยตลอด ไม่ใช่เพียงการนั่งในสภา