บรรดาผู้นำของประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในโลกอันประกอบด้วย สหราชอาณาจักรซึ่งเป็นเจ้าภาพ สหรัฐ, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี และญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมประชุมสุดยอด G7 ที่คอร์นวอลล์ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ โดยจุดประสงค์ของการประชุมคือ การสร้างโลกที่เป็นประชาธิปไตย การกระจายวัคซีน ปัญหาโลกร้อน และการค้าระหว่างประเทศ
เรื่องการกระจายวัคซีน ในที่ประชุมวางแผนที่จะกระจายวัคซีนให้เท่าเทียมกันมากขึ้น โดยให้คำมั่นว่าจะบริจาคหนึ่งพันล้านโดสให้กับประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก
ในส่วนประเด็นหลักของการประชุมสุดยอดครั้งนี้อยู่ที่การฟื้นตัวหลังจากวิกฤตสุขภาพโลก และยังรวมถึงการให้เด็กกลับไปเรียนแบบปกติให้ได้มากที่สุดหลังจากต้องหยุดชะงักไปในปี 2020
รัฐบาลสหราชอาณาจักรได้มีประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าจะให้เงิน 430 ล้านปอนด์ หรือ 18,850 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนผู้ที่ได้รับผลกระทบที่เลวร้ายที่สุดจากการไม่ได้เรียนหนังสือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้หญิง และเรียกร้องให้พันธมิตร G7 ปฏิบัติตาม โดยเงินจะมอบให้กับ Global Partnership for Education ซึ่งสนับสนุนการศึกษาในประเทศกำลังพัฒนา
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ได้กล่าวว่าวิธีที่ดีที่สุดที่เราสามารถช่วยประเทศต่างๆ ให้พ้นจากความยากจนและนำไปสู่การฟื้นตัวของโลกได้คือการลงทุนด้านการศึกษาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาของเด็กผู้หญิง มันเป็นความน่าอดสูของทั่วโลก ที่เด็กที่เปี่ยมด้วยศักยภาพถูกปฏิเสธโอกาสต่างๆ เพียงเพราะข้อจำกัดต่างๆเช่น การเป็นผู้หญิง, รายได้ของพ่อแม่, หรือสถานที่ที่พวกเขาเกิด.
สถานการณ์รุนแรงขึ้นจากการระบาดใหญ่ ทำให้เกิดวิกฤตการศึกษาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน จนมีเด็กๆกว่า 1.6 พันล้านคนต้องออกจากโรงเรียนทั่วโลก ซึ่งการสนับสนุนทางการเงินของสหราชอาณาจักรเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิบัติการ G7 ที่กว้างขึ้นเพื่อให้เด็กผู้หญิงเข้าโรงเรียนเพิ่มขึ้น 40 ล้านคนภายในปี 2568