รมช.สธ. เผย คกก.พัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์ฯ เห็นชอบให้ ผู้ใช้ยาคุมกำเนิดทุกชนิด และผู้วางแผนมีบุตร สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้
กระทรวงสาธารณสุข เผย คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ เห็นชอบให้ผู้ที่ใช้ยาคุมกำเนิด ทุกชนิด ผู้ที่ใช้ฮอร์โมนในการรักษาโรคทางนรีเวช ผู้ที่วางแผนจะมีบุตร และผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาภาวะมีบุตรยาก สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ โดยไม่ต้องหยุดการใช้ก่อน พร้อมแนะเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อช่วย ลดเสี่ยงความรุนแรง และลดสูญเสียจากการติดโควิด-19
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า หลังมีการหารือ ข้อกังวลการฉีดวัคซีนโควิด โดยเฉพาะ 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มหญิงที่ใช้การคุมกำเนิดชนิดที่มีฮอร์โมน 2) กลุ่มคนไข้นรีเวชที่ใช้ฮอร์โมนในการรักษา 3) กลุ่มคนข้ามเพศ (Transgender) ที่ใช้ฮอร์โมนเพศหญิง และ 4) กลุ่มชาย-หญิงวัยทอง ที่ใช้ฮอร์โมนทดแทน
ทั้งนี้จาการร่วมหารือ ซึ่งได้ข้อสรุป ตามที่เสนอ คณะกรรมการพัฒนาอนามัยการเจริญพันธุ์แห่งชาติ พิจารณาและเห็นชอบ ดังนี้ 1) ผู้ที่คุมกำเนิดทุกชนิดสามารถฉีดวัคซีน โควิด-19 ได้ โดยไม่จำเป็นต้องหยุดการใช้ก่อน เนื่องจาก ความเสี่ยงในการเกิดหลอดเลือดดำอุดตันจากการใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนที่มีเอสโตรเจนเป็นส่วนประกอบ พบได้น้อยมากในหญิงไทย และพบได้น้อยกว่าในสตรีตั้งครรภ์ ซึ่งมีระดับเอสโตรเจนสูงมากตามธรรมชาติ 2) ผู้ที่ใช้ฮอร์โมนในการรักษาโรคทางนรีเวช ฮอร์โมนทดแทนวัยทอง ฮอร์โมนเพศในกลุ่มคนข้ามเพศ (Transgender) สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ เพราะการใช้ฮอร์โมนไม่ใช่ข้อบ่งห้ามในการฉีดวัคซีนโควิด-19 3) ผู้ที่วางแผนจะมีบุตร หรือผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาภาวะมีบุตรยากสามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ เนื่องจากไม่มีข้อบ่งห้ามในการฉีดวัคซีน และ 4) สามีภรรยา คู่ชีวิต หรือคู่รักที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันและไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ สามารถที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนแปลกหน้า เพื่อลดความเสี่ยงจากการรับเชื้อ หากไม่มั่นใจ หรือมีความกังวลใจ สามารถประเมินความเสี่ยงผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ของกรมอนามัยได้
ทางด้าน นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขอให้ประชาชน 4 กลุ่มดังกล่าวเชื่อมั่นว่า วัคซีนที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบโดยผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งบางรายอาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์บ้าง แต่ส่วนใหญ่เป็นอาการเล็กน้อย และสำหรับยาคุมกำเนิดชนิด ฮอร์โมนที่มีอยู่ในปัจจุบัน มีทั้งแบบที่เป็นยาเม็ด ยาฉีด ยาฝังที่ใต้ผิวหนัง และแผ่นแปะที่ผิวหนัง แต่วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ยาเม็ดแบบกินชนิดที่มีฮอร์โมนรวม เพราะนอกจากจะมีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์แล้ว ยังมีผลข้างเคียงน้อย ดังนั้น หากยังมีความกังวลใจและต้องการหยุดการใช้ ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน ควรใช้วิธีการคุมกำเนิดอื่น ๆ มาทดแทนเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ได้แก่ ยาเม็ด หรือ ยาฉีดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพียงอย่างเดียว ห่วงอนามัย ยาฝังคุมกำเนิด และถุงยางอนามัย ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอ คำแนะนำในการปรับเปลี่ยนวิธีการคุมกำเนิดด้วย