แม่ยันไม่ให้อภัย 100% พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด เหตุรับน้องจนเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณี รับน้องเสียชีวิต จ.นคราชสีมา แม่ยันไม่ให้อภัย 100% พร้อมดำเนินคดีถึงที่สุด ด้านรองอธิการมหาวิทยาลัยฯ แจงโทษสูงสุดคือไล่ออก

จากกรณี ผู้ใช้ facebook ในโลกโซเชียล มีการแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับการรับน้อง ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา) ในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา จนทำให้เกิดการเสียชีวิต ทราบรายชื่อภายหลังคือ นายพัสยศ หรือน้องเปรม ชลภักดี อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 แผนกช่างกลโรงงาน จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันนี้ (15 มีนาคม 2565) ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังนางนิตยา ชลภักดี อายุ 41 ปี มารดาของน้องเปรม เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า เมื่อช่วงกลางดึกของวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลค่ายสุรนารี ได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้ง ว่าลูกชายจะให้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนจึงตกใจและรีบเดินทางจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อมาจังหวัดนครราชสีมา เพื่อมาดูหน้าน้องเปรมลูกชายคนโต ที่เสียชีวิต เป็นครั้งสุดท้าย

ข่าวที่น่าสนใจ

หลังจากการสอบถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้เปิดเผยกับตนว่า ทั้งรุ่นพี่ได้มีการเรียกรุ่นน้อง มารับน้องกลางดึกของวันอาทิตย์ โดยใช้พื้นที่คันนา ในเขตของตำบลมะเริง โดยมีการให้รุ่นน้องกลิ้งไปกับพื้นดิน พร้อมให้ดื่มสุรา ก่อนที่จะมีการต่อยที่บริเวณลิ้นปี่ จึงทำให้น้องล้มลงไปหมดสติหามส่งโรงพยาบาล ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ดังกล่าวตนยังทำใจไม่ได้ เคยดูแต่ข่าวในทีวีแต่ไม่คิดว่าจะกลับมาเป็นคนในครอบครัว และแม่ไม่ขอให้อภัยรุ่นพี่ทั้งหมด และพร้อมที่จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับทุกคน และขอให้เคสลูกชายตนเป็นเคสสุดท้ายและไม่อยากให้มีการรับน้องแบบนี้เกิดขึ้นมาอีก โดยเมื่อวานนี้ครอบครัวพร้อมกับรุ่นน้องและรุ่นพี่ ได้ไปที่จุดเกิดเหตุ เพื่อบอกกล่าวกับดวงวิญญาณของน้องเปรม ให้กลับบ้านมาตามพ่อตามแม่ พร้อมทั้งมีการจุดธูปเทียน นำข้าวผัดและน้ำเปล่าเอามาให้น้องกิน เพราะกลัวว่าน้องจะหิว ส่วนศพน้องนั้นกำลังทำเรื่องกับโรงพยาบาลค่ายสุรนารี เพื่อจะรับตัวไปให้โรงพยาบาลตำรวจ กทม. หาสาเหตุของการเสียชีวิต ที่แท้จริง เพื่อนำมาเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี

ผศ.สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดี ฝ่ายกิจการ นักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (นครราชสีมา) เปิดเผยว่า จากการสอบถามทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง ที่มีการลักลอบแอบไปรับน้องกันนอกสถานที่ของมหาวิทยาลัย พบว่ารุ่นพี่ไปทั้งหมดจำนวน 28 คน รุ่นน้องจำนวน 37 คน ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้รับทราบข้อมูลทั้งหมดแล้วได้มีการตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่าในที่เกิดเหตุได้มีการให้รุ่นน้องดื่มสุรา และมีการทำร้ายร่างกาย ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลของการเสียชีวิต แต่ต้องรอการชันสูตรศพที่แท้จริงอีกครั้งหนึ่ง และรู้จักตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยบทลงโทษของกลุ่มรุ่นพี่จะปีที่ 2 นั้น จะมีทั้งหมดตั้งแต่พักการเรียน ,ให้ออก,และไล่ออก จึงอยากฝากเดิมนักศึกษารุ่นพี่ทุกคณะ ห้ามทำการรับน้องแบบนี้จะขาด เพราะทางมหาวิทยาลัยไม่มีนโยบายในการรับน้อง ทั้งนี้ในส่วนการสอบสวนของตำรวจต้องให้ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ไปตรวจหาเชื้อโควิด 19 ก่อนเนื่องจากนักศึกษาที่เสียชีวิตได้ติดเชื้อโควิด 19 และให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

 “อาฒยา” กลับขึ้นครองมือ 1 ของโลกเป็นครั้งที่สอง
ชาวกัมพูชา กว่า 2 หมื่นคน แห่เดินทางกลับประเทศ แน่นด่านบ้านแหลม หลัง "ฮุนเซน" เคยขู่ ไม่ทำตามเตรียมตัดสิทธิ์สัญชาติ ชาวกัมพูชา กว่า 2 หมื่นคน แห่เดินทางกลับประเทศ แน่นด่านบ้านแหลม หลัง "ฮุนเซน" เคยขู่ ไม่ทำตามเตรียมตัดสิทธิ์สัญชาติ
จันทบุรี หน้าด่านถาวรบ้านแหลมแน่น กัมพูชา ประมาณ 20,000 คน เดินทางกลับตามกระแสฮุนเซนปล่อยข่าวว่าถ้าใครไม่กลับจะถูกยึดที่ทำกินคืน
ควบคุมฟ้าสำคัญ "ดร.สามารถ" เผย 4 ข้อเหตุผล รัฐบาลต้องเร่งสนับสนุนกองทัพไทย จัดซื้อโดรน รวมระบบต่อต้านให้พร้อมรบ
“กองทัพภาคที่ 2” ขอบคุณรร.พยาบาลรามาฯ มอบโอกาส “น้องปิ่นมุก” ลูกสาว “จ.ส.อ.ธีระยุทธ” ทหารผู้เสียสละเพื่อชาติ ให้โควตาพิเศษ เข้าเรียนไม่ต้องสอบ
อุตุฯเตือน 27 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง อันดามัน-อ่าวไทย คลื่นลมแรง กทม.อากาศร้อน แตะ 37 องศา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​