จากกรณีเมื่อวานของวันที่ 7 มิ.ย ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง สระบุรี ร.ต.อ พิภาค ม่วงช้าง รอง.สว.(สอบสวน) สภ. เมือง สระบุรี รับแจ้งจาก นาง ลำเพียร พรหมเมืองเก่า อายุ 74 ปี บ้านเลขที่ 76 ม. 9 . ต. หนองปลาไหล อ. เมือง สระบุรี ว่าที่บ้านของลูกชายตน พบศพมีคนถูกฆ่าตายโดยถูกคนร้ายใช้ปูนโบกทับนอนตายในห้องนอน ในบ้านของลูกชายตนซึ่งสร้างอยุ่ในพื้นที่หน้าบ้านของตน โดยสร้างเป็นร้านค้ารับทำกระจกอลูมิเนียม จนกระทั่งตนมาทราบที่หลังว่าศพที่ถูกฆ่าโบกปูนนั้นได้เป็นลูกชายของตนเองชื่อ นาย ไพโรจน์ พรหมเมืองเก่า อายุ 55 ปี คนร้ายได้ฆ่าตายมาร่วม 2 เดือน ศพโบกปูนไว้ สภาพศพเน่าเปื่อยจำแทบไม่ได้ จนกระทั่ง ในวันเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดสระบุรี ในความดูแลรับผิดชอบของ พ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.เมืองสระบุรี ได้ลงพื้นที่ทันทีในช่วงพบศพ จากนั้นได้นำตัว นาย อนุภาพ กัญญา อายุ 30 ปี ซึ่ง เป็นหลานชายของผุ้ตายมาแค้นสอบปากคำ จนกระทั่งผุ้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ตนเองนั้นเป็นคนฆ่าลุงของตัวเองเพราะว่า ที่ผ่านมาตนรับจ้างทำงานติดตั้งกระจกกับผุ้ตายและที่ผ่านมาจะมาขอเบิกค่าแรงตนแต่ผุ้ตายไม่มีจ่ายค่าแรง ร่วมเงิน เกือบ 3 หมื่น บาท กระทั่งในวันเกิดเหตุเป็น วันที่ 22 เม.ย ที่ผ่านมา ช่วงในเวลา เที่ยง โดยตนเองเดินเข้ามาหาผุ้ตายในห้องนอนจากนั้นได้ทวงค่าแรงแต่ผุ้ตายไม่ยอมให้ ตนจึงโมโหใช้ด้ามจอบข้างห้องทุบใบหน้าผู้ตายจนเสียชีวิตจากนั้นก็ออกไปชื้อปูนขาวแล้วนำมาโบกทับศพผู้ตายไว้ข้างห้องในห้องนอน จนกระทั่งมี นาง ลำเพียร พรหมเมืองเก่า อายุ 74 ปี ผู้เป็นยายกับน้ามาเจอศพปูนในห้องจึงแจ้งความ ตำรวจและกระทั่งตำรวจตามจับตนได้ ในบ้านใกล้ในที่เกิดเหตุซึ่งตนเองไม่ได้หนีไปไหนเพียงแต่ทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนตำรวจรวบตัวเองได้ทัน
วันนี้ เวลา 10.00 น. วันที่ 8 มิ.ย ด้าน พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ. 1 พล.ต.ต เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง.ผบชภ.1 พล.ต.ต. สุภธีร์ บุญครอล รอง.ผบชภ1 rพล.ต.ต ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภจว.สระบุรี พ.ต.อ. เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก. สภ.เมือง สระบุรี โดยนำตัว นาย อนุภาพ กัญญาคำ อายุ 30 ปี ผุ้ต้องหาฆ่า นาย ไพโรจน์ พรหมเมือง อายุ 55 ปี มาร่วมแถลงข่าวที่บริเวณหน้าบ้านในที่เกิดเหตุโดยมีของกลางที่ตามยึดมาได้ ตู้เย็น พัดลม ตุ้โชว์ ทีวีจอแบบ 1 เครื่อง ปูนชีเมนต์ ส่วนสร้อยคอ1 บาท และรถยนต์ผุ้ตาย1 คันอยู่ระหว่างติดตาม ส่วนตัวผุ้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผุ้ฆ่าผุ้ตายเพียงคนเดียวเพราะมาตามทวงเงินค่าแรงในที่ทำงาน 3 หมื่นบาท ซึ่งในวันเกิดเหตุช่วงวันที่ 22 เม.ย ที่ผ่านมาตนตามมาทวงเงินที่บ้านแต่ผุ้ตายไม่จ่ายตนจึงใช้ท่อนไม้ยาวประมาร 80 ชม.ตีที่ศรีษะจนเสียชีวิตหลังจากนั้นออกไปชื้อปูนมาโบกทับ จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัว
หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็นำไปเข้าทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 76 ม. 9 . ต. หนองปลาไหล อ. เมือง สระบุรี จำนวน 2 จุด จุดแรกที่บ้านที่เกิดเหตุ โดยทำท่าแสดงถึงการทำร้ายใช้ไม้ด้ามจอบตี และจุดที่ 2 ที่ร้านขายวัสดุก่อสร้างซึ่งห่างกันไม่มาก ซึ่งในระหว่างทำแผนรับสารภาพนั้นได้มีประชาชนต่างมามุงดูการทำแผนจำนวนมาก แต่ไม่มีเหตุการรุนแรงเกิดขึ้นแต่ย่างใด
พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ. 1 เผยผุ้สื่อข่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งขอไว้ไว้แล้ว 2 ข้อหา ตั้งข้อหา ข้อหา แรก ฆ่าผุ้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน และข้อที่สอง ข้อหาหาลักทรัพย์ ซึ่งผุ้ต้องหาให้หารรับสารภาพ
สำหรับบ้านในที่เกิดเหตุช่วงเช้านี้ ทางผุ้สื่อข่าวพบว่าที่บ้านในที่เกิดเหตุดังกล่าว โดยทางผุ้สื่อข่าวพบว่าบ้านปิดเงียบไม่มีใครอยู่แม้แต่คนเดียว ผุ้สื่อข่าวทราบจาก นาย ทองสุข หงส์สาวดี อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นผุ้ใหญ่บ้านหมุ่ที่ 9 ต.หนองปลาไหล อ.เมือง สระบุรี ว่า ตนทราบว่าตั้งแต่ช่วงเย็นเมื่อวาน นาง ลำเพียร พรหมเมืองเก่า ไม่อยุ่บ้านโดยได้เดินทางไปที่ กทม เพื่อไปอยุ่กับลูกสาว ตน เพราะว่านางลำเพียร บอกตนว่าตนเองทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นภายในครอบครัวของตน และที่อย่างยิ่ง ผุ้ต้องหานาย ภานุภาพ นั้นก็เป็นหลานของตนที่เลี้ยงมาแต่เล็ก แต่ดันมาเกิดเรื่องแบบนี้ จึงรับไม่ได้ ในขณะเดียวกัน ป้าเพียร ยังบอกตนด้วยว่า งานศพนั้นตนคงไม่เดินทางมาดูเพราะทำใจยาก ป้าเพียร บอกตนไว้
เกียรติยง อัศวราศี จ.สระบุรี
