“เพนกวิน” มาศาล ติดกำไลข้อเท้า ตามคำสั่งปล่อยตัวชั่วคราว

วันนี้ (25 ก.พ.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำม็อบคณะราษฎรเดินทางมาศาล เพื่อติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ EM หรือ กำไลข้อเท้า ตามเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวภายหลังจากเมื่อวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัวนายพริษฐ์ หรือเพนกวินในคดีดำอ.287/2564 และคดีอื่นรวม ทั้งหมด 8 คดี โดยมีเงื่อนไขห้ามจำเลยทำกิจกรรมหรือกระทำการใดๆ ที่อันจะทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และศาลในทุกด้าน รวมทั้งห้ามกระทำการใดๆ อันเป็นการขัดขวางกระบวนพิจารณาคดีของศาล ห้ามเข้าร่วมชุมนุมที่อาจก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ให้ติดอุปกรณ์ติดตามตัวอิเลคทรอนิกส์ EM ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 21.00 น. ถึงเวลา 06.00 น.เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเพื่อการรักษาพยาบาล ไปศึกษาเล่าเรียน ไปสถานีตำรวจ สำนักงานอัยการหรือศาลหรือได้รับอนุญาตจากศาล แจ้งศูนย์ EM เปิดสัญญาณ ห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล และแจ้ง สนง.ตรวจคนเข้าเมืองทราบ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งนายพริษฐ์ กล่าวว่า เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับเพราะตื่นเต้นกับอิสรภาพ คิดว่าต้องใช้เวลาปรับตัวสักพัก เพื่อกลับเข้าสู่ชีวิตปกติทั่วไป ซึ่งวันนี้ตนมาติดกำไลข้อเท้า (อีเอ็ม) เป็นครั้งแรกก็ไม่ได้กังวัลอะไร แต่มีหนักใจเรื่องเรียนที่ผ่านมา มากกว่าที่จะต้องไปนีบปรึกษากับอาจารย์ว่าจะให้ตนเองทำอย่างไรบ้าง ส่วนเรื่องที่ว่าภายหลังครบระยะเวลาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว 3 เดือนแล้วจะยื่นขอประกันตัวต่อหรือไม่นั้น ก็ให้เป็นไปตามขั้นตอนกระบวนการ

ขณะเดียวกันรู้สึกเป็นห่วง นายอานน์ นำภา แกนนำอีกราย ที่ไม่ได้ประกันตัว ยังติดค้างอยู่ในเรือนจำ ซึ่งนายอานนท์พูดอยู่ตลอดว่า ขอให้พวกเราเอาตัวออกมาข้างนอกเรือนจำก่อน แต่เมื่อนายอานนท์ไม่ได้ประกันตัวก็รู้สึกนอนไม่หลับเพราะอยากให้เขาออกมาช่วยดูแลเรื่องคดีให้กับตนเองด้วย

ขณะที่ศาลได้สั่งปรับ ตี้พะเยา ป้าพร และ กิ๊ฟธรรมศาสตร์ คนละ 5,000 บาท รวมเป็นเงิน 15,000 บาท กรณีสมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และกลุ่มทะลุฟ้า ร่วมจัดกิจกรรม ‘ทวงความยุติธรรมคืนเพื่อนเรา’ เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้นักกิจกรรมทางการเมืองทุกคน

สมาชิกผู้จัดงานเดินทางเข้าพื้นที่หน้าศาลอาญา รัชดา พร้อมปิดการจราจร 2 เลนส์ และตั้งเวทีเสวนา ‘ยกเลิก 112 กับอนาคตประเทศไทย’ นอกจากงานเสวนาแล้ว ภายในงานจะมีกิจกรรมไฮปาร์ก และการตั้งโต๊ะล่ารายชื่อยกเลิก ม.112 และมีการสาดสีลงพื้น ซึ่งอยู่ในบริเวณประตูทางเข้าศาล ศาลจึงมีคำสั่งปรับตั้ง 3 คน คนละ 5,000 บาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ชาวบ้าน ฮือฮา เศรษฐีใจบุญ ถวายที่ดินมูลค่ากว่า 40 ล้าน สร้างองค์พระใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก
“นายกเบี้ยว” ประกาศ “ภรรยา” คว้าชัยชนะนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี “ลูกพีช” ได้เป็นสท.
“กกต.” แถลงปิดหีบเลือกตั้งเทศบาล พบฉีกบัตร 5 จังหวัด รวม 6 ราย เตรียมประกาศผลอย่างเป็นทางการภายใน 30 วัน
"ลูกสส.คนดัง" สงขลา สั่งสมุนรุมทำร้ายตำรวจ ไม่พอใจถูกห้ามถ่ายรูปในหน่วยเลือกตั้ง
ยะลาคึกคัก จัดพิธี "เวียนเทียน" เที่ยงวัน เนื่องในวันวิสาขบูชา คุมเข้มความปลอดภัยพุทธศาสนิกชน
"รอยตุ๊" โพสต์ขอร้อง "ชัชชาติ" อย่าลงสมัครผู้ว่าฯกทม.อีกสมัย คอมเมนต์เห็นด้วยพรึ่บ
"โฆษกภูมิใจไทย" ปฎิเสธข่าว คว่ำร่างพ.ร.บ.งบประมาณ 69 ชี้ไม่มีเหตุไม่สนับสนุน กม.เป็นประโยชน์พัฒนาประเทศ
รวบ “เจ๊เจี๊ยบ” หลอกคนไทยไปทำงานต่างประเทศ ผู้เสียหายนับร้อย เสียหายกว่า 30 ล้านบาท
"กรมโยธาฯ" แจง 3 ข้อ ปมเหตุก่อสร้างซุ้มประตูเมือง จ.อุดรธานี ล่าช้า
โฆษกเพื่อไทย สยบลือ ร้องหยุดโจมตี "ภูมิใจไทย" พร้อมคว่ำงบฯ 69 ตอบโต้คดีฮั้วสว. ยันพรรคร่วมฯทำงานปกติ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น