เดินหน้าบัตร 2 ใบ หรือ กลับไปใช้บัตรใบเดียว

รัฐสภาเดินหน้าประชุมร่วมส.ส.-ส.ว.แก้กฎหมายลูก 2 ฉบับ "เลือกตั้งส.ส.-พรรคการเมือง" ท่ามกลางกระแสข่าวบิ๊กตู่สั่งปรับเกมส์เปลี่ยนกติกาใหม่หันกลับไปใช้แบบเดิม หวังหยุดเพื่อไทยแลนด์สไลด์เบรกทักษิณชนะเลือกตั้ง ลุ้น 3 แนวทาง "ประยุทธ์-ประวิตร" เอาไง เดินหน้าบัตร 2 ใบ หรือกลับไปใช้บัตรใบเดียวแทน

24 ก.พ.2556 มีการประชุมร่วมของรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จำนวน 4 ฉบับ และร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองจำนวน 6 ฉบับ ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า ส.ส.ซีกรัฐบาล และ ส.ว.จับมือ จับมือล้มกฎหมายลูกเพื่อกลับไปใช้เป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวเหมือนเดิม ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวคราวเรื่องนี้เกิดขึ้นมาตลอดว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ อยากจะกลับไปใช้สูตรการเลือกตั้งแบบเก่าอย่างที่เคยเลือกตั้งเมื่อ 24 มี.ค.2562 คือใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ส.ส.เขต 350 คน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน คิดคำนวนส.ส.แบบจัดสรรปันส่วนผสม มีการกำหนดเพดานส.ส.แบบพึงมีที่แต่ละพรรคจะได้รับ

ย้อนอดีตกลับไปก่อนหน้าที่จะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญจากบัตรใบเดียวมาเป็นบัตรสองใบ ตอนนั้นก็มีความเห็นในฝั่งรัฐบาลและแม้แต่ในพรรคพลังประชารัฐเองว่าจะเอาสูตรไหนดี ที่ตัวเองจะได้เปรียบที่สุดและทำให้ฝ่ายพรรคเพื่อไทยของโทนี่ วู้ดซั่ม ได้คะแนนเลือกตั้งน้อยที่สุดได้ส.ส.ไม่มาก อย่าลืมว่าการเลือกตั้งรอบที่แล้วขนาดมีการวางหมากเขียนกติกาอย่างแยบยลแนบเนียนเพื่อสกัดพรรคเพื่อไทยแล้ว ผลการเลือกตั้งที่ออกมาพรรคเพื่อไทยของนายใหญ่ทักษิณยังได้ส.ส.แบบเขตมาถึง 136 คน แต่ไม่ได้ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเลย เพราะติดเพดานการคิดส.ส.แบบพึงมีจึงไม่ได้ผู้แทนในส่วนนี้เลย แม้จะได้คะแนนเสียงทั่วประเทศมากถึง 7,881,006 คะแนน ผิดกับพรรคอนาคตใหม่ที่ได้คะแนนทั่วประเทศ 6,330,617 คะแนน แม้จะเป็นพรรคใหม่ แต่ได้ส.ส.เขตไป 31 คน และได้อานิสงฆ์การคิดคะแนนแบบจัดสรรปันส่วนผสม มีเพดานส.ส.แบบพึงมี ทำให้ได้สัดส่วนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อมาถึง 50 คน มากที่สุดของพรรคการเมืองที่ได้ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อจากจำนวนทั้งหมด 150 คน

ความจริงตอนนั้นพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลก็รู้ดีว่าไม่ว่าใช้การเลือกตั้งแบบไหนวิธีใดก็เข้าทางพรรคศัตรูพรรคฝ่ายตรงข้ามอยู่แล้ว เข้าตำราสุภาษิตไทยที่ว่า “หนีเสือปะจระเข้” ถ้าใช้บัตรใบเดียวต่อไป เลือกตั้งรอบนี้พรรคก้าวไกลก็อาจได้ส.ส.มากเหมือนเก่าสามกีบก็จะกลับมาฟูฟ่อง แต่ถ้าเปลี่ยนกลับไปใช้การเลือกตั้งแบบปี 2540 บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ก็หวั่นว่าพรรคเพื่อไทยจะแลนสไลด์ทักษิณจะได้กลับบ้าน แรกเริ่มตอนนั้นมีข่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ก็ไม่อยากจะแก้รัฐธรรมนูญเรื่องบัตรเลือกตั้งเหมือนกัน เพราะรู้ดีว่าเข้าทางตีนทักษิณแบบเต็มๆ แต่ติดที่ขัดพี่ใหญ่และคนในพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ เพราะเสียงส่วนใหญ่ตอนนั้น ทั้ง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรค แม้แต่ไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคมือกฎหมาย ก็ยืนกรานต้องแก้บัตรเลือกตั้งจากใบเดียวกลับไป 2 ใบ บวกกับพรรคประชาธิปัตย์ก็ของขึ้นอยากได้บัตร 2 ใบ เพราะไม่ต้องการให้มีการคิดคะแนนบัญชีรายชื่อถัวเฉลี่ยไปให้กับพรรคเล็กพรรคน้อยปลาซิวปลาสร้อย ที่การเลือกตั้งคราวที่แล้วมีพรรคที่ได้คะแนนทั่วประเทศไม่ถึง 500,000 คะแนน รวมกันมากถึง 20 พรรค และได้แชร์ส.ส.บัญชีรายชื่อไปถึง 35 คน ขนาดพรรคพลังธรรมใหม่ได้คะแนนทั่วประเทศแค่ 35,099 คะแนน ยังได้ส.ส.บัญชีรายชื่อไป 1 คน ตรงนี้พลอยทำให้พรรคการเมืองเก่าพรรคการเมืองใหญ่จึงอยากกินรวบส.ส.บัญชีรายชื่อไว้เองทั้งหมด โดยไม่ต้องแบ่งให้กับพรรคเล็กพรรคน้อยแบบเบี้ยหัวแตก เมื่อผลประโยชน์ลงตัวจึงนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งจากบัตรใบเดียวกับไปเป็นบัตร 2 ใบ

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ ณ ปัจจุบันของพล.อ.ประยุทธ์ พรรคพลังประชารัฐ และรัฐบาล ไม่ได้เป็นเรือเหล็กที่แข็งแกร่งดั่งภูผาเหมือนเก่า แต่กลับกลายเป็นเรือแป๊ะเก่าผุพัง เกิดสนิทแต่เนื้อในตนมีรูรั่วเกิดขึ้นเต็มไปหมด ทั้งความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาลกันเอง ทั้งปัญหาภายในพรรคพลังประชารัฐที่สั่งสมมานานจนถึงวันฝีแตก ถึงขนาดมีการขับร.อ.ธรรมนัสกับก๊วน 21 ส.ส.ออกจากพรรคพลังประชารัฐ ไปนับรวมมรสุมสารพัดที่ถาโถมใส่พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งโควิด-19 ราคาน้ำมัน ข้าวของแพง ความเชื่อมั่นจากภาคเอกชนลดลง ความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลตกต่ำลง ฯลฯ ประกอบกับการเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งกลับไปใช้แบบเก่าบัตร 2 ใบ ไม่ใช่คอการเมืองไม่ต้องบอกก็รู้ว่าโคตรเข้าทางพี่โทนี่ อดีตที่ชนะการเลือกตั้งแบบถล่มทลายของทักษิณ ทั้งพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และ พรรคเพื่อไทย ก็มาจากการเลือกตั้งบัตร 2 ใบแบบนี้ทั้งนั้น

หลังความจริงเริ่มปรากฎหูตาเริ่มสว่างว่าหากเดินหน้าเลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบต่อไปมีหวังแพ้ทักษิณแหงๆ มีข่าวหลุดออกมาว่าการประชุมครม.เมื่ออังคาร 22 ก.พ.ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร เรียกแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลระดับหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และแกนนำพรรคพลังประชารัฐ หารือเรื่องนี้ระหว่างพักเบรกการประชุมครม. จนกลายเป็นข่าวว่ามีรัฐมนตรีพลังใบกัญชาพรรคภูมิใจไทย เสนอให้นายกฯกลับไปใช้เลือกตั้งแบบเก่ากาบัตรใบเดียวในคูหาและคิดคะแนนแบบปี 2562 หากหวังจะอยู่ต่ออยู่ยาว ที่สุดจึงนำมาสู่กระแสข่าวมีความพยายามจะเปลี่ยนเกมส์ใหม่ยูเทิร์นกลับไปใช้กติกาเก่า หวังสกัดพรรคเพื่อไทยหยุดโอกาสทักษิณชนะเลือกตั้งได้กลับประเทศแบบเท่ห์ๆ

แนวทางที่พอเป็นไปได้ตอนนี้ คือ 1.ผ่านกำหมายลูก 2 ฉบับนี้ในวาระแรก ขั้นรับหลักการไปก่อน หลังจากนั้นค่อยไปคิดสูตรคำนวณคะแนนบัญชีรายชื่อใหม่ในวาระ 2 ขั้นแปรญัตติ โดยนำแนวคิดจัดสรรปันส่วนผสม เอาฐานเพดานพึงมีแบบเก่ามาจับอีก เพื่อสกัดพรรคเพื่อไทยเบรกทักษิณ 2. ล้มกฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับ จากนั้นก็กลับไปแก้รัฐธรรมนูญใหม่ให้กลับไปใช้บัตรใบเดียวใช้วิธีคิดคำนวณส.ส.แบบปี 2562 หรือ 3. รอตัวช่วยจากพรรคเล็กรอส้มหล่นจากศาลรัฐธรรมนูญ หลังนายแพทย์ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยืนกรานจะไปร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ล้มแนวคิดการเลือกตั้งบัตร 2 ใบ เพราะขัดเจตนารมย์รัฐธรรมนูญ กีดกันพรรคเล็ก ไม่คิดคะแนนเสียงตกน้ำ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญรับลูกตัดสินให้ทุกอย่างเป็นโมฆะเท่ากับเซตซีโร่ใหม่ ทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเก่า รอลุ้นกันยาวๆว่ารอบนี้พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร จะวางเกมส์เลือกตั้งอนาคตไว้อย่างไร
///////////////

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เซี่ยงไฮ้เปิดตัวม้านั่งจากภาชนะบรรจุอาหารรีไซเคิล
รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน “ธงฟ้ากระตุ้นเศรษฐกิจ จังหวัดฉะเชิงเทรา”
ช่วยเหลือหนูน้อยหัวโต วัย 3 เดือน หลังพบขาดแคลนของใช้
สุดเยื้อชีวิตครูสาวขับเก๋งเสียหลักชนเสาไฟฟ้า
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดงาน “สุราชุมชน Lab สรรพสามิตสัญจร” ครั้งที่ 2
"กัมพูชา" ส่งจดหมายถึงผู้ว่าฯ สระแก้ว คัดค้านออกโฉนดให้คนไทย ถือครองสิทธิที่ดินบ้านหนองจาน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​