นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า(สนค.) ณ ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าว “สถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ ประจำเดือนพฤษภาคม 2564” ผ่านช่องทาง FB Live ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนพฤษภาคม 2564 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 แต่ในอัตราที่ชะลอตัว จากการสูงขึ้นของราคาพลังงานและอาหารสดบางชนิด โดยมีมาตรการลดค่ากระแสไฟฟ้าและค่าน้้าประปาของภาครัฐ เป็นปัจจัยทอนที่ชะลอมิให้เงินเฟ้อขยายตัวสูงเกินไป
ทั้งนี้ ยังคงคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในปี 2564 จะเคลื่อนไหวระหว่างร้อยละ 0.7 – 1.7 (ค่ากลางอยู่ที่ +1.2) ซึ่งเป็นอัตราที่น่าจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่อง
นายวิชานัน เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือนพฤษภาคม 2564 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น ร้อยละ 2.44 แต่ชะลอตัวลงจากร้อยละ 3.41 ในเดือนก่อนหน้า โดยปัจจัยสำคัญยังคงเป็นการสูงขึ้นของราคาพลังงาน ที่ขยายตัวสูงถึงร้อยละ 24.79 และราคาสินค้าในกลุ่มอาหารสด อาทิเนื้อสุกร สัตว์น้ า (อาหารทะเล) และผลไม้ ปรับสูงขึ้นตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม มาตรการลดค่ากระแสไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ของรัฐ และการลดลงของราคาอาหารสดบางชนิด อาทิ ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ไข่ไก่ และผักสดเป็นปัจจัยที่ชะลอ มิให้เงินเฟ้อสูงเร็วเกินไป สำหรับสินค้าในหมวดอื่น ๆ ยังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ปกติสอดคล้องกับผลผลิตและ ความต้องการในสถานการณ์ปัจจุบัน
เงินเฟ้อพื้นฐาน (เมื่อหักอาหารสด และพลังงานออกแล้ว) ขยายตัวร้อยละ 0.49 จากงวดปีก่อน ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากเดือนก่อน ที่ขยายตัวร้อยละ 0.30 ดัชนีราคาผู้บริโภค เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2564 ลดลงร้อยละ 0.93 และเฉลี่ย 5 เดือน (ม.ค.-พ.ค.) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้นร้อยละ 0.83
เป็นที่น่าสังเกตว่า เงินเฟ้อที่ขยายตัวในเดือนนี้ นอกจากจะมีปัจจัยด้านราคาพลังงานและอาหารสดบางชนิด ซึ่งเป็นปัจจัยด้านอุปทานแล้ว ยังมีปัจจัยด้านอุปสงค์ที่มีสัญญาณแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่องและสนับสนุนให้เกิดการบริโภค อาทิ การปรับตัวสูงขึ้นของการส่งออก ราคาสินค้าเกษตร และรายได้เกษตรกร รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ที่สนับสนุนให้เกิดการบริโภคเพิ่มขึ้น สะท้อนจากการเพิ่มขึ้นของยอดการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ดัชนีอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ยอดจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์และรถจักรยานยนต์การขยายตัวของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม และอัตราการใช้กำลังการผลิตในหลายสาขาการผลิต สอดคล้องกับดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
โดยดัชนีราคาผู้ผลิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เพิ่มขึ้น ร้อยละ 10.7 ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน รวมทั้ง ราคาเหล็ก ยางพารา และคอนกรีต เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ดัชนีราคาผู้ผลิตและราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น
แนวโน้มเงินเฟ้อในช่วงที่เหลือของปี มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง แต่ในอัตราที่ชะลอตัวลง โดยปัจจัยสำคัญยังคง เป็น ราคาพลังงานและอาหารสดบางชนิดที่ยังอยู่ในระดับสูงกว่าปีก่อน ขณะที่สินค้าและบริการอื่นๆ ยังคงเคลื่อนไหว สอดคล้องกับกลไกตลาดในทิศทางปกติ
นอกจากนั้น มาตรการของรัฐ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลดค่าครองชีพ ยังคงที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อในแต่ละช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังคงเป็นแรงกดดันและความเสี่ยงต่อเงินเฟ้อของประเทศ ซึ่งจะต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดต่อไป