“นายกฯตู่” ดีดปาก “ปวีณ” รับลูก”โรม” โจมตีรัฐ – เบื้องสูง ลั่นอย่าแค่อ้างลี้ภัยไม่ได้รับเป็นธรรม!

"นายกฯตู่" ดีดปาก "ปวีณ" รับลูก"โรม" โจมตีรัฐ - เบื้องสูง ลั่นอย่าแค่อ้างลี้ภัยไม่ได้รับเป็นธรรม!

วันที่ 21 ก.พ.65 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงปัญหาการค้ามนุษย์ ว่า ที่ผ่านมาได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องและผลงานก็ดีขึ้นเรื่อยๆ สิ่งใดที่ผ่านมาแล้วก็ถือเป็นเรื่องของอดีต ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตรวจสอบและชี้แจงแล้ว และบางเรื่องถูกหยิบมาเป็นประเด็นทั้งที่เป็นเรื่องในอดีตที่ผ่านมาแล้ว และมีการตรวจสอบทางระเบียบและกฎหมายต่างๆ ก็ต้องว่าไปตามนั้น ยืนยันรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหา มิเช่นนั้นคงไม่ดีขึ้นอย่างทุกวันนี้ แม้จะไม่เต็ม 100% แต่จะเดินหน้าแก้ปัญหาต่อไป รวมถึงการทำประมงผิดกฎหมาย หรือไอยูยู รวมถึงการทุจริตที่อาจมองว่าคะแนนของประเทศไทยตกต่ำลง แต่หากพิจารณารายละเอียด 6-7 กลุ่มงาน จะเห็นว่ามีทั้งส่วนที่คะแนนเท่าเดิม เพิ่มขึ้นและลดลง ซึ่งสิ่งที่เพิ่มมากขึ้นจนน่าพอใจ คือการบริหารของภาครัฐที่คะแนนสูงขึ้นมาก จึงขออย่าดูแต่เรื่องไม่ดีเพียงอย่างเดียว ขอให้ดูในส่วนที่ดีด้วย แต่หากส่วนใดไม่ดี ก็ค่อยๆแก้ไขกันไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนกรณี พล.ต.ต.ปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮีนจา ลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศนั้น นายกรัฐมนตรี ถามกลับว่า พล.ต.ต.ปวีณ ต้องคดีอะไร ซึ่งการที่เจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ขอให้ไปร้องทุกข์ ตามช่องทางที่มีอยู่ ยืนยันตนไม่ได้สั่งให้ออกไป แต่เจ้าตัวเดินทางออกไปเอง ส่วนเรื่องความปลอดภัยนั้น ใครจะไปทำอะไรได้ เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย หากพูดแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะทุกคนที่หนีไป ก็สมัครใจกันไปเอง แต่กลับมาพูดเรื่องของความปลอดภัย ทั้งที่บางคนเดินทางออกไปโดยมีกฎหมายค้างคาอยู่ ขอให้มองตรงนี้ด้วย

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดแล้ว ดังนั้น ขออย่าฟังเพียงช่องทางใดช่องทางหนึ่งเท่านั้น มิเช่นนั้นจะเกิดความขัดแย้งกันไม่เลิก ย้ำว่า หากคิดว่าไม่มีอะไร ก็ให้เดินทางกลับมา โดยพล.ต.ต.ปวีณ ไม่ได้มีคดีอะไรกับตนและกับใครทั้งนั้น ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่เคยปกป้องใคร ส่วนที่มีการกล่าวอ้างถึงผู้อยู่เบื้องหลังนั้น หากไม่เปิดเผยชื่อ ใครก็สามารถพูดได้ ซึ่งการจะพูดอะไรก็ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน ดังนั้น หากพล.ต.ต.ปวีณ ต้องการจะกลับมาและฟ้องร้องก็สามารถทำได้ตามกระบวนการ แต่หากฟ้องแล้ว ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ก็อาจถูกฟ้องกลับ เพราะทุกอย่างต้องยึดหลักกฎหมาย ไม่ใช่พูดกันไปมา และมาขยายความ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผบช.ภ.3 นำทีมขับเคลื่อนสหกรณ์ตำรวจโคราช—เงินหมุนเวียนพุ่งเกือบ 2,000 ล้าน กำไรทะลุ 200 ล้าน หนุนสวัสดิการตำรวจมั่นคง
มูลนิธิบุญรอด–เอกพจน์ วานิช มอบทุนปีที่ 29
“นฤมล” เปิดงานวัน “ทวี บุณยเกตุ” รำลึกคุณูปการผู้วางรากฐานคุรุสภา ย้ำคนดีไม่มีวันตาย พร้อมมอบทุนการศึกษาสานต่อเจตนารมณ์ สร้างครูคุณภาพ
ชาวสุราษฎร์ 7 ชีวิต เดินเท้า 250 กิโลเมตร เข้าสู่ประจวบฯ ถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระพันปีหลวง
ยังไม่มีคำสั่งหน่วยเหนือ "ทหารกัมพูชา" แก้ตัวหน้าตาเฉย เมินเริ่มเก็บกู้ทุ่นระเบิดชายแดน มีแต่ทหารไทยทำฝ่ายเดียว
ตร.ท่องเที่ยวรุดช่วยนักท่องเที่ยวอเมริกันพลัดตกเขา “มังกี้เทล”

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​