สำนักข่าวบลูมเบิร์กเผยผลการศึกษาและการติดตามผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ของซิโนแวค ที่เมืองเซราน่า เมืองเล็กๆที่รัฐเซา เปาโลของบราซิลพบว่าวัคซีนซิโนแวคช่วยลดอัตราการเสียชีวิตที่เมืองเซราน่าลงถึง 95 % หลังจากที่มีการฉีดครั้งใหญ่ทั่วทั้งเมืองเมื่อ 5 สัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่เคสผู้ป่วยแสดงอาการก็ลดลง 80 % และเคสที่ป่วยหนักถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลก็ลดลงเช่นกัน 86 %
อัตราการเสียชีวิตที่เมืองเซราน่าลดลงหลังจากที่ประชากร 75% จากทั้งสิ้น 4 หมื่น 5 พันคนได้รับการฉีดวัคซีนครบสองโดส ทำให้ไวรัสโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์ P1 ซึ่งพบครั้งแรกที่บราซิลลดการแพร่ระบาดลงจนเห็นได้ชัดที่เมืองเซราน่าแห่งนี้ นอกจากนี้ยังไม่มีรายงานผลข้างเคียงที่รุนแรง หรือเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนโดสที่สองภายใน 14 วันอีกด้วย และที่สำคัญยังพบว่าจำนวนการติดเชื้อโควิดในเด็กได้ลดลงด้วยทั้งๆที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน (ซึ่งอาจหมายถึงว่าพอผู้ใหญ่ไม่มีเชื้อ ก็ไม่มีการแพร่ระบาดสู่เด็ก) ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่โรงเรียนอาจเปิดการเรียนการสอนได้โดยไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีนในเด็ก
นายริคาร์โด ปาลาซิโอส ผู้อำนวยการสถาบันบูตันตันของบราซิล ซึ่งเป็นผู้ศึกษาผลวิจัยครั้งนี้และเป็นผู้ผลิตวัคซีนของซิโนแวคในบราซิลกล่าวว่าผลการศึกษาที่เมืองเซราน่าแสดงให้เห็นว่าวัคซีนซิโนแวคมีประสิทธิภาพในชีวิตจริงสูงกว่าที่ทดลองในคลินิคที่ระบุว่าสูงแค่ 50 % ต่ำที่สุดของวัคซีนป้องกันโควิดทุกตัว ซึ่งทำให้เซราน่ากลายเป็นเมืองต้นแบบ และเป็นตัวอย่างสำหรับอีกหลายๆประเทศที่กำลังเลือกซื้อวัคซีน และยังช่วยกำหนดนโยบายการฉีดวัคซีนให้กับพลเมืองของตนเอง
ก่อนหน้านี้วัคซีนของซิโนแวคอาจไม่เป็นที่ไว้วางใจมากนักเมื่อเทียบกับวัคซีนที่ผลิตโดยชาติตะวันตก เนื่องจากมีการเปิดเผยผลการศึกษาระหว่างการทดลองและข้อมูลด้านความปลอดภัยน้อย
