No data was found

นักวิชาการสื่อสารมวลชน อัด 2 ช่องทีวี ปั้นลุงพลมุ่งเรตติ้ง เสนอข่าวเป็นละคร ไร้จรรยาบรรณรับผิดชอบต่อสังคม

กดติดตาม TOP NEWS

เรียกร้องทำงานบนพื้นฐานจริยธรรมวิชาชีพ หยุดประเด็นดราม่า ปั้นคนเป็นฮีโร่ทำข่าวเป็นละคร ติงเป็นสื่อแทนที่จะตรวจสอบกลับสร้างข่าวลวงแทน เรียกร้องสมาคมสื่อ กสทช. ตรวจสอบเข้มข้นอย่าปล่อยให้มีการนำเสนอข่าวไม่สร้างสรรค์สังคม กระตุกต่อมคนไทยแบนสื่อขายข่าวไร้คุณภาพ ด้าน อ.เสรี อัดสื่อประหลาดขายข่าวผู้ต้องสงสัยคดีน้องชมพู่แบบไร้จรรยาบรรณ อนาจใจสื่อไทยข่าวดีคนไทย WHO รับรองซิโนแวค แอสตราเซเนก้าทยอยส่งวัคซีนถูกข่าวลุงพลกลบหมด

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้มีสถานีโทรทัศน์ 2 แห่ง ติดตามและนำเสนอข่าวคดีฆาตกรรมน้องชมพู่แบบขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและคนดู โดยเฉพาะการนำเสนอข่าว สกู๊ป ตัวลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรมน้องชมพู่แบบต่อเนื่องยาวนานในทุกแง่มุมนานนับเดือน ก่อนที่ล่าสุดศาลมุกดาหารจะออกหมายจับลุงพลพร้อมตั้ง 3 ข้อหาหนัก ในส่วนของการนำเสนอข่าวเชิงดราม่าของคดีฆาตกรรมอำพราง 1 ปี 21 วันก่อนลุงพลถูกออกหมายจับของสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 แห่งนี้

รศ.ดร.กุลทิพย์ ศาสตระรุจิ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เปิดเผยกับ “ท็อปนิวส์” ถึงบทบาทการทำหน้าที่บิดเบี้ยวของสื่อโทรทัศน์กรณีนำเสนอข่าวลุงพลขาดความรับผิดชอบต่อสังคมว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนความผิดของสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 ช่องผ่านทางกสทช. ร้องเรียนเรื่องการนำเสนอข่าวละเมิดสิทธิเด็กผ่านทางคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เราก็ทราบดีว่าทั้ง 2 ช่องนี้เสนอข่าวบนพื้นฐานผลประโยชน์ทางธุรกิจโดยคำนึงถึงเรตติ้ง มุ่งรายได้เป็นหลักมีความพยายามสร้างข่าวให้เป็นละคร ทำข่าวให้เป็นละคร มีกลยุทธ์ในการนำเสนอเนื้อหาให้กับทุกแพลตฟอร์มเพราะรายได้ผ่านทีวีเพียงอย่างเดียวมันไม่พอ การนำเสนอข่าวเรื่องนี้ทั้ง 2 ช่องเน้นเรื่องธุรกิจเป็นหลักแต่ช่องอื่นๆ ไม่ได้ทำแบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการตรวจสอบและมีการเตือนทั้ง 2 ช่องไปแล้ว รศ.ดร.กุลทิพย์กล่าว

รศ.ดร.กุลทิพย์กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญของการเสนอข่าวเรื่องนี้ หลายคนมองว่าทำไมข่าวนี้ไม่จบเสียที ตรงนี้เป็นเพราะสื่อไปทำให้กระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำได้ยากขึ้น สิ่งที่สื่อต้องไปขบคิดว่าวิธีการนำเสนอข่าวถูกต้องหรือไม่ โดยเฉพาะการที่นำเสนอข่าวผู้ต้องสงสัยคนนึงแล้วเอาเขาไปสร้างเป็นประเด็นดราม่าหรือเป็นฮีโร่ได้อย่างไรและมันถูกต้องไหม แม้จะมีผู้ชมกลุ่มหนึ่งชอบเรื่องแบบนี้ แต่มันคือวิธีการหลอกลวงโดยมีสื่อเป็นกลไก ปัจจุบันนี้มีทั้งเฟคนิวส์ ทั้งข่าวลวงในออนไลน์มากมายไปหมด แทนที่สื่อจะช่วยกันตรวจสอบแต่สื่อกลับทำตัวเป็นคนสร้างกลไกให้ข่าวลวงเพิ่มขึ้นโดดเด่นขึ้นด้วยแทนที่จะช่วยกันตรวจสอบกลับไปทำเสียเอง อยากฝากเรื่องนี้ไปถึงสมาคมที่เป็นคนกับกับดูแลสื่อต้องเข้ามาดู กสทช.ก็ต้องเข้ามามอนิเตอร์เรื่องนี้ให้เร็วกว่านี้ ต้องฟันธงได้

 

ด้านดร.เจษฎา ศาลาทอง อาจารย์ประจำ ภาควิชาการสื่อสารมวลชน คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ประเด็นนี้มีการพูดมานานแล้วว่าไม่เหมาะสมในบทบาทที่ทั้ง 2 ช่องดำเนินการ ถือเป็นการเล่นกับกระแสเล่นกับเรตติ้งของคนดู สื่อทีวีควรมีอะไรให้คนดูให้สังคมมากกว่าเรตติ้ง ไม่งั้นใครคิดอยากจะปล่อยอะไรก็ปล่อย มันก็จะขัดต่อจริยธรรมของสื่อและความรับผิดชอบต่อสังคมด้วยสื่อมันจะมองแต่เรื่องเรตติ้งอย่างเดียวไม่ได้ ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดกับช่องทีวีใหม่ๆ โดยเฉพาะทีวีดิจิตอลเพราะการแข่งขันสูงจึงต้องมีการดันเรื่องเรตติ้ง ประเด็นนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดแค่เรื่องลุงพลแต่มันเกิดมานานแล้ว ตั้งแต่เรื่องกราดยิงที่โคราช เรื่องครูกับล็อตเตอรี่ เป็นต้น ซึ่งการนำเสนอข่าวแบบนี้มันได้สร้างผลกระทบที่ไม่ดีให้กับสังคม อยากฝากว่าการเป็นสื่อทีวีต้องมองเรื่องอื่นด้วยไม่ใช่มองเรตติ้งอย่างเดียว เพราะสื่อก็มีผลกระทบกับสังคม อย่างไรก็ตามปรากฎการณ์ลุงพลจะโทษแต่สื่อฝ่ายเดียวไม่ได้ ต้องมองที่ระบบนิเวศน์สื่อด้วยที่มันผิดเพี้ยนไป เราต้องยอมรับกลไกการตลาดด้วยถ้าเป็นในต่างประเทศ หากมีสื่อไหนแตกแถวมีการนำเสนอข่าวที่ไม่เหมาะสมในบางประเทศก็จะมีการแบนสื่อนั้นๆเลย แต่ในบ้านเราก็มีบางกลุ่มที่อยากไปดูเรื่องแบบนี้มันก็เหมือนเราส่งมีดให้เขา แล้วเขาก็เอามีดมาจี้เราเป็นตัวประกัน ตัวผู้ชมเองก็มีส่วนถ้าคนดูไม่ดูไม่ชมคคนดูบอยคอต ว่าการนำเสนอข่าวแบบนี้เราไม่โอเคนะ ถ้าสังคมเองมีบรรยากาศมีการส่งสัญญาณแบบนี้เชื่อว่าสื่อก็คงฟัง อย่างไรก็ตามในส่วนของประเด็นนี้ความจริงประเทศไทยเรามีองค์กรที่กำกับดูแลทีวีคือกสทช. เพราะฉะนั้นตรงนี้กสทช.ต้องเข้ามาดูแลอย่างจริงจังในเรื่องนี้เพื่อไม่ใให้เกิดกรณีการนำเสนอข่าวลากยาวในประเด็นดราม่าแบบนี้อีก

 

ขณะที่รศ.ดร.เสรี วงษ์มณฑา ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านสื่อสารมวลชนเทคโนโลยีสารสนเทศ กล่าวว่า วานนี้ช่วงค่ำมีข่าวดีเรื่ององค์การอนามัยโลกรับรองวัคซีนซิโนแวคเราทุกคนก็ดีใจ ว่าการที่ซีโนแวคได้รับการรับรองคงเป็นข่าวใหญ่ที่ทำให้คนดีอกดีใจ คนที่ฉีดไปแล้วก็ดีอกดีใจ คนที่กำลังจะได้ฉีดก็ดีใจ ส่วนคนที่กล่าวหาวัคซีนก็คงจะอกแตกตายกระอักเลือดตาย แต่พอสี่ทุ่มครึ่งมีข่าวออกหมายจับลุงพล ทำให้ข่าวดีที่เราควรดีอกดีใจหายไปแน่ๆ สุดท้ายก็เป็นจริงดังว่า หกโมงเช้าข่าวตำรวจไปบ้านลุงพลจำนวนนึง แต่ปรากฎว่านักข่าวกับยูทูปเบอร์มีมากกว่า 3-4 เท่า ปีกว่าๆของลุงพล ได้มีการเอามาพูดคุยกันแล้วว่าสื่อจะทำข่าวอะไรแบบนี้กันนักหนา มีสถานีโทรทัศน์ที่มีนักข่าวคนหนึ่งถูกสั่งให้ไปทำข่าวนี้ให้เล่นข่าวลุงพล จนนักข่าวคนนี้ที่ลงไปหาข้อมูลทนไม่ไหวแล้วและต้องลาออก เพราะมันไปละเมิดสิทธิเขาเหมือนไปเฝ้าเขาตลอดไปละเมิดชีวิตส่วนตัว หลายคนตำหนิสถานีโทรทัศน์ 2 ช่องที่เล่นข่าวนี้ตลอด นั่งยองๆกินข้าวในสวนก็มีคนไปไลฟ์สดให้ดู ความจริงไม่อยากดูแต่มันขึ้นเต็มหน้าฟีดเลยไม่รู้ทำไง พอเห็นก็ประหลาดใจมันไม่ใช่มีแค่หน้าฟีดแต่โทรทัศน์บางช่องก็เอามาเล่น มีกระบวนการเอาเขาไปปั้นเป็นเซเลป เอาไปเดินแฟชั่นโชว์ที่สยามพารากอน อย่างกับดาราช่อง 3 ช่อง 7 มีการมีตเเอนด์กรี๊ด หนักกว่านั้นคือออกอัลบั้มร้องเพลงกับจินตหรา พูนลาภ ออกรายการหลายรายการ มีโฆษณาสินค้า คนที่เป็นนักปั้นก็หาเงินไปมอบให้ คนที่เป็นหมอดูก็เข้ามา ตอนนั้นเราก็พูดว่าปั้นกันเป็นเซเลปเป็นไอดอล หากวันนึงการสืบสวนสอบสวนหวยมาออกที่ลุงพลจะเงิบกันไหม

รศ.ดร.เสรีกล่าวต่อว่า วันนี้เรามีข่าวใหญ่ข่าวดีมากมายที่ควรพูดถึง อาทิ องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรองวัคซีนซิโนแวคจากจีนที่เป็นวัคซีนหลักของคนไทยแล้ว ข่าวดีต่อมาคือวัคซีนแอสตราเซเนก้า มีการส่งแล้ว 2.4 แสนโดส กระจายไป 58 จังหวัด ช่วง 1-2 วันนี้ จากนั้นอีก 2 สัปดาห์จะมาอีก 3.5 แสนโดสเพื่อฉีดให้คนกรุงเทพฯและจังหวัดอื่นๆ แสดงว่าขณะนี้แอสตราเซเนก้ามีการทยอยส่งแล้วหลังได้รับการตรวจสอบและรับรองจากสหรัฐฯและยุโรป ข่าวพวกนี้ควรเป็นข่าวใหญ่ที่ทำให้คนไทยดีใจมากกว่าข่าวลุงพล แต่วันนี้ข่าวใหญ่ที่คนไทยได้รับรู้ดันกลายเป็นข่าวลุงพลหมด ข่าวลุงพลเอาไว้ทีหลังก็ได้แต่ข่าววัคซีนนี้เป็นข่าวดีที่เราจะได้สร้างภูมิตุ้มกันหมู่ทำให้ธุรกิจต่างๆของเรากลับมาเปิดได้
///////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ปรับครม. เศรษฐา 2 นิ่งสนิท! เด็กในคาถา "นายหญิง - นายใหญ่" เก้าอี้แข็งโป้ก
"สุรพงษ์" นำทีมคมนาคมลงใต้ ลุยพัฒนาระบบขนส่งหนุนท่องเที่ยวปัตตานี
"บิ๊กโจ๊ก" เดินสายร้องปปง.ค้านทำคดีฟอกเงิน จ่องัดม.157 ฟาดกลับ ปลดออกราชการมิชอบ
ผ่าชนวนระเบิดเวลาขย่มรัฐบาล แก้ "รธน." นโยบายเรือธงส่อแป้ก ยึดคืน "ประธานสภา" สะเทือนสัมพันธ์พรรคร่วม
ศาลลงโทษ “การ์ดวีโว่” จุ้นเรื่องเมียนมา ก่อม็อบต้าน “มินอ่องหล่าย” รัฐประหาร
"ปลัดก.คลัง" ชี้ความเห็น "ผู้ว่าฯธปท." ไม่มีอะไรใหม่ ไม่กระทบแผน "ดิจิทัล วอลเล็ต"
มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์ มอบรถเข็นวีลแชร์ แก่สำนักงานจัดหางาน จ.นนทบุรี เติมกำลังใจให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ยากไร้
โซเชียลฟาด "อินฟูล"คนดัง แชร์ทริคใช้แอร์ประหยัดไฟ ไม่ต่างยุค"ลุงตู่"เคยแนะ
งานเข้า “จิรัฏฐ์ ” ส่งทนายเลื่อนเข้าพบตำรวจสน.ประชาชื่น รับทราบข้อหาปลอม สด.43 โดนหมายเรียกครั้งที่ 2 ทันที
เครือข่ายภาคปชช.จังหวัดเพชรบุรี ร่วมมือกรมอุทยานฯ เตรียม “ย้ายลิงเขาวัง” รอบ 2 นำร่องแก้ปัญหาลิงล้นเมือง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น