ต้องยอมรับว่าหลังเกิดปัญหาขัดแย้งกันมาสารพัดเรื่องภายในพรรคพลังประชารัฐ โดยเฉพาะนับตั้งแต่เกิดความขัดแย้งระหว่างก๊วน “ผู้กองแป้ง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ผู้นำรัฐบาล ดูเหมือนพรรคพลังประชารัฐก็ค่อยๆตกต่ำดำดิ่ง สูญเสียคะแนนความนิยมมาโดยตลอด กระทั่งถึงจุดแตกหักที่พรรคพลังประชารัฐมีมติขับ 21 ส.ส. ก๊วนหอกข้างแคร่ออกจากพรรค หลังเกิดปัญหาขบเหลี่ยมเกาเหลาทะเลาะกันมานาน จนทำให้พรรคพลังประชารัฐถูกมองว่าขาดเอกภาพเนื่องจากแบ่งขั้วกางมุ้งกันหลายก๊วน แตกเละไม่มีชิ้นดีส่งผลให้สถานะของพรรคในยามนี้ตกอยู่ในสภาพ “เลือดไหล” และ “ขาลง” อย่างสุดๆ ชนิดที่แฟนคลับคนรักนายกฯ อยากให้พล.อ.ประยุทธ์ทิ้งพรรคเน่าๆ บ้านหลังผุๆ แห่งนี้ไปอยู่บ้านหลังใหม่ให้รู้แล้วรู้รอดไป
นอกเหนือจากประเด็นขับก๊วน 21 ส.ส.ของร.อ.ธรรมนัสพ้นพรรคไปแล้ว ก่อนทั้งหมดจะระเห็จไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค “เศรษฐกิจไทย” รวม 18 คน ที่จนถึงตอนนี้แม้จะมีที่คุ้มกะลาหัวแล้ว แต่สถานะส.ส.ก็ยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังลูกผีลูกคนต้องลุ้นคดีที่ถูกนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กับ กลุ่มของนายสมัย รามัญอุดม ไปยื่นเรื่องให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) วินัจฉัยว่าการขับไม่สมบูรณ์ขัดกฎหมาย แต่ดูแนวโน้มก็แน่ชัดแล้วว่าทั้ง 21 คน คงไม่ยูเทิร์นกลับไปอยู่กับพรรคลุงป้อมอีกแน่ โดย 18 คนก๊วนร.อ.ธรรมนัสไปลงหลังปักฐานกับพรรคเศรษฐกิจไทย และอนาคตเตรียมรันพรรคนี้ใหม่ภายใต้ชื่อ “รวมใจไทยชนะ” ส่วน 3 คนที่ออกมาแต่ขอดูท่าทีกกต.ก่อนว่าจะตัดสินคดีขับ 21 คนผิดกฎหมายออกมาอย่างไร ที่ประกอบด้วย นายเอกราช ช่างเหลา และ นายวัฒนา ช่างเหลา รวมถึงนายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม ล่าสุดถูกพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล ตกเขียวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อีกฝากฝั่งของพรรค “แรมโบ้” ดร.เสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีก็ไขก๊อกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ หลังถูกส่งมาอยู่ในพรรคแต่ไม่ถูก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐใช้งานเลย ยิ่งเมื่อเกิดเรื่องขับขบถ 21 คนพ้นพรรค ประกอบกับพรรคพลังประชารัฐไร้เอกภาพ ขาดความสามัคคี เอาแน่เอานอนไม่ได้ งานนี้แรมโบ้เลยต้องออกไปเป็นหัวหอกทำพรรคใหม่ให้นายกฯ ภายใต้ชื่อ “รวมไทยสร้างชาติ” ข่าวว่าวางตัว “เสี่ยตุ๋ย” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรมว.ยุติธรรมปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขุนศึกคนสำคัญข้างกายพล.อ.ประยุทธ์เป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ วางเป้าหมายเป็นพรรคสำรองพรรคอะไหล่ทางการเมือง หากพรรคพลังประชารัฐเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ไม่ว่ายุบหรือแตก อย่างน้อยยังมีพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคทางเลือกในการเสนอแคนดิเดตนายกฯ โดยไม่ต้องง้อไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาขี่คอ นอกจากแรมโบ้ นายพีระพันธุ์ ยังมีนายปรพล อดิเรกสาร อดีตส.ส.สระบุรี ข่าวว่าอนาคตยังอาจมีคนดังอีกมากตามมาอยู่พรรคนี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพรรคคนรักลุงตู่ขนาดแท้ ไม่ว่าจะเป็น นายชัชวาลย์ คงอุดม นายสกลธี ภัททิยะกุล หรือแม้แต่ “เสี่ยตั้น” นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรมว.ศึกษาธิการ “เสี่ยบี” พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรมว.ดีอีเอส ฯลฯ
อนาคตจากนี้ต้องจับตาดูว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเลือกพรรคไหนเป็นฐานที่มั่นในการทำการเมืองต่อไป อย่างไรเสียพรรคพลังประชารัฐก็คงเป็นฐานทัพหลักแน่นอน แม้ว่าจะเกิดศึกสายเลือดภายในจนเละตุ้มเป๊ะไปหมด แต่ด้วยความเป็นพรรคเก่าพรรคหลักพรรคใหญ่ยังไงก็ต้องอยู่กันไปก่อน แต่เชื่อแน่ว่าประชุมใหญ่พรรคในเวลาอันใกล้นี้ ที่มีแนวโน้มว่าอาจขอกกต.ขยับมาประชุมพรรคเร็วขึ้นจากเดือนเม.ย.มาเป็นเดือนมี.ค. เชื่อว่าคงเห็นหน้าเห็นหลังชัดเจนว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเอาอย่างไร จะเข้าไปล้วงลูกวางตัวกรรมการบริหารพรรคใหม่ เพื่อให้คุมพรรคแบบเบ็ดเสร็จเพื่อแต่งตัวรอพรรคให้พร้อมรับการเลือกตั้ง ขณะที่พรรคใหม่อย่างรวมไทยสร้างชาติพล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจอย่างไร วางไว้แบบนี้ก่อนหรือส่งคนส่งขุนพลคนใกล้ตัวอย่างนายพีระพันธุ์ลงไปขยับขับเคลื่อนพรรคพร้อมกันไปเลย เพราะยุบสภาหรือเลือกตั้งใหม่ นับจากนี้ก็คงอีกไม่นานเกินรอ
///////////////////////