เร่งเกมส์ “สภาล่ม”…กดดันบิ๊กตู่ยุบสภา

ทักษิณกดรีโมตสั่งเร่งเกมส์จากแดนไกล "เพื่อไทย-ก้าวไกล" รับลูก เล่นการเมืองอุบาทว์ "ไม่แสดงตัวเป็นองค์ประชุม" ตั้งธงทำสภาล่มกดดันให้นายกฯยุบสภา นายใหญ่หวังสูง "เลือกตั้งไว-ได้กลับบ้านเร็ว" สังคมรุมประณามส.ส.ฝ่ายค้านเล่นการเมืองจนลืมเรื่องชาวบ้าน

3 ปีเศษของการเป็นรัฐบาลบริหารประเทศในเทอม 2 ต้องบอกว่า “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ต้องพบกับความลำบากจากปัญหาหลายเรื่องรุมเร้า หนึ่งในนั้นมีเรื่องปัญหาการบริหารจัดการในสภา ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ปีที่แล้ว 2564 เรื่อยมาจนถึงปีนี้ 2565 เรื่องของสภาล่ม ได้กลายมาเป็นหนึ่งในปัญหากวนใจรัฐบาลและทำให้พล.อ.ประยุทธ์เสียความน่าเชื่อถือไปมากในเรื่องนี้ โดยเฉพาะเมื่อนับรวมจำนวนสภาล่มที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลชุดนี้ที่มีมากถึง 17 ครั้ง ล่าสุดก็เป็นเมื่อวานนี้ 10 ก.พ.2565 ต้องบอกว่ามากจริงๆ

อย่างไรก็ตามหากมองลงไปในรายละเอียดสภาล่มจริงจะพบว่า เพิ่งมาล่มหนักๆเอาก็ตอนปีที่ผ่านมาและปีนี้เท่านั้น ประกอบด้วย พ.ศ. 2562 สภาล่ม 3 ครั้ง พ.ศ. 2563 สภาล่ม 1 ครั้ง พ.ศ.2564 สภาล่ม 8 ครั้ง พ.ศ.2565 ถึงปัจจุบัน 10 ก.พ. สภาล่ม 5 ครั้ง เบ็ดเสร็จรวม 17 ครั้ง ต้องบอกว่ากรณีสภาล่มใน 13 ครั้งหลังช่วงปี 2564-2565 อยู่ในช่วงที่พรรคพลังประชารัฐกำลังมีปัญหาง่อนแง่น โดยเฉพาะตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์เกิดความบาดหมางขัดแย้งกับกลุ่มก๊วนร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสียงในสภาก็ส่อเค้าเกิดปัญหามาโดยตลอด และทุกอย่างเริ่มเด่นชัดขึ้นอีก หลังวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาลที่เป็นคนคุมหางเสือกลเกมส์ในสภา และเป็นแกนนำก๊วนร.อ.ธรรมนัสถูกพักการปฏิบัติหน้าที่หลังถูกชี้มูลว่าอาจมีเอี่ยวในคดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอลหลายแห่งในโคราช จุดอ่อนในสภาก็เกิดขึ้นทันทีแม้พล.อ.ประยุทธ์จะแก้เกมส์ด้วยการวางตัวนิโรธ สุนทรเลขา ขึ้นมาเป็นประธานวิปรัฐบาลคนใหม่ เป็นแม่ทัพคุมเสียงในสภาแทน แต่ฝีไม้ลายมือ ความเขี้ยวรากดิน ชั่วโมงบิน เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวก็แหลมคมสู้วิรัชไม่ได้ ศึกในสภาของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จึงเป็นฝ่ายตั้งรับและถูกกระทำมาโดยตลอด

แถมยิ่งหนักข้อเข้าไปอีกเมื่อสภาล่มใน 3-4 ครั้งหลังสุด ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่ามาจากกรณีที่เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลหายไป อันเนื่องมาจากความแตกร้าวภายในพรรคพลังประชารัฐ จนนำไปสู่การอัปเปหิขับออก 21 ส.ส.ก๊วนร.อ.ธรรมนัส ตรงนี้แม้จะมีแง่ดีในเรื่องเอกภาพและความสามัคคีภายในพรรคพลังประชารัฐที่ดีขึ้น แต่ในภาพรวมของรัฐบาลกรณีที่พรรคพลังประชารัฐเคยมีเสียง 116 เสียง แต่จู่ๆหายไป 21 เสียง คงเหลืออยู่กับพรรคจริงๆ แค่ 96 เสียง ตรงนี้ก็ทำให้เสียงในซีกของส.ส.ฝ่ายรัฐบาลไม่นิ่งและหายไปมากโข ที่สุดก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สภาล่มอยู่บ่อยครั้งในช่วงปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามเหตุผลสำคัญนอกจากส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะไม่รับผิดชอบ ไม่เข้าร่วมประชุมสภา ไม่แสดงองค์ประชุม ทั้งๆที่มีเสียงส.ส.จากพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค รวมกันมากถึง 267 คน เกินกึ่งหนึ่งของจำนวนส.ส.ทั้งหมดที่ในสภาตอนนี้ราว 474 คน ไปเกือบ 30 คน โดยเสียงเกินกึ่งหนึ่งของส.ส.คือ 237 คน ต้องบอกว่าส.ส.ฝ่ายรัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบในเรื่องนี้ไปไม่ได้ เพราะการรักษาองค์ประชุมไม่ให้สภาล่มเป็นหน้าที่หลักหน้าที่สำคัญที่ส.ส.รัฐบาลทุกคนพึงกระทำและปฏิบัติอยู่แล้ว ครั้นจะไปหวังน้ำบ่อหน้าขอเสียงขอคะแนนขอองค์ประชุมจากพรรคฝ่ายค้านที่เป็นคนละขั้วกัน แถมการเมืองร้อนๆแบบนี้ ฝ่ายค้านที่ไหนจะโง่ให้รัฐบาลยืมจมูกหายใจ เพราะฉะนั้นเรื่องสภาล่มส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ต้องถูกด่าต้องถูกตำหนิต้องถูกประณามเป็นด่านแรกอยู่แล้ว

แต่อุบัติเหตุทางการเมืองเรื่องสภาล่มในยุคสมัยนี้ ก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่จะโทษส.ส.รัฐบาลแต่เพียงฝ่ายเดียว หากแต่ส.ส.ฝ่ายค้านก็ต้องถูกด่าทอถูกประณามหยามเหยียดถูกบริภาษด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุที่จงใจตั้งใจทำให้เกิดสภาล่ม  โดยเล็งเห็นผลว่าจะกลายเป็นแรงกดดันไปถึงรัฐบาลถึงตัวนายกฯ ซึ่งเรื่องแบบนี้นักเลงการเมือง ฝ่ายค้านมืออาชีพสมัยก่อนเขาไม่ทำกัน เขาไม่เอาเรื่องเด็กๆแบบนี้มาล้มรัฐบาลมาประหารคนเป็นนายกฯ คนที่พูดเรื่องนี้น่าฟังชัดเจนคือ “นายหัวชวนลูกแม่ถ้วน” อดีตนายกฯ 2 สมัย ผู้นำฝ่ายค้าน 3 สมัย ชวน หลีกภัย พูดชัดในสภา สมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน การขอนับองค์ประชุมจะกระทำในช่วงสำคัญ 2 กรณี คือ 1.เวลามีกฎหมายสำคัญๆเข้าสภา และ 2.เวลาฝ่ายค้านถูกรัฐบาลกลั่นแกล้ง อาทิ ถูกปิดไมค์ไม่ให้พูด ถูกห้ามอภิปราย หรือเห็นว่ารัฐบาลขาดความรับผิดชอบมาประชุมน้อยในช่วงที่มีกฎหมายหรือเรื่องสำคัญๆเข้าสภา แต่ประเด็นสำคัญคือจะไม่มีการขอนับองค์ประชุมแบบพร่ำพรื่อ เพื่อมุ่งหวังให้เกิดสภาล่มกดดันรัฐบาล นักเลงการเมืองยุคเก่าเขาคิดกันแบบนี้

” ผมเป็นผู้นำฝ่ายค้าน 3 สมัย พอจะรู้ดีว่าการใช้สิทธิดังกล่าวเป็นกรณีที่รัฐบาลกลั่นแกล้ง เช่น เขาไม่ให้พูด มีการเสนอปิดอภิปราย ยกมือก็ไม่ให้พูด สมัยนี้ดีไม่มีเลย และสมัยนี้เป็นสมัยที่เราได้อภิปรายทั่วถึงทุกคน ซึ่งไม่เคยปรากฏอย่างนี้มาก่อน เพราะเราถือว่าสภาเป็นที่พูด แต่การประท้วง หรือการนับองค์ประชุมนั้น สมัยก่อนก็มีในกรณีที่เห็นว่ารัฐบาลไปกลั่นแกล้งเขา แต่ไม่ใช่ลักษณะอย่างปัจจุบัน ทราบดีเรื่องพวกนี้ เช่น เวลานับองค์ประชุม ผมเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ก็นั่งในห้องประชุม เพราะองค์ประชุมสมัยนั้นเขานับตัวคน แต่ปัจจุบันกดบัตร อันนี้คือข้อแตกต่างที่ทำให้บางท่านอยู่ในห้องประชุม บางครั้งห้องประชุมนี้ครบ แต่เนื่องจากสมาชิกบางท่านไม่กดบัตร องค์ประชุมก็เลยไม่ครบ ทั้งที่ความจริงแล้วองค์ประชุมครบ ถ้านับตัวบุคคล อันนี้คือข้อเท็จจริง ……ไม่อยากให้งานของเราล้มเหลว ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง สิ่งที่เป็นประโยชน์กับบ้านเมืองต้องทำ ” ประธานชวนสะบีดมีดโกน

ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้เป็นจริงอย่างที่ชวนพูด เพราะสภาล่ม 3 ครั้งหลังส่วนหนึ่งก็มาจากพรรคฝ่ายค้านอย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลไม่ยอมกดแสดงตัวเป็นองค์ประชุม ทั้งๆที่นั่งหน้าสลอนอยู่ในสภาแท้ๆ ยกตัวอย่างสภาล่มครั้งล่าสุด 10 ก.พ. 2565 ส.ส.ฝ่ายค้านนั่งอยู่ในสภา 207 คน กดแสดงตัว 15 คน ไม่แสดงตัว 192 คน โดยพรรคเพื่อไทยนั่งอยู่ในสภา 131 คน กดแสดงตัว 5 คน ไม่แสดงตัว 126 คน พรรคก้าวไกลนั่งอยู่ในสภา 51 คน แสดงตัว 5 คน ไม่แสดงตัว 46 คน 3-4 ครั้งหลังก็เป็นเช่นนี้เรื่อยมา แม้เรื่องนี้จะเป็นสิ่งที่ส.ส.ฝ่ายค้านสามารถทำได้ แต่กลเกมส์เล่ท์เพทุบายแบบนี้ นักการเมืองผู้ทรงเกียรติผู้แทนชาวบ้านเขาไม่เอาเรื่องแบบนี้มาใช้พร่ำพรื่อในสภา มันไม่สง่างาม หรือจนปัญญาด้วยเกล้าในการจะกดดันไล่พล.อ.ประยุทธ์แล้วจึงต้องงัดมุกนี้มาใช้

มีคนที่ออกมาไขปริศนาเหตุใดจู่ๆ พรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลถึงรุกเร้าใช้เกมส์ต่ำดำดินแบบนี้ในสภา เพื่อหวังกดดันให้พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภา ทั้งๆที่เป็นวิธีการที่ต่ำตมเข้าเนื้อไร้เกียรติไม่มีศักดิ์ศรี คนที่ออกมาชี้ทางสว่างเรื่องนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่รู้เช่นเห็นชาติรู้กำพืดของคนที่อยู่เบื้องหลัง ดุนตูดถีบหลังพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกลเป็นอย่างดี บุรุษที่ว่าก็คือ “ลุงกำนัน” สุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ที่พูดผ่านเฟซบุ๊กไลท์ “ Suthep Thaugsuban ในรายการ “คุยกับลุง” EP 17 ซัดตรงๆว่าทักษิณ ชินวัตร นายใหญ่คนแดนไกลอยู่เบื้องหลังกดรีโมตเร่งเครื่องเดินเกมส์ในคราวนี้


” สภาฯเองวันนี้เกิดปรากฏการณ์สภาล่มติดต่อกันนับ10 ครั้ง ฝ่ายค้านประกาศชัดเจนว่าจะไม่ร่วมมือกับรัฐบาลในการประชุมรัฐสภา คงไม่ไปวิจารณ์ว่าเขาทำผิดทำถูกอย่างไร แต่ละคนมีเป้าหมาย มีจุดมุ่งหมาย ในทางการเมืองของตัวเองกันอยู่…..ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่อย่างนี้ มีเสียงเรียกร้องให้ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แน่นอนคนที่เป็นหัวขบวนในขณะนี้ก็คือนายทักษิณ ชินวัตร หัวขบวนฝ่ายระบอบทักษิณที่จ้องจะทำลายความน่าเชื่อถือ ดิสเครดิตฝ่ายรัฐบาลประจำอยู่แล้ว ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะนายทักษิณ มีเป้าหมายที่อยากจะกลับประเทศอย่างเท่ๆ ไม่ต้องติดคุกพยายามอย่างเดียวที่จะให้ฝ่ายตัวเอง มีอำนาจในการเมืองของประเทศ ” ลุงกำนันเบิกเนตรคนไทยเลยตาสว่าง

จากนี้ต้องติดตามดูกันต่อไปว่าถึงที่สุดแล้วพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลจะแก้กลเกมส์ในสภาเพื่อไม่ให้เกิดการล่มได้อย่างไร และแผนที่ทักษิณมุ่งหมายกดดันให้ยุบสภาจะเป็นจริงได้หรือไม่

///////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุช้างป่าทำร้าย จังหวัดฉะเชิงเทรา
เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา จัดพิธีปิดโครงการ โคกหนองนา แห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ รุ่นที่ 7/1
“ASEAN FIGHT” เปิดโหมดเดือดทะลุปรอท สะท้านสังเวียนผ้าใบ ในศึกรากหญ้ามวยไทย
“นายก หน่อย” ร่วมเครือข่ายพันธมิตรด้านสาธารณสุข สแกนกลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็ง ตั้งเป้า 1 ล้านดวงใจ เพื่อคนโคราชต้องสุขภาพดี
ธนายุตม์ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. ตรวจเยี่ยม-อำลา สภ.รัตนาธิเบศร์ มอบสิ่งของสร้างขวัญกำลังใจตำรวจ
“ผบ.ทสส.” หนุนเต็มที่ กองทัพบกสร้างรั้วแข็งแรงบ้านหนองจาน ป้องกัน “เขมร” รุกราน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​