ดร.ปีเตอร์ โฮเทส ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาวีคซีนที่โรงพยาบาลเด็ก แห่งรัฐเท็กซัสของสหรัฐให้สัมภาษณ์ในรายการ Meet the Press ของสถานีโทรทัศน์ NBC ของสหรัฐเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พฤษภาคม) ว่าการรู้ต้นกำเนิดที่แท้จริงของไวรัสโควิดเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถเข้าใจที่มาของไวรัสและสามารถพัฒนาวัคซีนเพื่อรับมือกับไวรัสได้อย่างถูกต้องและได้ประสิทธิภาพ เพราะหากแก้ไม่ถูกทาง ในอนาคตเราอาจจะเห็นโควิดสายพันธุ์อื่นเช่น โควิด 26 และโควิด 32 โผล่มาอีก
ดร.โฮเทสแนะด้วยว่าสหรัฐจะต้องส่งทีมนักวิทยาศาสตร์ที่ประกอบด้วยนักระบาดวิทยาและนักไวรัสวิทยาเข้าไปทำงานร่วมกับทีมงานนักวิทยาศาสตร์จีน โดยต้องฝังตัวทำงานอยู่ที่นั่นอย่างน้อย 6-12 เดือน โดยจะต้องสัมภาษณ์นักวิทยาศาตร์จีนและตรวจสอบหาข้อมูลต่างๆในระบบคอมพิวเตอร์ในห้องแล็บเพื่อหาความเป็นไปได้เกี่ยวกับทฤษฎีที่ว่าไวรัสรั่้วออกมาจากห้องแล็บ และว่าหากจำเป็นสหรัฐก็ควรต้องกดดันจีนเพื่อให้ความร่วมมือและเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลที่แท้จริง
วันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไบเดนมีคำสั่งให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐไปหาต้นกำเนิดของโควิดมาให้ได้ภายใน 90 วัน โดยตั้งความเป็นไปได้ไว้ 2 ทฤษฎีคือไวรัสรั่วไหลออกจากห้องแล็บอู่ฮั่น หรือแพร่จากสัตว์สู่คน อย่างไรก็ตามหลังมีคำสั่งดังกล่าว รัฐบาลจีนออกมาแสดงความไม่พอใจ กล่าวหาว่าเป็นการโจมตีทางการเมือง และว่านักวิทยาศาสตร์สหรัฐไม่เก่งไปกว่าผู้เชี่ยวชาญของ WHO ซึ่งเข้าไปตรวจสอบห้องแล็บที่อู่ฮั่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา