เวลา 11.50 น. การประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงทันทีหลังจากนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านฯ อภิปรายฯ จบ ว่า อาจมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ในส่วนของการบริหารงบประมาณถ้ามองตัวเลขอย่างเดียว ก็ดูเหมือนไม่เป็นธรรม ไม่ตรงสถานการณ์ อย่าลืมว่าเรามีเม็ดเงินต่าง ๆเพื่อรองรับแก้ปัญหาโควิดไว้ หลายส่วนด้วยกัน ทั้งงบประมาณประจำ และเงินกู้ที่ใช้เยียวยาในช่วงแรก งบประมาณในเรื่องนี้ คงไม่มีปัญหา ในเรื่องวัคซีนก็เป็นไปตามลำดับ ตามขั้นตอนในการจัดหาแบบรัฐต่อรัฐนำเข้าตามงบประมาณที่ปรากฏอยู่วันนี้ ความต้องการวัคซีนของหลาย ๆ ประเทศจึงต้องมาดูเรื่องการบริหารจัดการจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนที่เรามีบริษัทเป็นของเรา ที่ถ่ายทอดการผลิตวัคซีนในประเทศไทย แต่ก็ต้องถูกควบคุมจากบริษัทใหญ่ ที่ควบคุมการผลิตทั้งหมดด้วย
“รัฐบาลมีแผนรับมืออย่างต่อเนื่องทั้งแผนหลักและแผนรองรวมถึงแผนฉุกเฉินในเรื่องวัคซีนและคาดว่าในระยะเวลาที่กำหนดไปแล้วไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องวัคซีน รวมถึงวัคซีนทางเลือก ที่ดำเนินการได้แล้วขณะนี้แต่ทั้งหมด ยังคงต้องนำเข้าผ่านช่องทางรัฐต่อรัฐ โดยมีคณะกรรมการที่ดูแลในเรื่องนี้ มาอย่างต่อเนื่องไม่ใช่ว่าเพิ่งมาทำหรือเพิ่งจะอนุมัติ ก็ไม่ใช่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณกระทรวงกลาโหมเมื่อไปดูให้ดี มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับบุคลากร ค่าใช้จ่ายในภารกิจประจำ และการพัฒนากองทัพซึ่งมีงบประมาณที่ตั้งไว้ในจำนวนไม่มากนัก 2 ปีที่ผ่านมาก็มีการปรับลดไปแล้ว จำนวนเป็นหมื่นล้านบาทในแต่ละปี และ วันนี้สิ่งที่เป็นข้อผูกพันที่ต้องดำเนินการต่อและมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการต่อในปี 2565 เมื่อมีการพาดพิงว่า งบกลาโหมมากกว่างบกระทรวงสาธารณสุขนั้นไม่ใช่ข้อเท็จจริง งบประมาณของกระทรวงสาธารณสุขนั้นนอกจากงบประมาณของหน่วยงานไปแล้วยังมีงบประมาณของกองทุนภายใต้กระทรวงอีก 3 กองทุน คือ กองทุนสํานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนการแพทย์ฉุกเฉิน กองทุนภูมิปัญญา การแพทย์แผนไทย จำนวน 141,741 ล้านบาท งบประมาณของกระทรวงเองมี 151,94 0.47 ล้านบาท เมื่อรวมกันแล้วงบประมาณสาธารณสุขจะมีทั้งสิ้น 295,681 ล้านบาท และเมื่อเทียบกับปี 64 ลดลง 5,930 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 1.7 จะเห็นได้ว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริงเมื่อ มาดูแยก ส่วนของพ.ร.บ.งบประมาณต้องไปดูกองทุนต่าง ๆ กองทุนสะสมที่ใช้ประโยชน์ตรงนี้จะเห็นได้ว่างบประมาณของกระทรวงกลาโหมน้อยกว่ากระทรวงสาธารณสุขโดยภาพรวม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ในเรื่องของวัคซีนการบริหารจัดการต่าง ๆ ตนเองอยากทราบว่าจะมีการบริหารสถานการณ์ได้ดีกว่าที่ทำอยู่ในทุกวันนี้หรือไม่ ยืนยันว่ารัฐบาลทำอย่างโปร่งใส ทั่วถึง เป็นธรรมแต่ทั้งหมดก็เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายเป็นไปตามการจัดสรรวัคซีนการให้บริการฉีดวัคซีนซึ่งวันนี้ตนก็จะไปตรวจเยี่ยม จุดฉีดวัคซีนด้วย ซึ่งจะทำให้ดีที่สุด ขอยืนยันว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะมีวัคซีนเข้ามาอย่างเพียงพอ ทั้งวัคซีนที่รัฐบาลจัดหาและวัคซีนทางเลือก แต่ไม่ว่าจะจัดหาอย่างไรก็ต้องเข้ามาในช่องทางการติดต่อขึ้นทะเบียนโดยบริษัทที่ได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนของบริษัทใหญ่จะต้องมาติดต่อกับ อย.เพื่อจะรับรองมาตรฐานและขอให้การนำเข้าซึ่งวันนี้มีการอนุมัติการนำเข้าอีกช่องทางหนึ่งแล้ว
“การบริหารงบประมาณ ได้พิจารณาอย่างเข้มงวด รัดกุม ผมไม่ได้นั่งดูแต่ข้อมูลแต่จะลงไปดูในรายละเอียดและให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปดูและนำข้อมูล ทั้งหมด มาแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ให้แต่ละหน่วยงานเข้าไปแก้ไข ตามหลักการของกฎหมาย ทั้งหมด นั่นคือการทำงานในระบอบประชาธิปไตยของผม และวันนี้ไม่มีการทุจริตในงบประมาณต่าง ๆ ในรัฐบาลของผม ผมย้ำว่ารัฐบาลผม” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว