No data was found

ดูกันชัดๆ! “ดร.สามารถ” เทียบบทลงโทษฝ่ากฎทางม้าลายระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

กดติดตาม TOP NEWS

ดูกันชัดๆ! "ดร.สามารถ" เทียบบทลงโทษฝ่ากฎทางม้าลายระหว่างไทย-ญี่ปุ่น

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้ชำนาญด้านโครงการและแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนและท่าอากาศยาน โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัว เปรียบเทียบบทลงโทษทางกฎหมายกรณีข้ามทางม้าลายระหว่างไทยกับญี่ปุ่น หลังเกิดเหตุพญ.วราลัคน์ สุภวัตรจริยากุล หรือหมอกระต่าย ถูกตำรวจขับบิ๊กไบก์ชนขณะข้ามทางม้าลายหน้าสถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท เมื่อวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา จนเสียชีวิต

โดย ดร.สามารถ ได้อธิบายทั้งหมด 4 ข้อ ดังนี้

1.ทำไมจึงต้องเปรียบเทียบบทลงโทษกับญี่ปุ่น? เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรน้อยเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ในขณะที่ไทยเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก อีกทั้งญี่ปุ่นเป็นประเทศที่คนไทยจำนวนไม่น้อยได้ไปเยือนมาแล้ว ได้มีโอกาสสัมผัสกับการใช้รถใช้ถนน รวมทั้งการข้ามทางม้าลาย ทำให้การเปรียบเทียบเข้าใจได้ง่าย

2.บทลงโทษของไทยไม่รุนแรงเหมือนของญี่ปุ่นจริงหรือ ?
-กรณีไม่หยุดรถให้คนข้ามทางม้าลาย
บทลงโทษของไทยจะถูกปรับไม่เกิน 1,000 บาท ของญี่ปุ่นจะถูกจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือถูกปรับไม่เกิน 50,000 เยน หรือ ประมาณ 15,000 บาท
-กรณีขับรถชนคนข้ามทางม้าลายได้รับบาดเจ็บ
บทลงโทษของไทยจะถูกจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในขณะที่ญี่ปุ่นจะถูกจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านเยน หรือ ประมาณ 300,000 บาท
-กรณีขับรถชนคนข้ามทางม้าลายเสียชีวิต
บทลงโทษของไทยจะถูกจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ของญี่ปุ่นจะถูกจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านเยน หรือ ประมาณ 300,000 บาท

จากการเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่าบทลงโทษของไทย มีทั้งที่รุนแรงน้อยกว่าและรุนแรงมากกว่าของญี่ปุ่น แต่ทำไมไทยจึงมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรมากกว่าญี่ปุ่นมาก หรือ ทำไมญี่ปุ่นจึงมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรน้อยกว่าไทยมาก

3. ทำไมญี่ปุ่นจึงมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรน้อยกว่าไทยมาก อาจเป็นเพราะ
– ญี่ปุ่นเข้มงวดกวดขันการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างจริงจังมากกว่าไทย
-ญี่ปุ่นใช้มาตรการทางวิศวกรรมจราจรอย่างเต็มที่ เช่น สีทางม้าลายชัดเจน มีเครื่องหมายจราจรบนถนนเตือนก่อนถึงทางม้าลาย มีป้ายจราจรที่ชัดเจน มีการทาสีให้เป็นแถบนูน ฯลฯ
-คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่เคารพกฎ กติกาสังคม
-สอบใบขับขี่ในญี่ปุ่นยากมาก โดยเฉลี่ยคนญี่ปุ่นจะใช้เวลาในการอบรมและสอบเพื่อรับใบขับขี่ประมาณ 3 เดือน เสียค่าใช้จ่ายขั้นต่ำประมาณ 100,000 บาท จึงอาจทำให้คนญี่ปุ่นขยาดกับการทำผิดกฎจราจร เพราะเมื่อทำผิดจะถูกพักการใช้ใบขับขี่หรือเพิกถอนใบขับขี่ก็ได้ ส่วนไทยจะต้องเข้ารับการอบรมที่โรงเรียนสอนขับรถของกรมการขนส่งทางบก หรือที่โรงเรียนเอกชนที่กรมฯ รับรองเป็นเวลา 15 ชั่วโมง แบ่งเป็นภาคทฤษฎี 5 ชั่วโมง และภาคปฏิบัติ 10 ชั่วโมง กรณีอบรมที่โรงเรียนของกรมฯ จะเสียค่าใช้จ่าย 650 บาท ส่วนกรณีอบรมที่โรงเรียนเอกชน จะเสียค่าใช้จ่าย 2,000-6,000 บาท

4. สรุป อุบัติเหตุจราจรในไทยเกิดจากข้อบกพร่องของผู้ขับขี่เป็นส่วนใหญ่ เป็นที่ทราบกันดีว่าผู้ขับขี่ในบ้านเราส่วนหนึ่งไม่เคารพกฎจราจร ด้วยเหตุนี้พวกเราทั้งราษฎร์และรัฐจะร่วมมือร่วมใจกันแก้ขอบกพร่องนี้ได้อย่างไร เพื่อไม่ให้ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีน ก๋วยเตี๋ยวหอยทาก “หลัวซือเฝิ่น” กับความคลั่งไคล้ระดับชาติ
จีน ค้านมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือแบบไม่ลืมหูลืมตา
รัสเซีย วีโต้มติยูเอ็นต่ออายุการติดตามคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ
รู้จัก "ข้าวยีสต์แดง" 3 ชนิด อาหารเสริมญี่ปุ่น ทำป่วยไต-ดับ
ครอบครัวดีใจ จ่ายแสนผู้พบแม่ หายจากบ้านสัตหีบขี่จยย.ไกลกว่า 200 กม.สู่จังหวัดตราด
โซเชียลแชร์ สนั่น พบคุณตา อายุ กว่า 100 ปี น่าสงสาร เก็บขยะขายประทั้งชีวิต นอนข้างทาง
แม่ใจโหด นำทารกแรกเกิดทิ้งถังขยะ ทั้งที่ทารกยังมีชีวิต โชคดีส่งเสียงร้องชาวบ้านได้ยินช่วยชีวิตไว้ได้
"กรมโยธาฯ" รุกมาตรการเด็ดขาด ยกเลิกสัญญาจ้าง งานก่อสร้างล่าช้า ประชาชนเดือดร้อน
“ศปปส.” ยื่นหนังสือถึง UN หยุดแทรกแซง ม.112 ลั่นกฎหมายไทย คนไทยจัดการกันเองได้
"ภูมิธรรม" มั่นใจดันผู้ประกอบการเพิ่มแต้มต่อการค้า เปิดประตูสู่เอเชียใต้ หลังดัน FTA ไทย – ศรีลังกา ผ่านสภาสำเร็จ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น