No data was found

พ่อเฒ่าอุดรฯ วัย 76 อดีตแรงงานซาอุฯ เผยแม้ค่าแรงและสวัสดิการดี แต่อย่าไปทำผิดกฎหมาย

กดติดตาม TOP NEWS

พ่อเฒ่าอุดรฯ วัย 76 อดีตแรงงานซาอุฯ เผยแม้ค่าแรงและสวัสดิการดีแต่อย่าไปทำผิดกฎหมาย

หลังจากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และคณะเดินทางไปยังราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการ เพื่อหารือทวิภาคีกับ Ahmad Sulaiman ALRajhi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาทางสังคม ซาอุดีอาระเบีย ด้วยเรื่องการจัดการหาแรงงานดีมีฝีมือ โดยตั้งเป้าให้ได้ 8 ล้านคน ซึ่งประเทศไทยสามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้ และซาอุดีอาระเบียประสงค์ผลักดันความร่วมมือด้านแรงงานให้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยเฉพาะแรงงานภาคบริการ โรงแรม สุขภาพ และอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่จะมีแรงงานไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย

วันที่ 27 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี เดินทางไปพบนายวิชัย จันทร์เพ็ญ อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 510 หมู่ 1 ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี อดีตแรงงานไทยที่เคยไปทำงานในตำแหน่งพนักงานขับรถที่ประเทศซาอุดีอาระเบียรวม 9 ปีพร้อมกับนำภาพสถานที่ทำงานและความเป็นอยู่สมัยที่เคยทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบียมาให้ดู พร้อมกับเล่าถึงอดีตว่า ก่อนเดินทางไปทำงานประเทศซาอุดิอาระเบีย เดิมทีตนทำงานขับรถบรรทุกไม้ระหว่างประเทศสปป.ลาวกับประเทศไทย และในช่วงปี 2528 เมื่อ สปป.ลาวเปลี่ยนแปลงการปกครอง ป่าไม้ปิด รถบรรทุกไม้ก็หยุดการขนส่ง

นายวิชัย เล่าต่อว่า ตนจึงตัดสินใจสมัครไปทำงานที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งตอนนั้นตนอายุ 35 ปี สมัครไปทำงานในตำแหน่งคนขับรถในซุปเปอร์มาเก็ต ทำงานได้ 3 ปี จากนั้นได้เปลี่ยนงานเป็นพนักงานขับรถบรรทุกน้ำมันอีก 3 ปี และครั้งสุดท้ายได้เปลี่ยนงานเป็นคนขับรถบดั้มพ์อีก 3 ปี รวมทำงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย 9 ปี ซึ่งช่วงหลังมีเหตุการณ์สู้รบกันระหว่างอิรักกับคูเวต การทำงานก็เริ่มจะไม่ค่อยดี และในปี 2537 ตนก็กลับมาอยู่ที่ประเทศไทย

ในช่วงที่ตนทำงานขับรถบรรทุกดั้มพ์ได้ค่าแรงเดือนละ 2,000 ริยาด จะมีค่าเบี้ยเลี้ยงและค่าอาหาร รวมแล้วรายได้ต่อเดือนประมาณ 3-4 หมื่นบาท ซึ่งในช่วงที่ขับรถบรรทุกน้ำมันนั้นได้เพียงเดือนละ 700 ริยาด ซึ่งตนก็ได้ทำงานกับนายจ้างที่ใจดีและไว้วางใจ จึงไม่มีปัญหาในการทำงาน ในส่วนของสวัสดิการต่างๆก็มีให้ ค่าอาหาร การรักษาพยาบาลฟรี ซึ่งจะมีโรงพยาบาล ตามเส้นทางที่ขับรถไปสามารถเข้าไปรักษาได้ตลอด ในส่วนความเป็นอยู่ของแรงงานไทย ก็จะมีทั้งเจอนายจ้างดีและไม่ดี ซึ่งจะถูกรอยแพ เพราะกิจการที่ทำขาดทุน ไม่มีเงินจ่ายค่าแรง จึงต้องรอยแพลูกจ้าง ซึ่งก็จะไปอาศัยกงสุลไทย รอจนกว่าจะได้เงินเพื่อให้ส่งกลับบ้าน ที่ตนไปนายจ้างดีไม่เคยถูกรอยแพ แต่ได้ค่าแรงน้อยก็พออยู่ได้

นายวิชัย เล่าต่อไปว่า ในส่วนเรื่องการกระทำความผิดกฎหมายนั้น ข้อห้ามคือห้ามดื่มสุรา หรือต้มเหล้า เพราะประเทศซาอุฯจะไม่มีเรื่องของสุรา ถ้าถูกจับได้ก็จะติดคุกและถูกตี ถูกทำโทษ ด้วยการใช้แส้หวายตี ซึ่งจะมีการกำหนดว่าจะถูกตีกี่ครั้ง ถ้า 100 ครั้งก็จะมาแบ่งว่าจะตีกี่ครั้ง โดยจะมีวันลงโทษคือทุกวันศุกร์ ถ้าวันศุกร์ไหนไม่พร้อมก็ละเลื่อนออกไปเป็นวันศุกร์ถัดไป ความผิดอื่นๆ ได้แก่ข่มขืน ปล้น ก็จะมีการทำโทษอย่างเดียวคือตัดคอ ในส่วนแรงงานไทยหรือประเทศอื่นที่ไปทำงานจะทำผิดบ่อยคือคดีลักทรัพย์ ถ้าร้ายแรงก็จะถูกตัดนิ้วตัดมือ ซึ่งในช่วงที่ตนไปทำงานก็จะไม่ทำผิดกฎหมายของประเทศเขาก็อยู่ได้

“เงินเดือนจะส่งกลับบ้านให้ภรรยาไว้ใช้จ่ายครอบครัว ส่งลูกเรียน 2 คนจนเป็นข้าราชการครู และแบ่งเก็บไว้ หลังจากที่ตนกลับมาอยู่ประเทศไทยก็ได้นำเงินเก็บมาลงทุนทำธุรกิจ ซื้อรถแบล็กโฮ และรถดัมพ์รับจ้างถมที่ ซึ่งถือว่าไม่ลำบากจนเกินไป เพราะ ถ้าทำงานหาเงินที่บ้านเราก็จะดิ้นรถมาก ไม่มีเงินเก็บ ยิ่งเป็นช่วงที่ลูกเรียนสูง ค่าเทอมแพง จึงตัดสินใจไปทำงานประเทศซาอุดิอาระเบีย”

นายวิชัย ได้แสดงความคิดเห็นส่วนเรื่องรัฐบาลไทยกลับไปฟื้นความสัมพันธ์กับประเทศซาอุดิอาระเบียในเรื่องแรงงานว่า ตนคิดว่าดีเพราะทุกวันนี้ประเทศไทยเริ่มลำบาก ถ้าส่งแรงงานไปทำงานที่ประเทศซาอุฯได้ ตนคิดว่าดี เพราะสวัสดิการดี ไม่ได้ทอดทิ้งแรงงาน ยิ่งถ้าอยู่ทำงานหลายปี ก็จะได้บัตรคล้ายกับประกันสังคม จะมีการหักเงินเดือนส่วนหนึ่งเอาไว้ แล้วถ้าเราไม่ได้ทำงานก็จะคืนให้หมด เข้าทำงาน 08.00 น. และจะเลิกงานเวลา 17.00 น.จะมีรถมารับไปส่ง ส่วนปัญหาอยู่ที่อากาศร้อน ถ้าหนาวก็จะหนาวมากและมีทั้งพายุฝน แรงงานไทยไปทำก่อสร้างจะมีความอดทนกับอากาศร้อน และทำงานหนักได้หรือไม่ ทำงาน 1 สัปดาห์ จะมีวันหยุด 1 วัน คือวันศุกร์ จะไม่มีหยุดวันเสาร์และวันอาทิตย์เหมือนประเทศไทย ถ้ามีสัญญาทำงานหลายปี เมื่อทำงานครบ 1 ปี จะได้กลับมาพักผ่อนเมืองไทย 1 เดือน แล้วกลับไปทำงาน

ถ้าประเทศซาอุดีอาระเบียเปิดให้แรงงานไปทำงาน ตนก็อยากไปแต่ด้วยร่างกายและอายุที่มาก ก็คงจะไม่ได้ไป แต่ในส่วนของคนหนุ่มๆ ตนคิดว่าควรจะไป แต่ขอว่าอย่าไปทำผิดกฎหมาย เพราะกฎหมายของประเทศซาอุฯ แรง จับติดคุกและตีด้วย ซึ่งจะทำให้ให้เสียโอกาสในการไปหาเงิน”

 

ภาพ/ข่าว กฤษดา จันทร์ดวง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.อุดรธานี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อนุทิน" เปิดพื้นที่ตาบอด สู่ทำเลทอง พัฒนาเมืองให้เติบโตด้วยโครงการจัดรูปที่ดินฯเมืองชัยภูมิ
“ชัยเกษม” มั่นใจ “ดิจิทัลวอลเล็ต” เดินหน้าต่อได้ ลั่นหากมีอุปสรรคก็แก้กันไป
"ซุปเปอร์นายกฯ" เคาะโผปรับครม.เศรษฐา 2 ปิดจ็อบนักวิ่งแย่งเก้าอี้ "รมต."
เพจดังซัด "สส.จิรัฏฐ์" หายเงียบ หลังตร.ออกหมายเรียกครั้งที่สอง แฉซ้ำโดดประชุมสภาฯเก่ง
"สุรเชษฐ์" แขวะคมนาคม สร้างข่าวลดค่าทางด่วน เบื้องหลังแลกขยายสัมปทานBEM
"รมว.ยุติธรรม" เร่งแก้ปัญหายาเสพติดชายแดนใต้ ภาคประชาชน จำนวน 60 ตำบล 120 คน
เปิดใจครั้งแรก "สาวช้ำรัก" เจ้าของไวรัลกุสุมา สันป่าเหียง ถูกแฟนนอกใจ เจ้าตัวย้ำจำเป็นบทเรียนชีวิต เตรียมมูฟออน
วีซ่าฟรีหนุนคนไทยเที่ยวจีนคึกคัก
อินเดีย ร้อนจัด! ผู้ประกาศข่าวเป็นลมขณะออกอากาศ
ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น เร่งติดตาม น.ช.หนีศาล ตั้งรางวัลนำจับ 50,000 บาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น