กาฬสินธุ์ โรคโควิด-ลัมปี สกินระบาดร้านลาบก้อยของแซบอีสานซบเซา

กระทบสองเด้งสถานการณ์โรคโควิด-19และ“โรคฝีดาษวัว” หรือ “ลัมปี สกิน” ระบาดในหลายพื้นที่ของจังหวัดกาฬสินธุ์ นอกจากส่งผลกระทบกับเกษตรกรแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการขายเนื้อวัว และร้านขายอาหาร ลาบ ก้อย เมนูอีสานที่ทำจากเนื้อวัว เงียบเหงา ซบเซาเป็นประวัติการณ์ 

 

เมื่อวานนี้(27 พฤษภาคม 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการติดตามสถานการณ์โรคโควิด-19 หลายพื้นที่ของประเทศไทยยังคงพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังพบการเกิดโรคระบาดในวัว คือโรคลัมปี สกิน หรือชาวบ้านบางคนเรียกว่าโรคฝีดาษวัว พบว่ามีวัวของเกษตรกรเจ็บป่วยด้วยโรคดังกล่าว กระจายอยู่ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ หลายอำเภอ ซึ่งการแพร่ระบาดของ 2 โรคนี้นอกจากจะส่งผลกระทบกับการดำรงชีวิตของประชาชน และเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์แล้ว ยังส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการขายเนื้อวัว และร้านขายอาหาร ลาบ ก้อย เมนูอีสานที่ทำจากเนื้อวัว ซึ่งเงียบเหงา และซบเซาเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ข้อมูลจากสำนักงานปศุสัตว์ จ.กาฬสินธุ์ รายงานสถานการณ์ว่า ว่าพบใน  9 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองกาฬสินธุ์ 318 ตัว เสียชีวิต 17 ตัว, อ.ยางตลาด 39 ตัว, อ.กุฉินารายณ์ 34 ตัว เสียชีวิต 3 ตัว, อ.สามชัย 11 ตัว, อ.หนองกุงศรี 4 ตัว,  อ.กมลาไสย 3 ตัว, อ.ร่องคำ 3 ตัว, อ.เขาวง 2 ตัว, อ.ท่าคันโท 1 ตัว รวมพบวัวป่วยจำนวน 415 ตัว  และเสียชีวิต 20 ตัว ขณะที่ อ.ห้วยผึ้ง อ.ห้วยเม็ก อ.นามน อ.สมเด็จ อ.นาคู  อ.ฆ้องชัย อ.ดอนจาน อ.คำม่วง และ อ.สหัสขันธ์ ยังไม่มีรายงานพบวัวป่วยด้วยโรคลัมปี สกิน แต่อย่างใด

นางหนูรัก ร่องวารี อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 4 บ้านหนองห้าง ต.โนนนาจาน อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ลูกวัวของตนมีอาการป่วยด้วยโรคลัมปี สกินมาตั้งแต่อายุได้ 1 เดือนเศษ ทีแรกตกใจมาก เนื่องจากเกิดตุ่มพองและบาดแผลตามผิวหนังของลูกวัว  ซึ่งเป็นโรคอุบัติใหม่ที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน จึงไม่รู้วิธีการรักษา จากนั้นได้ไปแจ้งผู้นำชุมชนและอาสาปศุสัตว์ ซึ่งได้รับคำแนะนำให้รักษาตามอาการ โดยไปนำเปลือกต้นประดู่มาต้มน้ำร้อน จากนั้นนำน้ำต้มเปลือกประดู่มาชโลมตามตัวลูกวัว ทั้งนี้เป็นการรักษาโรคผิวหนังที่เกิดกับสัตว์เลี้ยงตามภูมิปัญญา เพื่อป้องกันแมลงและช่วยบรรเทาอาการ  แต่อาการยังไม่ดีขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ยังรอความช่วยเหลือ ทั้งยา หรือวัคซีน รวมทั้งคำแนะนำวิธีบำบัดรักษาที่ถูกต้องจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนและเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวก็มีความสงสัยอยู่มาก ที่เกิดโรคระบาดในวัวเป็นจำนวนมาก และยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจหรือให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง

นางศิริพร เงาแสง อายุ 48 ปี แม่ค้าขายอาหารพื้นบ้านอีสาน บริเวณปากทางเข้าเขื่อนลำปาว ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนเปิดร้านขายอาหารประเภทลาบ ก้อย ต้ม ซึ่งเป็นเมนูเด็ดยอดฮิตของชาวอีสานโดยการนำเนื้อวัวสดมาเป็นเมนูหลักประจำร้าน เปิดบริการมาเกือบ 30 ปี ซึ่งจะขายดีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการขายเริ่มลดลง เมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในช่วงปีที่ผ่านมา ลูกค้าไม่ค่อยเข้าร้าน แต่จะเป็นในส่วนของการซื้อห่อไปรับประทานที่บ้านมากกว่า ทำให้เนื้อสดเหลือ ขายไม่หมด ต้องนำมาแปรรูปเป็นเนื้อแดดเดียว และส้มวัว แต่ก็พอขายได้เรื่อยๆ 

 

นางศิริพร กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาจากที่เคยรับเนื้อวัวสดจากโรงฆ่าสัตว์เข้าร้านวันละ 50-80 ก.ก. พอเกิดสถานการณ์โควิดก็ลดลงมาเหลือวันละ 40-50 ก.ก. ซึ่งก็พอที่จะประคับประคองมาเรื่อยๆ แต่สัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาเจอกับสถานการณ์อีก 1 โรค คือโรคลัมปี สกิน หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าโรคฝีดาษวัว ยิ่งทำให้บรรยากาศการค้าขายลาบ ก้อย เงียบเหงาไปเลย จากการสอบถามร้านค้า และผู้จำหน่ายอาหารประเภทเดียวกัน ทั้งเขียงเนื้อในตลาดสดและผู้ค้ารายย่อยต่างๆ ต่างประสบปัญหาเหมือนกันทั้งหมด คืออาหารประเภทเนื้อวัวขายไม่ได้เลย สำหรับตนยอดขายตกต่ำกว่า 30 % ทีเดียว 

 

นางศิริพร กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากจะฝากไปถึงลูกค้า ผู้นิยมเปิบเมนูลาบก้อยของแซบอีสานว่า วัวทุกตัวที่นำไปชำแหละที่โรงฆ่าสัตว์ หรือเนื้อวัวทุกตัว ได้รับการรับรองมาตรฐานผ่านการรับรองความปอดภัยจากปศุสัตว์ทุกตัว จึงเชื่อมั่นได้ว่าจะไม่นำวัวที่มีอาการเจ็บป่วย หรือเป็นโรคใดๆ ไปเชือดที่โรงฆ่าสัตว์แล้วนำมาจำหน่ายเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม  ทราบว่าโรคลัมปี สกิน เกิดจากเชื้อไวรัส ไม่ติดต่อมาสู่คน ขอให้ผู้บริโภคมั่นใจในความปลอดภัย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กองทัพภาคที่ 1" อัปเดตสถานการณ์ชายแดน เผย เข้ายึดและควบคุมแนวรบในพื้นที่ "บ้านหนองจาน" เรียบร้อยแล้ว
รวมใจปลูกป่า ถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระพันปีหลวง
เริ่มแล้ว..ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่โคราช ลงพื้นที่หาเสียงในวัด เชื่อมั่นพรรคเพื่อไทยได้ที่นั่ง ส.ส.ยกจังหวัด หลังพรรคชาติพัฒนาย้ายซบ
อบจ.พิษณุโลก ร่วมกิจกรรม Kick Off วังทองขับขี่ปลอดภัย เทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2569 "ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย"
จังหวัดมุกดาหารจัดกิจกรรมเนื่องในวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ประจำปี พ.ศ. 2568
การจราจรสายเหนือคึกคัก ปชช.ทยอยเดินทางกลับบ้านล่วงหน้า ร่วมฉลองปีใหม่ 69

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​