จากกรณีที่มีขบวนการท้าวแชร์ออนไลน์ “คุณนายอลิศ 168” ภรรยาของนายตำรวจใหญ่ หลอกลวงให้เล่นแชร์ผ่านระบบออนไลน์ได้ดอกเบี้ยสูง จนมีประชาชนทั้งในและคนไทยในต่างประเทศตกเป็นเหยื่อจำนวนมาก รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 40 ล้าน ก่อนมีการเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.จริญ ขาวเอี่ยม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อช่วงกลางปี 63 โดยพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย 1. นางอาลิศราพร สุนทรสนิท หรือคุณนายอลิศ 168 เท้าแชร์ 2. นางชไมพร วรรณวัลย์ และ 3. นางสาวศิริกาญจน์ แซ่ข่าง (เอี้ยวสุวรรณ) นั้น ซึ่งเมื่อวันที่ 17 ก.พ.2564 ตำรวจส่งตัวผู้ต้องให้อัยการดำเนินการพิจารณาสั่งฟ้องศาลซึ่งคดีนี้เป็นคดีฉ้อโกงประชาชนยอมความไม่ได้ ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2565 ทางอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช พิจารณาสำนวนและมีความเห็นสั่งฟ้องโดยแยกเป็น 2 สำนวน สำนวนแรกผู้ต้องหา 2 คน ประกอบด้วย 1. นางอาลิศราพร สุนทรสนิท หรือคุณนายอลิศ 168 เท้าแชร์ ภรรยาของนายตำรวจใหญ่ใน บก.น. 2. นางชไมพร วรรณวัลย์ ส่งฟ้องศาลในวันนี้ (24 ม.ค.) ตามหมายเลขคดีดำที่ 41/65 ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในขณะที่บรรดาผู้เสียหายที่ทราบข่าวทั้งที่เดินทางมาจากต่างประเทศและในประเทศหลายคนเดินทางติดตามความคืบหน้าและเข้าขอบคุณอัยการที่มีความเห็นสั่งงฟ้องผู้ต้องหา ส่วนอีกสำนวนคดดีหนึ่งมีผู้ต้องหา 1 คนคือนางสาวศิริกาญจน์ แซ่ข่าง (เอี้ยวสุวรรณ) อัยการมีความเห็นสั่งห้องและนัดผู้ต้องหาส่งฟ้องศาลในวันที่ 28 ก.พ. 2565 นางสาวพิญดาณัฏฐ์ รัตนพันธ์ อายุ 36 ปี หนึ่งในผู้เสียหายที่เดินทางมาติดตามการส่งผู้ต้องหาห้องศาลของอัยการ กล่าวว่า ตนอาชีพค้าขายและเป็นเพื่อนสมัยเรียนกับคุณนายอเลิศ 168 ซึ่งตนและผู้เสียหายทั้งหมดเฝ้ารอวันนี้มาตลอดระยะเวลาอย่างใจจดใจจ่อ ตนถูกหลอกสูญเสียเงินในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมาเมื่อทวงถามเงินที่สูญเสียไปจากการถูกหลอกลวง คุณนายอลิศ 168 จะด่าทอตนและผู้เสียหายอย่างหยาบคายไม่ยำเกรงกฎหมาย และยังประกาศท้าว่าหากอยากได้เงินคืนให้ฟ้องเอาเลย พวกมึงโง่เอง ในบางครั้งก็บอกว่าสาปแช่งให้ตนและผู้เสียหายให้เดินถูกดรถชนตายไปเลย เขาไม่สนใจใยดีต่อความรู้สึกผู้ที่สูญเสียแม้แต่น้อย จนเมื่อ พ.ต.ท. จริญ ขาวเอี่ยม รอง ผกก.สส.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช รวบรวมสำนวนและมีความเห็นสั่งฟ้องทั้งสองสำนวนพร้อมส่งอัยการเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2564 มาจนถึงวันนี้วันที่ตนและผู้เสียหายรอคอยนาน 11 เดือน และอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช มีความเห็นสั่งฟ้องสำนวนแรก คือ คดีอาญาที่ 2793/2563 โดยมีนางอาลิศราพร สุนทรสนิท จำเลยที่ 1 นายวงแชร์ หรือ “คุณนายอลิศ 168” และนางชไมพร วรรณวัลย์ เป็นเลขาคุณนายอลิศ เป็นจำเลยที่ 2 ฐานความผิดตาม พ.ร.ก. เงินกู้ยืมที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และพรบ คอมพิวเตอร์ ส่วนสำนวนที่ 2 คดีอาญาที่ 2792/2563 มีผู้ต้องหาอีก 1 คน นางศิริกาญจน์ แซ่ข่าง หรือ เอี้ยวสุวรรณ เป็นนายทุนเงินกู้ ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครศรีธรรมราช อยู่ในช่วงระหว่างพิจารณาพนักงานอัยการทราบว่าอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องและนัดส่งฟ้องศาลในวันที่ 28 ก.พ. 2564 ที่จะถึงนี้ “สำหรับตนถูกหลอกลวงให้มาเล่นแชร์ ต้องสูญเสียเงินเก็บที่เตรียมไว้สำหรับคลอดลูก คนที่ 4 จำนวนเงิน 262,200 บาท ชีวิตเหมือนล้มทั้งยืนเมื่อทราบว่าตนเองถูกเพื่อนสมัยเรียน หลอกจนหมดตัวเงินที่เตรียมจะคลอดและเลี้ยงดูลูกก็สูญสิ้นไปในพริบตา ตอนแรกคิดอยากจะฆ่าตัวตายแต่สงสารลูก ๆ ทั้งที่กำลังจะเกิดลืมตาดูโลกอีก 1 คนรวมทั้งลูก ๆ อีก 3 คน จึงต้องกัดฟันลุกขึ้นต่อสู้ชีวิตอีกครั้งและมั่นในว่าในโลกใบนี้ยังมีความยุติธรรมหลงเหลืออยู่ โดยหันมาประกอบอาชีพทำวุ้นขายอยู่ที่บ้านในอำเภอทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ชื่อแบรนด์“บ้านวุ้นแม่ลูก 4”จนมาถึงปัจจุบัน โดยตนจะนั่งขายด้วยตนเองหารายได้เลี้ยงครอบครัวหลังจากถูกคุณนายอลิศ 168 หลอกลวงโกงเงินก้อนสุดท้ายของชีวิตไป”
นางสาวพิญดาณัฏฐ์ รัตนพันธ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อทราบข่าวว่าทางสำนักงานอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช มีคำสั่งส่งตัวผู้ต้องหาฟ้องศาล เข้าสู่กระบวนการพิจารณาชั้นศาล นับเป็นปลาบปลื้มใจ ดีใจเป็นที่สุด ตนในฐานะตัวแทนผู้เสียหายทั้งหมด ขอขอบพระคุณ ท่านอัยการจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอบคุณ พ.ต.ท.จริญ ขาวเอี่ยม พนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนคดี และพนักงานสอบสวนทุกท่าน รวมทั้ง พ.ต.อ. มณเทียน เบ้าทอง รอง ผบก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.เมืองในขณะนั้น ตลอดถึง พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ในขณะนี้ด้วย เพราะถึงแม้ตนจะเป็นแม่ค้าวุ้นจน ๆ คนหนึ่ง แต่ก็ได้รับการเอาใจใส่ดูแลจากตำรวจ อัยการ อย่างดีเยี่ยมจนมาถึงวันนี้ตนมั่นใจว่าความยุติธรรมนั้นมีอยู่จริงถึงแม้จะล่าช้า ต้องรอคอยเป็นเวลานาน แต่ตนก็ไม่เคยย่อท้อและสิ้นความหวัง และหวังว่าจะตนได้รับการเยียวยาจากผู้ต้องหาหรือจำเลยจากคำพิพากษาของศาล อย่างน้อยจะได้นำเงินที่ถูกหลอกลวง ฉ้อโกงไปมามาเลี้ยงดูบุตรทั้ง 4 คนต่อไป นางสาวพิญดาณัฏฐ์ กล่าว ต่อมาในเย็นวันเดียวกันนี้ทางทนายของนางอาลิศราพร สุนทรสนิท หรือคุณนายอลิศ 168 จำเลยที่ 1 นางชไมพร วรรณวัลย์ จำเลยที่ 2 ได้ใช้เงินสดยื่นขอประกันตัว ศาลพิจารณิอนุมัติให้ประกันตัวคนละ 100,000 บาท ก่อนพากันเดินทางออกจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชไปอย่างรวดเร็ว.
ไพฑูรย์ อินทศิลา/ จ.นครศรีธรรมราช