กลุ่มผู้รณรงค์ต่อต้านวัคซีนในสหรัฐ เดินขบวนบริเวณสวนสาธารณะใจกลางกรุงวอชิงตัน ดีซีและอนุสาวรีย์ประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น ผู้ประท้วงส่วนใหญ่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย ท่ามกลางคำสั่งรัฐบาลเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 จนกลายเป็นประเด็นทางการเมืองที่ยังถกเถียงกันจนถึงขณะนี้
โรเจอร์ มิลเลอร์ ผู้ประท้วงที่ไม่ยอมรับวัคซีนจากนิวยอร์กกล่าวว่า ตนไม่ได้ต่อต้านวัคซีนที่ได้รับการศึกษา แต่สิ่งที่ไม่ได้ผลและยังไม่ได้มีการศึกษาอย่างดี ยังไม่ควรถูกฉีดเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณยังมีสุขภาพที่ดี
มิเชล นักกายภาพบำบัดวัย 61 ปี จากรัฐเวอร์จิเนีย ที่อยู่ใกล้เคียง วอชิงตัน ดีซี กล่าวว่า เธอไม่ได้ต่อต้านการฉีดวัคซีน แต่เธอต่อต้านชนิดของวัคซีน โดยมิเชลมองว่าวัคซีน mRNA ของทั้งไฟเซอร์และโมเดอร์นานั้น มีการรีบเร่งในการทดลองที่มากเกินไป
ด้านครอบครัว ดักเฮอตี้ ที่บินมาจากแคลิฟอร์เนียก็กล่าวว่า มาร่วมประท้วงเพราะรู้สึกไม่สบายใจที่ครอบครัวจะต้องรับวัคซีน เพราะวัคซีนไม่ผ่านการทดลองตามกฎระเบียบปกติ และคิดว่ายังมีหลักฐานอีกมากที่ไม่ได้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะ และประชาชนไม่มีทางเลือกในการตัดสินใจเลยว่า ความเสี่ยงมีมากกว่าผลประโยชน์หรือไม่
ส่วน จอน โคเพล ชายเกษียณวัย 68 ปีกล่าวว่า ความเป็นจริงก็คือ มีหลายล้านคนถูกฆ่าตายจากวัคซีนโควิด-19 นี่คือการวางแผนไว้นานแล้วเพื่อที่จะลดจำนวนประชากรโลก
จนถึงขณะนี้ สหรัฐมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 70 ล้านคน และเสียชีวิตสะสมแล้วกว่า 865,000 คน ในส่วนการฉีดวัคซีนนั้น มีประชากรวัยผู้ใหญ่ที่ยังไม่ยอมรับวัคซีนอยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์