ศบค.ลดวันกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเหลือ 7 วัน! รีเทิร์น “Test&Go”

ศบค.ลดวันกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเหลือ 7 วัน! รีเทิร์น "Test&Go"

วันที่ 20 ม.ค. 65 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงผลการประชุมศบค.ชุดใหญ่ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธาน ว่า ศบค.เห็นชอบปรับรูปแบบ และลดวันกักตัวสำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงกับผู้ติดเชื้อจากเดิม 10 วัน เป็นกักตัว 7 วันสังเกตอาการอีก 3 วัน ตรวจหาเชื้อด้วย ATK โดยการตรวจสอบอาการป่วยของตนเองทุกวัน ตรวจ ATK ครั้งที่ 1 ในวันที่ 5 หรือวันที่ 6 หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย และสังเกตอาการอีก 3 วัน สามารถออกนอกพื้นที่ได้ ไปทำงานได้ แต่ให้เลี่ยงการเดินทางด้วยรถสาธารณะ หรือเข้าพื้นที่แออัด ป้องกันตัวเองสูงสุด และตรวจหาเชื้อด้วย ATK ครั้งที่ 2 ในวันที่ 10 หลังจากสัมผัสผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับมาตรการป้องกันควบคุม โควิด-19 ในส่วนการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ศบค.เห็นชอบการปรับมาตรการสำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ ประกอบด้วย 1.ระบบไม่กักตัว (Test and Go) เริ่ม 1 ก.พ.2565 อนุญาตให้เข้ามาได้ทุกประเทศ ปรับการตรวจหาเชื้อโดยวิธี RT-PCR 2 ครั้ง มีหลักฐานการจองโรงแรมที่พักในวันแรกและในวันที่ 5 โดยเป็นโรงแรมที่มีโรงพยาบาลคู่สัญญา (SHA++AQ OQ หรือ AHQ) รวมถึงมีหลักฐานชำระเงินการตรวจหาเชื้อจำนวน 2 ครั้ง จัดระบบการตรวจสอบและกำกับการเข้าที่พักและตรวจหาเชื้อให้ครบสองทางโดยต้องรออยู่ในห้องพัก หรือสถานที่ที่กำหนดจนกว่าจะได้รับผลการตรวจ และกำหนดระบบประกันให้ชัดเจนกรณีประกันไม่ครอบคลุมผู้เดินทางจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า 2.ระบบการเปิดรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรในรูปแบบพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว ( Sandbox ) เพิ่มเติม เปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป จังหวัดชลบุรี (อำเภอบางละมุง เมืองพัทยาอำเภอศรีราชา อำเภอเกาะสีชัง และอำเภอสัตหีบเฉพาะตำบลนาจอมเทียน ตำบลบางเสร่) จังหวัดตราด (เกาะช้าง) และการเปิดพื้นที่ให้เดินทางเชื่อมโยงในกลุ่มพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ (เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า) ในช่วง 7 วันที่ต้องพำนักในพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว

โดยยังคงต้องเคร่งครัดการมีหลักฐานจองที่พัก 7 วันในโรงแรมที่กําหนด และการตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง ใน DAY 0-1 และ DAY 5-6 รวมถึงมีระบบการตรวจสอบ และกํากับการเข้า-ออกโรงแรมทุกวัน เป็นเวลา 7 วันในพื้นที่ นําร่องการท่องเที่ยว หรือในกลุ่มจังหวัด โดยไม่เกิน 3 โรงแรม นอกจากนี้ ปรับมาตรการในการติดตามตัวเพื่อให้สามารถดําเนินการและติดตามได้ โดยให้โรงแรมเป็นผู้ตรวจสอบการเข้าพักทุกวัน เป็นระยะเวลา 7 วัน และมอบหมายให้เป็นหน้าที่ของ SHA Manager หรือ COVID Manager ทั้งนี้ ผู้เดินทางสามารถเดินทางไป-กลับในจังหวัดใกล้เคียงได้

“ผอ.ศบค.เน้นย้ำว่าต้องมีระบบตรวจสอบย้อนกลับให้ได้ในนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามา หลายประเทศและยกเลิกมาตรการดังกล่าวไปแล้วพอสมควรถึงว่าประเทศไทยถือว่าอยู่ในระดับกลาง เพื่อพยายามให้มีการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจเพราะคนไทย นักเรียน นักศึกษายังคงต้องการกลับมายังประเทศไทย ซึ่งถือว่าระบบดังกล่าวยังมีความสำคัญ เนื่องจากถือเป็นแหล่งรายได้ทั้งตลาดในประเทศประมาณ 137,712 ล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 26,065 ล้านบาท” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

วันแรกสมัคร สส.พัทลุงคึกคัก กองเชียร์แน่น ภาคพลเมืองรณรงค์สุจริต
"บิ๊กเล็ก" แจง 3 เงื่อนไขหยุดยิง เปิดโอกาสใช้สันติวิธีผ่านเวทีการทูต ปืนใหญ่ไทยทิ้งทวน ถล่มกาสิโน "อุดรมีชัย" หนักหน่วง
“เดชอิศม์” ชี้ครอบครัวขาวทอง ยึดประชาธิปไตย แม้ลูกต่างพรรค
กกต.ภูเก็ตเปิดรับสมัคร สส. วันแรก
สมัคร สส.ชลบุรี วันแรกคึกคัก พรรคใหญ่ส่งครบทุกเขต กองเชียร์แน่น
เบตงคึกคักรับปีใหม่ นักท่องเที่ยวไทย–มาเลย์ แห่เช็คอิน Betong Night Light 2026

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​