วันนี้ ( 14 ม.ค.65 ) มีรายงานว่า นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นำผู้เสียหาย 12 เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อให้ดำเนินคดีกับเจ้าของสโมสรฟุตบอลชื่อดัง จ.กาฬสินธุ์ และภรรยา หลังถูกหลอกลวงให้ลงทุนซื้อลอตเตอรี่ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 12 ล้านบาท โดยหนึ่งในผู้เสียหายเคยเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับประธานสโมสรฟุตบอลรายดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ แต่วันนี้มาแจ้งเพิ่ม เพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับภรรยาของประธานสโมสรฟุตบอล ซึ่งโพสต์ชักชวนทางเฟซบุ๊กให้ลงทุนซื้อลอตเตอรี่ ทำให้สูญเงินไปกว่า 5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายที่ยังไม่กล้าเข้าแจ้งความอีกจำนวนหนึ่ง เนื่องจากมีการพูดคุยกับประธานสโมสรฟุตบอล ซึ่งมีข้อแม้ว่าหากเข้าแจ้งความจะไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว
โดย นายษิทรา เปิดเผยว่า วันนี้พาผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อให้ตำรวจดำเนินคดีกับประธานสโมสรฟุตบอลชื่อดังใน จ.กาฬสินธุ์ พร้อมภรรยา และผู้ร่วมขบวนการ คือ คนรับโอนเงินอีก 7 คน ในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หลังโพสต์เชิญชวนให้ผู้เสียหายลงทุนซื้อ-ขายลอตเตอรี่ แต่เมื่อผู้เสียหายจ่ายเงินไปแล้วปรากฏว่าไม่มีลอตเตอรี่ส่งมอบให้ นอกจากนี้ยังมีผู้หญิงรายหนึ่งใน จ.อุดรธานี ถูกโกงไปกว่า 40 ล้านบาท และยังมีกลุ่มไลน์ซึ่งมีผู้เสียหายประมาณ 300 คน รวมมูลค่าความเสียหายเกือบพันล้าน โดยคดีนี้ไม่ใช่แค่การฉ้อโกงธรรมดา เพราะภรรยาของประธานสโมสรฟุตบอลเชิญชวนทางเฟซบุ๊กจึงเกิดความน่าเชื่อถือ ส่วนผู้เสียหายที่ กทม.ซึ่งถูกประธานสโมสรฟุตบอลรายดังกล่าวเบี้ยวส่งลอตเตอรี่ เตรียมเข้าแจ้งความเพิ่มเช่นเดียวกัน
สำหรับพฤติกรรมของคู่กรณี มีการโพสต์เชิญชวนให้เห็นว่าตนเองมีโควต้าลอตเตอรี่ราคาถูกเพียงใบ 85 บาท พอมีคนนำเงินมาลงทุนรอบแรก ก็จะปล่อยเงินให้ไปก่อน โดยจะแบ่งผลกำไรให้ในหลักแสน เมื่อผู้เสียหายเห็นว่าได้เงินง่ายก็จะลงทุนเพิ่มอีก คล้ายกรณีแชร์ลูกโซ่ ซึ่งเทคนิค คือ นำล็อตเตอรี่มาโชว์เยอะๆ แล้วบอกว่าซื้อได้ในราคา 70-85 บาท โดยคนลงทุนไม่ต้องจับต้องลอตเตอรี่ก็สามารถรับแบ่งเงินปันผลได้เลย พอมีคนหลงเชื่อพากันมาลงทุนกันเป็นจำนวนมาก จึงเกิดการเบี้ยวส่งลอตเตอรี่ สุดท้ายหลบหนี และไม่สามารถติดต่อได้
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ในส่วนของผู้เสียหายทั้งหมดที่เดินทางเข้าแจ้งความในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรับเรื่องเอาไว้แล้ว และจะดำเนินการสอบสวนก่อนติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ โดยหากพบว่ากระทำความผิดจริงก็จะแจ้งข้อกล่าวหา ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีไปตามกฎหมาย
