“ธนกร” สวนเพื่อไทย อย่าขู่ พร้อมแจงปมหมูในสภา

โฆษกรัฐบาลสวนเพื่อไทยอย่าขู่ รัฐบาลพร้อมชี้แจงในสภา ย้ำไทยยกระดับป้องกัน ASF เป็นวาระแห่งชาติปี 62 สามารถชะลอผลกระทบโรคระบาดในสัตว์ หากปกปิดข้อมูล เชื่อว่าผู้บริโภคและอุตสาหกรรมหมูของไทยจะเสียหายมากกว่านี้

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์กรณีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกา (ASF) ในสุกรและปัญหาราคาสุกรแพงว่า รัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมีมาตรการติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังการระบาดของโรค ASF ในสุกรทันทีที่ได้รับรายงานครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียที่ประเทศจีน เมื่อปี 2561 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งการให้ดำเนินการป้องกันและควบคุมการเผยแพร่ระบาดโรคในสัตว์ทันที และยกระดับให้เป็นวาระแห่งชาติตั้งแต่ปี 2562 จนถึงปัจจุบัน รวมวงเงินที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติแล้ว 5 ครั้งกว่า 1,547 ล้านบาท เพื่อระดมความร่วมมือทุกภาคส่วนในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโรค AFS ในสุกร นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังสนับสนุนภาครัฐและสถาบันการศึกษา ที่จะร่วมมือกันพัฒนาวัคซีนเพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ซึ่งหากสำเร็จไทยจะเป็นประเทศแรกๆ ของโลกในการผลิตวัคซีนรับมือโรคอหิวาต์แอฟริกาด้วย

นายธนกร กล่าวอีกว่า คณะทำงานด้านวิชาการในการป้องกัน ควบคุมและกำจัดโรค ASF ในสุกร จัดทำแผนควบคุมโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Contingency Plan)และแนวเวชปฏิบัติของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Clinical Practice Guideline) มีการจัดตั้ง War Room ทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อขับเคลื่อนมาตรการ เตรียมความพร้อมทางห้องปฏิบัติการในการตรวจวินิจฉัย และซ้อมแผนรับมือโรคฯ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมนำข้อมูลการระบาดที่ประเทศจีนและเวียดนามมาทำแผนที่ความเสี่ยงด้วยวิธีการ Spatial Multi-criteria Decision Analysis (S-MCDA) เพื่อใช้ระบุพื้นที่เสี่ยงในการดำเนินการเฝ้าระวังทางอาการทางคลินิก รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ X-Ray เคาะประตูบ้าน เฝ้าระวังทางอาการ ขึ้นทะเบียนและประเมินความเสี่ยงด้วยแอพลิเคชั่น อี-สมาร์ทพลัส พร้อมให้คำแนะนำความรู้เรื่องโรคและการป้องกัน ขณะเดียวกัน ก็สร้างความรับรู้และความเข้าใจให้แก่เกษตรกร ทราบว่าโรค ASF ในสุกรเป็นโรคระบาดร้ายแรงในสุกร ทำให้มีอัตราการตายสูง แต่ไม่ติดต่อสู่คน เนื้อสุกรสามารถบริโภคได้ ทั้งนี้ ภาคเอกชนเข้าใจสถานการณ์ที่ไทยได้มีการเปิดเผย การพบโรค ASF ในไทยเป็นอย่างดี โดยรองประธานหอการค้าไทยมั่นใจว่า จะไม่กระทบกับความเชื่อมั่นและภาพลักษณ์ของสินค้าไทย รวมทั้งการซื้อ-ขาย ส่งออก หรือ การบริโภคเนื้อหมู เพราะทราบดีว่าสามารถพบและมีโอกาสในการเกิดโรคระบาดในสัตว์ ซึ่งประเทศไทยเองยังมีพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์บังคับ พ.ศ. 2558 ที่มีการกำหนดมาตรการเยียวยาเกษตรกร การชดเชย รวมถึงวิธีปฏิบัติทำลายซากสัตว์ที่ชัดเจน

“นายกรัฐมนตรีใส่ใจตั้งแต่ต้น ที่ผ่านมาได้กำชับหน่วยงานเฝ้าระวังและควบคุมการลักลอบนำสัตว์ข้ามพรมแดน การเคลื่อนย้ายสัตว์ข้ามพื้นที่ รวมทั้งการเยียวยาให้แก่เจ้าของฟาร์มรายย่อย จากมาตรการทำลายสัตว์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโรค ทำให้ไทยสามารถป้องกันความรุนแรงโรค ASF ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านหลายประเทศมีการระบาดของโรคไปแล้ว โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสุขภาพของพี่น้องประชาชน และรักษาผู้ประกอบการอุตสาหกรรมหมูซึ่งที่เป็นเนื้อสัตว์ส่งออกเป็นอันดับ 2 ของไทย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยไม่จำเป็นต้องออกมาขู่ หากจะนำเรื่องเข้าหารือในสภาฯ ก็สามารถดำเนินการได้ รัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพร้อมชี้แจงในสภาฯ อยู่แล้ว ยืนยันว่าไม่จำเป็นต้องปกปิดข้อมูลใดๆ แต่ต้องไม่ใช่ว่า ฝ่ายค้านสร้างความสับสนไว้ แต่พอได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากรัฐบาลแล้ว กลับไม่ไปอธิบายให้ประชาชนเข้าใจในข้อมูลผิดๆ ที่ตัวเองพูดไว้ แบบนั้นถือว่าไม่รับผิดชอบการกระทำของตัวเอง”นายธนกร กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รวบคาบ้าน จับทหาร BHQ แฝงตัวในบุรีรัมย์ คาดสอดแนมความเคลื่อนไหวทหารไทย ตร.เค้นสอบเข้ม
ด่วน !"กสทช."นำตร.บุกบริษัท กลางเมืองสมุทรปราการ ตรวจยึดโดรนอื้อ รถโมบายสอบเข้มโยงป่วน
มทภ.2 ส่งมอบเงิน 4 ล้านบาท ให้ 4 ผู้ว่าราชการจังหวัด ติดชายแดนไทย-กัมพูชา นำช่วยเหลือประชาชนเดือดร้อน
อุตุฯเตือน 26 จังหวัด เจอฝนฟ้าคะนอง เหนือ-อีสาน อ่วม กทม.ลมกระโชกแรง ร้อนสุด 36 องศา
ผู้ว่าฯชลบุรี ลงพื้นที่เกาะล้าน มอบสติ๊กเกอร์ตามโครงการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะ
พ่อเมืองชลฯ นำทีมเหล่ากาชาด ลงพื้นที่บางละมุง มอบถุงยังชีพ รถวีลแชร์ และ ทุนการศึกษาช่วยเหลือประชาชน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​