นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังรับมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ เครื่องไฮโฟรว์ เพื่อใช้ในการรักษาพยาบาลว่า เมื่อเช้าที่ผ่านมาตนเองพร้อมด้วย นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้มีการหารือกับตัวแทนบริษัท แอสตร้าเซเนกา เพื่อติดตามการส่งมอบวัคซีนแอสตร้าเซเนกาให้ทันกำหนดเดือนมิถุนายน โดยย้ำให้มีการติดตามกับบริษัทแอสตร้าฯ อย่างต่อเนื่อง และจะหารือเรื่อยๆ
ทั้งนี้ การจัดส่งวัคซีนเป็นหน้าที่ของบริษัท ผู้ผลิต พร้อมเรียกร้องให้ตัวแทนบริษัทออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นส่งวัคซีนแอสตร้าฯ ได้ทันตามกำหนดและสามารถฉีดในวันที่ 7 มิ.ย. แน่ เนื่องจากในสัญญาการส่งมอบระบุชัด ครอบคลุมต้องมีวัคซีนให้ไทย โดยอาจนำวัคซีนแอสตร้าฯที่อยู่ในแหล่งผลิตอื่นส่งให้ไทยก็ได้ ดังนั้น ใครที่เคยระบุจะกดดันตนให้ลาออกหากไม่มีวัคซีนมาทันตามกำหนด ถ้ามีวัคซีนมาก็ขอให้คนที่ออกมากดดันตนลาออกด้วย
พร้อมชี้แจงว่าเงื่อนไขการตรวจสอบรับรองรุ่นการผลิตวัคซีนแอสตร้าฯ ไม่ได้ยุ่งยากเหมือนกับวัคซีนตัวอื่น เนื่องจากผลิตในไทย ผ่านการขึ้นทะเบียนแล้ว การตรวจสอบใช้เวลาเพียง 3-4 วัน หากมาในเดือนมิถุนายน ก็สามารถฉีดได้ทันตามกำหนด 7 มิถุนายน
นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ได้มีการหารือแล้วเช่นกันอยู่ระหว่างการร่างสัญญาการจัดซื้อ เนื่องจากการจัดซื้อวัคซีนในสถานการณ์ภาวะฉุกเฉินเช่นนี้ต้องทำอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอนและส่งร่างฯให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณา หากสำนักงานอัยการสูงสุดว่าผ่าน ก็เดินหน้าเซ็นสัญญาจัดซื้อจัดหาได้ ใช้เวลาประมาณอีก 1 เดือน จากนั้นในครึ่งปีหน้า ก็สามารถทยอยส่งวัคซีนไฟเซอร์ให้ไทย 20 ล้านโดสได้
ส่วนวัคซีนของซิโนฟาร์มอยู่ระหว่างขอขึ้นทะเบียนของ อย.โดยจะมีการหารือวันศุกร์ที่ 28 พ.ค.นี้.ส่วนเรื่องข้อกังวลเรื่องเข็มและไซริงค์ฉีดวัคซีนอาจไม่เพียงพอหากมีการปูพรมฉีด เพราะต้องใช้จำนวนมากนั้น เรื่องนี้ทางกรมควบคุมโรค ได้มีการจัดเตรียมสั่งซื้อเข็มฉีดยาแบบ Low Dead Space Syringes ด้วยไซริงค์พิเศษ ขนาด 0.5 ซีซี ไว้แล้ว