‘รัฐบาล’สรุปมาตรการแก้ หลังหมูแพงขึ้นต่อเนื่อง

'รัฐบาล'สรุปมาตรการแก้ หลังหมูแพงขึ้นต่อเนื่อง

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงแนวทางการแก้ปัญหาเนื้อหมูราคาแพง สืบเนื่องจากปริมาณสุกรที่ลดลง ต้นทุนการเลี้ยงสุกรปรับสูงขึ้น ส่งผลให้เนื้อหมูปัจจุบันมีราคาสูงมาก ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้หารือร่วมกัน และได้ข้อสรุป ดังนี้

1) มาตรการเร่งด่วน ได้แก่
-การห้ามส่งออกหมูมีชีวิตเป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.65 ถึง วันที่ 5 เม.ย. 65 เพื่อเพิ่มปริมาณเนื้อหมูภายในประเทศ และกระทรวงพาณิชย์จะพิจารณาตามสถานการณ์ว่าควรให้มีการต่ออายุหรือไม่ โดยจะมีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ตัวเลขเบื้องต้นในปี 2564 มีการเลี้ยงสุกรป้อนเข้าสู่ตลาด ประมาณ 19 ล้านตัว บริโภคในประเทศ 18 ล้านตัว ส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 1 ล้านตัว และคาดการณ์ว่าปี 2565 จะมีสุกรหายไปจากระบบ เหลือประมาณ 13 ล้านตัว จาก 19 ล้านตัว ซึ่งบริโภคในประเทศประมาณ 18 ล้านตัว ทำให้ขาดสุกรประมาณ 5 ล้านตัวสำหรับการบริโภค

-การช่วยเหลือด้านราคาอาหารสัตว์ โดยเฉพาะส่วนที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ เช่น การงดเว้นการเก็บค่าธรรมเนียมหรือภาษี การจัดสินเชื่อพิเศษของ ธ.ก.ส. เพื่อให้เกษตรกรที่สามารถปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขได้กลับมาเลี้ยงใหม่ในพื้นที่ความเสี่ยงต่อโรคระบาดต่ำ การตรึงราคาจำหน่ายที่เหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุนที่เกิดขึ้น

-การเร่งสำรวจภาพรวมสถานการณ์การผลิตสุกร เพื่อกำหนดพื้นที่เป้าหมายและมาตรการที่เหมาะสม พร้อมเพิ่มกำลังการผลิตแม่สุกรทดแทน โดยให้เกษตรกรใช้สุกรขุนตัวเมียมาใช้ทำพันธุ์ชั่วคราว เร่งรัดเจรจาฟาร์มรายใหญ่ในการกระจายพันธุ์และลูกสุกรขุนให้กับรายย่อยและเล็กที่ต้องการกลับเข้ามาสู่ระบบใหม่ กำหนดโซนเลี้ยงและออกมาตรการบังคับใช้อย่างเหมาะสมเพื่อควบคุมโรค และเร่งรัดการวิจัยพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค

2. มาตรการระยะสั้น ได้แก่ การส่งเสริมการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ การขยายกำลังผลิตแม่สุกร สนับสนุนศูนย์วิจัยและบำรุงสัตว์ ในสังกัดกรมปศุสัตว์และเครือข่ายคู่ขนานกับฟาร์มเกษตรกรและภาคเอกชน เร่งเดินหน้าการศึกษาวิจัยยาและสารกระตุ้นภูมิคุ้มกันเพื่อลดความสูญเสียจากโรคระบาด

3.มาตรการระยะยาว กระทรวงเกษตรฯจะผลักดันการยกระดับมาตรฐานฟาร์มของเกษตรกรเพื่อป้องกันโรคระบาด ส่งเสริมให้ปรับปรุงเป็นฟาร์มที่มีระบบการป้องกันโรคและการเลี้ยงสัตว์ที่เหมาะสม (GFM) มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ามาตรฐานฟาร์ม GAP ซึ่งจะเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรกลับมาเลี้ยงสุกรใหม่และเพิ่มปริมาณการผลิตหมูให้เพียงพอต่อความต้องการบริโภค ทั้งยังจะมีการสนับสนุนการเลี้ยงโดยจะมีสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กู้ยืมจาก ธ.ก.ส. ในโครงการสานฝันสร้างอาชีพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อยเพื่อช่วยเหลือให้เข้าถึงแหล่งสินเชื่อได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว รวมทั้งการรวมกลุ่ม สนับสนุน และหาตลาดในราคาที่เกษตรกรอยู่ได้อย่างดี

นางสาวรัชดา กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงต่อสถานการณ์ราคาเนื้อหมูภายในประเทศ และได้ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ต้องทำให้ครบตั้งแต่ต้นน้ำจนปลายน้ำ ซึ่งมาตรการทั้งสามระยะทีได้ข้อสรุปมานี้ เชื่อมั่นว่าจะทำให้ราคาเนื้อหมูกลับมาสู่ภาวะปกติได้อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ เพื่อการลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน และระยะยาว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทุกขนาด ให้กลับมาประกอบอาชีพ สามารถสร้างงาน สร้างรายได้ในครัวเรือน และสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับประเทศ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อนุทิน" รับคำขอโทษ "ผู้ว่าฯปราจีนบุรี" นำพวงมาลัยไหว้ ปมตั้งที่ปรึกษาต่างชาติ ลั่นจากนี้คงไม่มีใครทำอีก
2 พิธีกรดัง "ดำรง พุฒตาล-ต๊ะ นารากร" เข้าแจ้งความเอาผิด ผู้เกี่ยวข้อง "ตึกสตง."ถล่ม หวั่นเวลาผ่านไปเรื่องเงียบ
นักวิชาการกฎหมาย มองต่าง อธิบดีอัยการ ภาค 6 พลิกไม่สั่งฟ้อง "ดร.พอล" ถามกลับ ผตห.ทำผิดตาม “โครงสร้างความรับผิดทางอาญา” หรือไม่
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) โดรนพันลำโชว์เรื่องราว 'อวกาศจีน' กลางผืนฟ้า
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เซี่ยงไฮ้เปิดให้บริการทัวร์เฮลิคอปเตอร์ครั้งแรก
"ตำรวจพัทยา" ลุยกวาดล้างผู้ลักลอบขายน้ำกระท่อม ริมหาดจอมเทียน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) จีนเปิดตัวเครื่องซื้อขายทองคำอัตโนมัติที่ซูโจว
"กทพ." โร่ชี้แจงความจริง เหตุก้อนปูนตกใส่รถ บนถนนบางนา พร้อมกางหลักฐานฝีมือคนทำ
เหตุการณ์สุดสลด "พ่อพาลูก-หลาน" ไปเล่นน้ำชี สุดท้ายจมน้ำดับ 3 คน
"อุตุฯ" เตือน 43 จังหวัด โดนฝนถล่มหนัก-ลมกระโชกแรง กทม.ร้อยละ 40 ของพื้นที่ 

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น